คาริม เบนเซม่า ที่กำลังมั่นใจสุดๆ ซัด 2 ประตู ช่วยให้ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ถลุง ฮอนดูรัส ขาดลอย 3-0 ซิวสามคะแนนแรก แต่มีประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ การให้ประตูจากโกล์ไลน์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บอลโลก ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี นัดแรก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 ฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี นัดแรก
วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2557
ฝรั่งเศส 3-0 ฮอนดูรัส 

"เลส์ เบลอส์" ฝรั่งเศส เป็นไปตามคาดใช้ ปอล ป็อกบา และ คาริม เบนเซม่า ยืนคู่หน้า แต่ที่พลิกโผก็คือ อองตวน กรีซมันน์ ได้ลงเป็นตัวจริง แทน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ขณะที่ ฮอนดูรัส ส่ง แอนดี้ นาฮาร์ กับ หลุยส์ การ์ริโด้ เป็นหัวหอกคู่หวังสร้างเซอร์ไพรส์

 


 เขี่ยลูกเริ่มเล่นได้ 7 นาที ปาทริซ เอวร่า โดน ผู้ตัดสิน ซานโดร ริชชี่ แจกใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังจากตัดฟาวล์ แอนดี้ นาฮาร์ กองหน้า ฮอนดูรัส ในจังหวะสวนกลับเร็ว


 ผ่านมาถึงนาทีที่ 17 เริ่มเป็น ฝรั่งเศส ที่ครองเกมได้มากกว่า เกือบได้ จากจังหวะฟรีคิกริมเส้น ทางด้านขวา มาติเยอ วัลบูเอน่า โยนบอลตกพื้น ก่อนมาเข้าทาง แบลส มาตุยดี้ หวดด้วยซ้าย ระยะ 12 หลา บอลพุ่งเสียบใต้คาน แต่ โนเอล วัลลาดาเรส นายด่าน กัปตันทีม ฮอนดูรัส โชว์หนึบ บินปัดบอลชนคานออกหลังไปได้


 ถัดมาอีก 5 นาที ยังเป็น ตราไก่ ที่บุกอยู่ข้างเดียว แล้วก็ได้ลุ้นอีก โยอัน กาบาย ได้ซัดไกลนอกเขตโทษด้วยขา แต่บอลโดนไม่เต็ม เลยหลุดออกข้างไปไกล


 หนึ่งนาทีต่อมา "เลส์ เบลอส์" ได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ อองตวน กรีซมันน์ ขึ้นเบียดแนวรับ ฮอนดูรัส ก่อนโหม่งระยะ 6 หลา ชนคานเต็มๆ ชวดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย


 เขยิบมานาทีที่ 28 เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ห้องเครื่อง ฮอนดูรัส เข้าบอลหนัก แล้วย่ำ ปอล ป็อกบา บริเวณ หน้าแข้ง เจ้าตัว เลยยกเท้ายันเอาคืน เปาชาวบราซิล ต้องรีบห้ามปราม ไม่ให้ทั้งคู่มีเรื่องกัน ก่อนควักใบเหลืองเป็นของสมนาคุณทั้งคู่


 จากนั้นนาทีที่ 37 ฝรั่งเศส ได้ลุ้นอีก เมื่อ  มาตุยดี้ ได้โอกาส ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ทางด้านซ้าย แต่เจ้าตัวดันใจกว้าง ไม่ยอมยิงเอง เลยจ่ายไปติด กองหลัง ฮอนดูรัส แบบเสียของ


 นาทีที่ 41 ตราไก่ น่าได้ จากจังหวะการเปิดบอลยาว คาริม เบนเซม่า พักอก เอาบอลลงในเขตโทษ แล้วหันมองเพื่อนแล้วไม่เห็นใคร ก่อนเจ้าตัวจะซัดด้วยขวา ติดแนวรับ ฮอนดูรัส ออกหลัง


 และแล้ว "เลส์ เบลอส์" ก็เอาจนได้ เมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ไปกระแทกด้านหลัง ปอล ป็อกบา คู่กรณีเก่า ในเขตโทษ ซานโดร ริชชี่ ชี้มือไปที่จุดโทษทันที พร้อมแจกใบเหลือง-แดง ให้กับ กองกลาง ฮอนดูรัส ด้วย ก่อนเป็น เบนเซม่า ที่ยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด ฝรั่งเศส ขึ้นนำ 1-0


 ช่วงทดเวลา โยอัน กาบาย โดนใบเหลืองอีกคน เมื่อ ไปเข้าหนัก  โรเจอร์ เอสปิโนซ่า มิดฟิลด์ วีแกน แอธเลติก ของ ฮอนดูรัส ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้


 กลับมาเล่นครึ่งหลัง  หลุยส์ เฟร์นานโด ซูอาเรซ กุนซือ ฮอนดูรัส ปรับแท็กติก เปลี่ยนสองคนรวด เอา วิคเตอร์ เบร์นาร์เดซ กับ เจอร์รี่ เบงต์สัน ออก แล้วส่ง ออสมาน ชาเวซ  กับ ออสการ์ การ์เซีย ลงมาเล่นแทน


 5 นาทีถัดมา ตราไก่ นำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เบนเซม่า หัวหอก เรอัล มาดริด ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษไปชนเสา แล้วบอลกระดอนเร็ว โนเอล วัลลาดาเรส นายทวาร ฮอนดูรัส ที่เพิ่งหันกลับไปมอง โดนลูกบอลเด้งชนมือ เข้าไป ซึ่งประตูนี้เป็นการตัดสินให้ประตูด้วยโกล์ไลน์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บอลโลก อีกด้วย


 นาทีที่ 53 ออสการ์ การ์เซีย ผู้เล่น ฮอนดูรัส ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรอง โดนใบเหลืองอีกคน เมื่อไปเสียบสกัดหนัก ปาทริซ เอวร่า จากด้านหลัง จนเจ้าตัวร้องลั่น


 ขยับมาอีก 4 นาที ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์  เทรนเนอร์ "เลส์ เบลอส์" ถอด ปอล ป็อกบา ที่มีใบเหลืองติดตัวออก แล้วส่ง มูสซ่า ซิสโซโก้ นักเตะ นิวคาสเซิ่ล ลงมาขับเคลื่อนแดนกลาง


  2 นาทีให้หลัง หลุยส์ เฟร์นานโด ซูอาเรซ โค้ช ฮอนดูรัส เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง ฮอร์เก้ กลาโรส ลงมาเล่นแทน แอนดี้ นาฮาร์


 นาทีที่ 64 ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูที่สาม ปาทริซ เอวร่า ที่เติมเกมรุก แทงบอลให้ แบลส มาตุยดี้ วิ่งเข้าฮอสด้วยซ้ายระยะ 10 หลา บอลถากเสาแรกออกไปแบบได้เสียวสุดๆ


 นาทีต่อมา ตราไก่ เปลี่ยนคนที่สอง ส่ง ริโอ มาวูบา เข้า แล้วถอด โยอัน กาบาย ที่โดนใบเหลืองออก


 มาถึงนาทีที่ 72 สกอร์ไหลไปเป็น 3-0 เมื่อ ฝรั่งเศส ได้ฟรีคิก เกือบสุดเส้นหลัง มาติเยอ วัลบูเอน่า เล่นลูกสูตร จ่ายคืนหลังให้เพื่อนตะบันไกล ระยะ 20 หลา ติด แข้ง ฮอนดูรัส บอลมาเข้าทาง เบนเซม่า ในเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวแต่งเข้าขวา แล้วหวดแสกหน้า โนเอล วัลลาดาเรส อย่างเฉียบขาด พร้อมกับเป็นประตูที่สอง ของหอกราชันในเกมนี้


 ผ่านไปอีก 6 นาที ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ปรับทัพคนสุดท้าย ถอด มาติเยอ วัลบูเอน่า ออกไปพัก แล้วส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงมาสัมผัสเกม


 นาทีที่ 83 หลุยส์ การ์ริโด้ ศูนย์หน้า ของ ฮอนดูรัส โดน ซานโดร ริชชี่ จดชื่ออีกคน เมื่อ ไปย่ำหัวเข่า แบลส มาตุยดี้ อย่างน่าเกลียด ยังดีที่ไม่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นคนที่สองของเกม


 ในห้วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ฝรั่งเศส ถล่ม ฮอนดูรัส แบบไม่ไว้หน้า 3-0 ซิวสามคะแนนแรกได้สำเร็จ


รายชื่อ11ผู้เล่นที่ลงสนาม

 ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - มาติเยอ เดอบูชี่, ราฟาแอล วาราน, มามาดู ซาโก้, ปาทริซ เอวร่า - โยอัน กาบาย, แบลส มาตุยดี้ - มาติเยอ วัลบูเอน่า, อองตวน กรีซมันน์, ปอล ป็อกบา, คาริม เบนเซม่า


 ฮอนดูรัส : โนเอล วัลลาดาเรส (กัปตันทีม) - วิคเตอร์ เบร์นาร์เดซ, มายนอร์ ฟิเกรัว, เอมิลิโอ อิซากีร์เร่ - บรายัน เบ็คเคเลส, วิลสัน ปาลาซิออส, เจอร์รี่ เบงต์สัน, คาร์โล คอสต์ลี่, โรเจอร์ เอสปิโนซ่า - แอนดี้ นาฮาร์, หลุยส์ การ์ริโด้


 ผู้ตัดสิน : ซานโดร ริชชี่ (บราซิล)