แอลจีเรีย สร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก หลังเสมอกับ รัสเซีย 1-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 แต้ม ผ่านเข้ารอบเป็นที่สองของกลุ่ม ในฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช.
วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2557
แอลจีเรีย 1-1 รัสเซีย

สนาม : อาเรน่า ดา ไบชาดา, กูริติบา

       เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 6 นาที ทีมหมีขาวได้ประตูออกนำเร็วจากจังหวะที่ ดมิทรี คอมบารอฟ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์ โคโคริน เทกตัวโขกเสียบสามเหลี่ยมอย่างเด็ดขาด รัสเซีย ขึ้นนำ 1-0

      นาทีที่ 14 หลังเสียประตู แอลจีเรีย เริ่มทำเกมบุกเข้ากดดันมากขึ้น โซฟิยาน เฟอกูลี่ พาบอลเข้าเขตโทษก่อนเปิดบอลไปที่เสาแรกให้ ยาซีน บราฮิมี่ แต่ อิกอร์ อากินเฟเยฟ ออกมาตัดบอลไว้ได้

      นาที 19 รัสเซียเกือบได้เพิ่ม อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ โยนบอลไปเข้าหัว อเล็กซานเดอร์ โคโคริน ได้โหม่งในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แต่บอลเข้าข้างตาข่าย

      นาทีที่ 25 รัสเซีย ได้โอกาสอีกจากลูกยิงระยะ 20 หลาของ โอเล็ก ชาตอฟ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป

      นาทีที่ 29  แอลจีเรีย มาได้ลูกเตะมุม อิสลาม สลิมานี่ ได้โหม่งเต็มๆบอลพุ่งจะเสียบใต้คาน แต่ อิกอร์ อากินเฟเยฟ ยังไวพุ่งปัดไว้ได้มือเดียว

       นาทีที่ 40 เดฌาแมล เมสบาห์ โดนใบเหลืองหลังไปเจตนาดึง อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ กองหน้าของรัสเซียที่เลี้ยงบอลผ่านไปแล้ว

      นาทีที่ 43 แอลจีเรีย ได้ลุ้นจากเตะมุมอีกครั้ง ยาซีน บราฮิมี่ เปิดบอลยาวเข้าไปหน้าเขตโทษ อิสลาม สลิมานี่ ขึ้นโขกเต็มหัวแต่บอลไปตรงตัว อิกอร์ อากินเฟเยฟ รับเข้าซองได้ไม่มีปัญหา

      หมดครึ่งเวลาแรก รัสเซีย เป็นฝ่ายขึ้นนำ แอลจีเรีย 1-0

       กลับมาเล่นครึ่งหลัง ทีมหมีขาวเปลี่ยนตัวทันทีโดยส่ง อีกอร์ เดนิซอฟ ลงสนามไปแทน เดนิส กลูชาคอฟ

      นาทีที่ 47 รัสเซียเกือบได้ประตูหนีห่าง อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ ทำชิ่งกับ อเล็กซานเดอร์ โคโคริน ก่อนได้หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรกแต่ ราอิส เอ็มโบลี่ ออกมาบล็อกลูกยิงได้ทัน

       นาทีที่ 57 ดมิทรี คอมบารอฟ แบ็กซ้ายของรัสเซีย รับใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ โซฟิยาน เฟอกูลี่

       นาทีที่ 59 อเล็กเซ คอซลอฟ โดนใบเหลืองอีก จากการไปเข้าหนักใส่ ยาซีน บราฮิมี่

       และจากลูกฟรีคิกริมเส้น นาทีที่ 60  ยาซีน บราฮิมี่ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ อิสลาม สลิมานี่ ขึ้นโขกตัดหน้า อิกอร์ อากินเฟเยฟ ที่ออกมาตัดบอลพลาดส่งบอลตุงตาข่าย แอลจีเรีย ตามตีเสมอเป็น 1-1

       นาทีที่ 67 รัสเซียเปลี่ยนเอา โอเล็ก ชาตอฟ ออกและส่ง อลัน ซาโกเยฟ ลงเล่นแทน

      นาทีที่ 70 รัสเซียได้โอกาสอีกครั้ง อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ จ่ายบอลให้ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาในกรอบเขตโษแต่  ราอิส เอ็มโบลี่ พุ่งเซฟไว้ได้

        นาทีที่ 71 แอลจีเรีย เปลี่ยนเอา ยาซีน บราฮิมี่ ออกและส่ง ฮัสซัน เย็บดา ลงสนามไปแทน

       นาทีที่ 76 แอลจีเรีย เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยส่ง นาบิล ชีลาส ลงไปเล่นแทน อับเดลมูเมเน่ ฌาบู

       นาทีที่ 81 ฟาบิโอ คาเปลโล่ เทรนเนอร์ของรัสเซีย ตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนรสุดท้ายโดยส่ง มัคซิม คานุนนิคอฟ ลงไปแทน อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ

       นาทีที่ 87 นาบิล ชีลาส โดนใบเหลือง หลังไปทำฟาวล์ใส่ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ

      นาทีที่ 89 ทีมหมีขาวได้ลูกเตะมุม อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ เปิดบอลเข้าไปหน้าเขตโทษ อเล็กเซ คอซลอฟ เติมขึ้นสูงมาโหม่งแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป

       ช่วงทดเวลา แอลจีเรีย เปลี่ยนตัวส่ง เอล อาร์บี ฮิลเลล ซูดานี่ ลงไปแทน อิสลาม สลิมานี่

       ลิยาสซีน กาดามูโร่ ตัวสำรองข้างสนามของ แอลจีเรีย  รับใบเหลือง หลังไปเตะบอลทิ้งเพื่อถ่วงเวลา

      หมดเวลาการแข่งขัน รัสเซีย ทำได้แค่เสมอกับ แอลจีเรีย 1-1 ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ ส่วน แอลจีเรีย สร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก

 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
         แอลจีเรีย (4-5-1) : ราอิส เอ็มโบลี่ - เอสซา ม็องดี้, ราฟิค ฮัลลิเช่ (กัปตันทีม), เอสซาอิด เบลคาเล็ม, คาร์ล เม็ดฌานี่ - เดฌาแมล เมสบาห์, นาบิล เบนทาเล็บ, อับเดลมูเมเน่ ฌาบู, ยาซีน บราฮิมี่, โซฟิยาน เฟอกูลี่ - อิสลาม สลิมานี่
         รัสเซีย (4-4-2) :อิกอร์ อากินเฟเยฟ - อเล็กเซ คอซลอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ (กัปตันทีม), ดมิทรี คอมบารอฟ - เดนิส กลูชาคอฟ, วิคเตอร์ ฟายซูลิน, อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, โอเล็ก ชาตอฟ - อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ, อเล็กซานเดอร์ โคโคริน
         ผู้ตัดสิน : กูเนต ชาเคียร์ (ตุรกี)