"ติกอส" คอสตาริกา ยังเดินหน้าสร้างชื่ออีกหลังยันเสมอกับ อังกฤษ แบบไร้สกอร์ 0-0 ส่งผลให้มีเพิ่มเป็น 7 แต้มคว้าแชมป์กลุ่มผ่านเข้าไปเล่นรอบ16ทีมสุดท้าย ส่วน"สิงโตคำราม" อังกฤษ มีแต้มแรกตกรอบฟุตบอลโลก 2014 เมื่อคืนวันอังคารที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี)

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2557

คอสตาริกา 0-0 อังกฤษ

สนาม : เอสตาดิอู มิไนเรา, เบโล โอรีซอนชี

ทัพ "กล้วยหอม" คอสตาริกา วาง โจเอล แคมป์เบลล์ ลงล่าตาข่าย โดยมี ไบรอัน รุยซ์ คอยบัญชาเกมแดนกลาง ขณะที่ ฝั่ง "สิงโตคำราม" อังกฤษ ใช้ อดัม ลัลลาน่า, เจมส์ มิลเนอร์ และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ประสานในแนวรุก


 
 ครึ่งแรกเกมเริ่มมาได้แค่สองนาที คอสตาริกา ได้ทักทายก่อน โจเอล แคมป์เบลล์ ซัดนอกกรอบระยะกว่า 25 หลาบอลหลุดกรอบออกไปชนิดได้ลุ้น

 นาที 12 "สิงโตคำราม" ตั้งเกมขึ้นมาได้บ้าง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ไหลบอลต่อให้ แจ็ค วิลเชียร์ ได้สับไกนอกกรอบบอลถากเสาสองออกไปแบบได้เสียว

 นาที 23 โจเอล แคมป์เบลล์ ตะลุยพาดงแข้งอังกฤษก่อนโดนรวบระยะกว่า 30 หลา ผู้ตัดสินเป่าให้ฟาล์วและเป็น เซลโซ่ บอร์เกส อาสาปั่นฟรีคิกบอลโค้งข้ามกำแพงจะเสียบเสาสองอยู่แล้วแต่เป็น เบน ฟอสเตอร์ ที่ปัดบอลเช็ดคานออกหลังไป


 นาที 34 รอสส์ บาร์คลี่ย์ เปิดคอนเนอร์ลึกมาเสาสอง เจมส์ มิลเนอร์ โขกชงไปในกรอบ 6 หลา แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ตามชาร์ทบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

 นาที 42 อังกฤษ ได้ลุ้นอีกครั้งไอ้หนู รอสส์ บาร์คลี่ย์ ได้บอลในกรอบ 20 หลา ก่อนล็อคด้วยขวาและอัดด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบออกไป

 จบครึ่งแรก อังกฤษ ยังเสมอกับ คอสตาริกา 0-0


 เกมเข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง นาที 49 อังกฤษ เกือบได้เฮก่อนเมื่อ ฟิล โจนส์ แบ็กขวาได้ลุยขึ้นมาก่อนซัดไกลด้วยขวาบอลไปติดแนวรับคอสตาริกามาเข้าทาง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ไม่ล้ำหน้าแต่ดาวยิงจากลิเวอร์พูลจับบอลยาวไปเข้ามือ เคย์เลอร์ นาวาส
 
   นาที 53 รอสส์ บาร์คลี่ย์ ห้องเครื่องของอังกฤษโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม

   นาที 57 อดัม ลัลลาน่า ของสิงโตคำรามเจอใบเหลืองไปอีกรายหลังเข้าไปเสียบ ไบรอัน รุยซ์ ด้านหลัง

 นาที 58 อังกฤษตอบโต้ขึ้นมาทางด้านขวา ลัลลาน่า กระชากไปถึงเส้นหลังก่อนปาดมาหน้าปากประตู 6 หลาบอลจะถึง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ อยู่แล้วแต่ เคย์เลอร์ นาวาส นายทวารของคอสตาริกา ออกมาตัดบอลได้ทัน

   นาที 59 คอสตาริกา เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกส่ง คริสเตียน โบลาญอส เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งลงมาเล่นแทน รันดัลล์ เบรเนส


   นาที 60 จานคาร์โล กอนซาเลซ แนวรับคอสตาริกาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของทัพติกอสบ้าง

   นาที 62 รอย ฮ็อดจ์สัน เทรนเนอร์ของสิงโตคำรามแก้เกมบ้างส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงไปเล่นแทน อดัม ลัลลาน่า


 นาที 64 โอกาสของอังกฤษหลุดลอยไปอีกครั้งเมื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ แจ็ค วิลเชียร์ ก่อนที่บอลจะมาเข้าเท้าสเตอร์ริดจ์ยิงด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

   นาที 65 ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ เฮ้ดโค้ชของ "ติกอส" แก้เกมอีกครั้งเปลี่ยนตัวส่ง มาร์โก อูเรน่า ดาวยิงวัย 24 ปีลงไปเล่นแทน โจเอล แคมป์เบลล์


   นาที 73 ทัพสิงโตคำรามเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนที่สองส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงมาเล่นแทน แจ็ค วิลเชียร์


   นาที 76 อังกฤษเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง เวย์น รูนี่ย์ ลงมาเล่นแทน เจมส์ มิลเนอร์ 


   นาที 78 ฝั่งติกอสแก้เกมบ้างถอดเอา เซลโซ่ บอร์เกส ออกแล้วส่งตัวเก๋าอย่าง มิชาเอล บาร์รันเตส ลงไปเล่นแทน

 นาที 80 จังหวะยิงครั้งแรกของ เวย์น รูนี่ย์ เมื่อได้บอลนอกกรอบก่อนจะตัดสินใจชิพกว่า 25 หลาแต่บอลยังไม่ผ่านมือเคย์เลอร์ นาวาส ที่ปัดบอลออกหลังปัด

 นาที 89 ช่วงท้ายเกมอังกฤษโหมบุกหนักอีก คราวนี้มาได้ลูกฟรีคิก สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมวางบอลยาวมาในกรอบ เวย์น รูนี่ย์ โถมโขกบอลแต่ไม่โดนบอลหลุดหลังออกไปอย่างน่าเสียดาย

 จบการแข่งขัน...อังกฤษ ทำได้แค่เสมอกับ คอสตาริกา 0-0 คว้าแต้มแรกในฟุตบอลโลก 2014 แต่ไม่เพียงพอตกรอบแรกด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม ขณะที่ "ติกอส" คอสตาริกา มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน และไม่แพ้ทีมใดในกลุ่ม ดี ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

  คอสตาริกา (5-4-1) : เกย์ลอร์ นาบาส, คริสเตียน กัมบัว, ออสการ์ ดูอาร์เต้, จานคาร์โล กอนซาเลซ, รอย มิลเลอร์, จูเนียร์ ดิอาซ, ไบรอัน รุยซ์, เซลโซ่ บอร์เคส, เยลต์ซิน เตฮาด้า, แรนดอลล์ เบรเนส, โจเอล แคมป์เบลล์

  เทรนเนอร์ : ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ 

  อังกฤษ (4-3-3) : เบน ฟอสเตอร์, ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์, ลุค ชอว์, แจ็ค วิลเชียร์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รอสส์ บาร์คลี่ย์, อดัม ลัลลาน่า, เจมส์ มิลเนอร์, แดเนียล สเตอร์ริดจ์

  เทรนเนอร์ : รอย ฮ็อดจ์สัน

 

ผู้ตัดสิน : ฌาเมล ไฮมูดี้ (แอลจีเรีย)