ปรีวิวฟุตบอลโลก 2014

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี. นัดแรก)

วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2557

สเปน - ฮอลแลนด์

ถ่ายทอดสด:ช่อง 7,ทรูสปอร์ต เอชดี 3(668), ทรูวิชั่นส์99, ทรูวิชั่นส์37, Astro SuperSports, (เวลา: 02.00 น.)


สนาม: อาเรน่า ฟอนเต้ โนว่า, ซัลวาดอร์

 เกมรีแมตช์ของฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ ปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ ที่ สเปน เอาชนะฮอลแลนด์ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษคว้าแชมป์โลกไปครอง 

 "กระทิงดุ" ภายใต้การคุมทีมของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดก่อนลุยเวิลด์ คัพ หนนี้ ทำได้ดีทีเดียว เมื่อเอาชนะโบลิเวีย และ เอล ซัลวาดอร์ ด้วยสกอร์เท่ากันที่ 2-0 ทั้งสองเกม

 ข่าวดีของ เดล บอสเก้ จากเกมล่าสุดที่ชนะเอล ซัลวาดอร์ คือ ดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกเชื้อสายบราซิเลี่ยน สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาฟิตและลงสนามได้ถึง 74 นาที คาดว่าเจ้าตัวจะฟิตเต็มร้อยและเบียด ดาบิด บีย่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส และเชส ฟาเบรกาส ลงตัวจริงเกมนี้ทันที 

 ตำแหน่งที่ต้องต่อสู้กันสูสีที่สุดเห็นจะเป็นแบ็กขวา เพราะฆวนฟราน ตอร์เรส และเซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ต่างโชว์ผลงานได้ดีทั้งคู่ ซึ่งไม่ว่าเดล บอสเก้ จะเลือกใคร ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก

 การจัดทัพเกมนี้ นอกจากตำแหน่งแบ็กขวาดังกล่าว และศูนย์หน้าของ คอสต้า แล้ว พื้นที่อื่นๆ ยังคงเป็นตัวหลักหน้าเดิมๆ นำโดย อีเกร์ กาซียาส ผู้รักษาประตูกัปตันทีมยืนเฝ้าเสา แนวรับนำโดย เซร์คิโอ รามอส และเคราร์ด ปิเก้

 กลางสนาม ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ่ และเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ขณะที่ 3 ประสานแดนหน้า ริมเส้นใช้ ดาบิด ซิลบา กับ อันเดรียส อิเนียสต้า ทำให้โกเก้ และเปโดร โรดริเกซ ต้องรอโอกาสจากข้างสนามไปก่อน ส่วนหน้าเป้าเป็น คอสต้า

 ฟาก "ฟลายอิ้งดัตช์แมน" ของ หลุยส์ ฟาน กัล ว่าที่กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พาทีมเข้าสู่รอบสุดท้ายด้วยผลงานสุดหรูในรอบคัดเลือก ลงเล่น 10 นัด ชนะ 9 เสมอ 1 ไม่แพ้ใคร ยิงได้ถึง 34 ประตู และเสียไปแค่ 5 ประตูเท่านั้น คว้าแชมป์กลุ่มแบบสบายๆ

 ทว่า เมื่อดือนมีนาคมที่ผ่านมา "กังหันลม" กลับพ่ายฝรั่งเศส ในเกมอุ่นเครื่อง 0-2 แถมจากนั้นไม่กี่วัน เควิน สตรอทมัน มิดฟิลด์คนสำคัญก็เจ็บยาวชวดบอลโลก ทำให้ ฟาน กัล ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการเล่นจาก 4-3-3 มาเป็น 5-3-2

 หลังจากนั้นเกมอุ่นเครื่องทั้ง 3 นัด ภายใต้ระบบการเล่นใหม่ ถือว่าพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เกมแรกเสมอเอกวาดอร์ 1-1 จากนั้นเฉือนชนะกาน่า 1-0 ปิดท้ายด้วยชนะเวลส์ 2-0 ก่อนจะบินตรงสู่แดนแซมบ้า

 ข่าวร้ายของ ฟาน กัล ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ คือนอกจากจะไม่มี สตรอทมัน แล้ว ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท จอมทัพคนสำคัญอีกคนก็ได้รับบาดเจ็บพลาดฟุตบอลโลกไปอีกคน

 เกมนี้ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น นายทวารอาแจ็กซ์ ที่เป็นมือหนึ่งเกมอุ่นเครื่องตลอด 4 นัดหลังสุด จะยึดตัวจริงต่อเช่นเดิม ทำให้ ทิม ครูล และมิเชล ฟอร์ม 2 จอมหนึบรุ่นพี่ต้องนั่งสำรองตามระเบียบ

 แนวรับมี รอน ฟลาร์ ยืนประคองรุ่นน้อง กลางสนาม โจนาธาน เด กุซมัน น่าจะเบียด ยอร์ดี้ คลาซี่ย์ และลีรอย เฟอร์ ลงตัวจริงตัดเกมคู่กับ ไนเจล เดอ ยองก์ ส่วน เวสลี่ย์ สไนเดอร์ จะมีอิสระปั้นเกมรุกให้ คู่หูแดนหน้า อาร์เยน ร็อบเบน กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ล่าตาข่าย

 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

  สเปน(4-3-3): อีเกร์ กาซียาส - ฆวนฟราน ตอร์เรส (เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า), เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ - ดาบิด ซิลบา, ดีเอโก้ คอสต้า, อันเดรียส อิเนียสต้า

 ฮอลแลนด์ (5-3-2): ยาสเปอร์ ซิลลาสเซ่น - ดารีล ยานมัต, สเตฟาน เด ฟรีจ์, รอน ฟลาร์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, ดาลี่ย์ บลินด์ - ไนเจล เดอ ยองก์, โจนาธาน เด กุซมัน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์

  ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)

- นี่เป็นครั้งแรกที่สองทีมจากนัดชิงชนะเลิศโคจรมาพบกันในนัดแรกของทัวร์นา เมนต์ถัดมา ตั้งแต่ที่เยอรมันตะวันตกเอาชนะอาร์เจนตินา 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1990  (โดยก่อนหน้านั้นทั้งสองทีมเคยพบกันในนัดชิงชนะเลิศปี 1986)
- กระทิงดุปราชัยในเกมนัดแรกของฟุตบอลโลก 2010 ให้กับสวิตเซอร์แลนด์ แต่พวกเขาก็สร้างสถิติกลายเป็นทีมแรกที่คว้าคว้าแชมป์หลังจากปราชัยเกมเปิด สนาม
- บิเซนเต้ เดล บอสเก้ คุมทีมชาติสเปนแพ้เพียงแค่เกมเดียวจาก 25 นัดในฟุตบอลโลก ซึ่งรวมถึงรอบคัดเลือก (ชนะ 22 เสมอ 2) และนั่นคือแมตช์พบสวิตเซอร์แลนด์ (0-1) ในปี 2010
- ดาบิด บีย่า คือนักเตะสเปนที่ทำประตูได้มากที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (8 ประตู) และมีส่วนร่วมถึง 7 จาก 9 ลูกหลังสุดของสเปนในศึกเวิลด์ คัพ (6 ประตู, 1 แอสซิสต์)
- สเปนเก็บชัยได้ตลอด 6 นัดหลังสุดในศึกฟุตบอลโลก ซึ่งนั่นคือสถิติยอดเยี่ยมที่สุดของทีม แถมชัยชนะทั้ง 4 เกมหลังจบลงด้วยสกอร์ 1-0
- สเปนไม่เสียประตูตลอด 4 นัดหลังสุดในศึกฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นสถิติยาวนานสุดในเวลานี้ แต่ก็ยังเป็นรองอิตาลี (5 เกมในปี 1990) และสวิตเซอร์แลนด์ (5 เกมในปี 2006 กับ 2010)
- ฮอลแลนด์สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ตลอด 7 ครั้งหลังสุดที่ลุยฟุตบอลโลก
- โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นดาวซัลโวสูงสุดในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป (11 ประตู)
- สเปนและฮอลแลนด์มีสถิติเจอกันที่สูสีสุดๆ เมื่อต่างคว้าชัยได้ฝ่ายละ 4 และเสมอ 1 โดยกระทิงดุเป็นฝ่ายได้เฮในหนล่าสุด หลังเอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ในฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศ ปี 2010
- ทีมแชมป์เก่าสามารถคว้าชัยนัดเปิดสนามได้เพียงแค่ 3 จาก 10 หนหลังสุดในฟุตบอลโลก (เสมอ 4 แพ้ 3) โดยบอลโลกหนที่แล้วทีมแชมป์เก่าอย่างอิตาลีก็ทำได้เพียงเสมอปารากวัย 1-1
- สเปนเป็นทีมที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกด้วยการทำประตูได้น้อยที่สุดเพียง 8 ลูกต่อทัวร์นาเมนต์เท่านั้น
-ฮอลแลนด์มีเปอร์เซ็นชนะ 63 % เมื่อเล่นฟุตบอลโลกนอกทวีปยุโรป เปรียบเทียบกับการเล่นบนแผ่นดินยุโรปที่มีเปอร์เซ็นชนะ 42 %

อลอนโซ่เปรยลากระทิงจบบอลโลก

 ชาบี อลอนโซ่ กองกลางมากประสบการณ์ของ เรอัล มาดริด ออกมายืนยันตนจะตัดสินใจว่าจะอำลาการรับใช้ทีมชาติสเปน หรือไม่ หลังจากช่วยทัพ "กระทิงดุ" ในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายนถึงวันที่ 13 กรกฎาคมนี้

 มิดฟิลด์ "ราชันชุดขาว" ติดธงกระทิงดุมาแล้ว 110 เกม โดยเขาเป็นหนึ่งในขุนพลชุดที่คว้าแชมป์ยูโร 2008 และ 2012 รวมทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ด้วย โดย อลอนโซ่ ยอมรับว่าตนจะเกษียณตัวจากการรับใช้ชาติหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจหลังจาก จบมหกรรมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติที่ดินแดนแซมบ้า

 อดีตสตาร์ลิเวอร์พูล กล่าวว่า "ผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าผมจะเลิกเล่นให้ สเปน หรือไม่ ผมมีสมาธิอยู่กับการเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ และมันก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ว่าจะเป็นยังไง ผมจะตัดสินใจหลังจากนั้น ถ้าร่างกายของผมยังตอบสนอง และผมรู้สึกว่าผมอยากจะเล่นต่อไป จากนั้นผมก็จะรับใช้ชาติต่อ"

มาร์ติเนซยก3แนวรุกดัตช์สุดอันตราย
 

 ฆา บี มาร์ติเนซ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ออกมากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า เขาคิดว่า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อาร์เยน ร็อบเบน และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ 3 นักเตะตัวรุกทีมชาติฮอลแลนด์ คือผู้เล่นตัวอันตรายอย่างยิ่งสำหรับ "กระทิงดุ" ในการแข่งขันศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล

 สเปน จะฟาดแข้งกับ ฮอลแลนด์ ในนัดแรกของกลุ่ม บี วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ ซึ่งถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่นับตั้งแต่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ซึ่ง อันเดรส อิเนียสต้า พังประตูชัยให้ "กระทิงดุ" ในนาทีที่ 116 พร้อมคว้าแชมป์ไปครอง และ มาร์ติเนซ ก็เตือนเพื่อนร่วมทีมให้ระวังเพื่อนร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค รวมถึง ฟาน เพอร์ซี่ และ สไนเดอร์ ให้ดีด้วย

 "ตัวอันตรายที่สุดของพวกเขาคือ 3 นักเตะในแนวรุก ซึ่งล้วนเป็นผู้เล่นระดับโลก ร็อบเบน เก่งในเรื่องการหาพื้นที่และเราจะต้องระวังเอาไว้ให้ดี" มาร์ติเนซ กล่าว พร้อมพูดถึงจังหวะที่ปีกชาวดัตช์พลาดโอกาสพังประตูชัยในนัดชิงฟุตบอลโลก เมื่อ 4 ปีก่อนด้วย

 "เราพูดถึงมันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มันสร้างความเสียหายให้กับ ฮอลแลนด์ และตัวเขาเอง เราพูดถึงแมตช์นั้นและจังหวะหลุดไปดวลเดี่ยวกับ อีเกร์ กาซิยาส ก่อนนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 ผมได้บอกเขาว่าอย่าพลาดโอกาสที่จะแก้ตัวและเขาก็ทำได้สำเร็จ" มาร์ติเนซ กล่าว

ชาวแซมบ้าตะโกนด่าคอสต้าขณะลงซ้อม
 

 แฟนบอลชาวบราซิลกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ตะโกนต่อว่า ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้า แอตเลติโก มาดริด ทีมแชมป์ลา ลีกา สเปน ว่าเป็นคนทรยศ ระหว่างที่นักเตะลงฝึกซ้อมกับทีมชาติสเปน ที่ศูนย์ฝึกซ้อมในเมืองคูริติบา เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 ดาวยิงวัย 25 ปี เป็นชาวบราซิลโดยกำเนิด แต่เมื่อเขาเลือกเล่นให้ทัพ "กระทิงดุ" ในฟุตบอลโลก 2014 เขาจะต้องเผชิญกับความไม่พอใจของแฟนบอลแดนแซมบ้า และระหว่างลงฝึกซ้อมเมื่อวานนี้ เขาก็ได้ลิ้มรสสิ่งที่กำลังรอเขาอยู่ไปเล็กน้อยแล้ว หลังจากแฟนบอลกลุ่มหนึ่งตะโกนใส่เขาว่า "ไอ้คนทรยศ!"

 จูโกเนส รายการโทรทัศน์ของสเปน สามารถบันทึกภาพช่วงนี้ไว้ได้ โดยเสียงตะโกนมาจากแฟนบอลวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่จ่ายเงินเข้ามาชมการฝึกซ้อม ของทีมชาติสเปน และลองนึกภาพเวลาที่ คอสต้า เจอกับชาวบราซิลเป็นหมื่นๆ คนในสนาม โดยเฉพาะหากทัพ "ลา โรฆา" ได้โคจรไปเจอกับทัพ "เซเลเซา"

ขอบคุณคลิป : Youtube.com, By : MikhaylichenkoHD