พลพรรค "ตราไก่" ฝรั่งเศส ที่คุมทัพโดย ดิดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ ทำผลงานในรอบแรกได้ดี เกมนี้ยังเล่นในระบบ 4-3-3 มี โยอัน กาบาย กับ ปอล ป็อกบา ลงคุมเกมแดนกลาง ส่วนแนวรุกวาง มาติเยอ วัลบูเอน่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คาริม เบนเซม่า ลงทะลวงประตู ส่วนด้าน ทีม "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย เกมนี้สภาพทีมไม่พร้อมเท่าไหร่ โดยยืนระบบ 4-3-3 มี จอห์น โอบี มิเกล, อาเหม็ด มูซ่า ลงคุมทัพแดนกลาง โดยใช้ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้, เอ็มมานูเอล อเมนิเก้, วิคเตอร์ โมเสส ลงเล่นเป็น 3 ประสานแดนหน้า

　　เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 5 นาที ฝรั่งเศสได้โอกาสก่อนเลย จากลูกเตะมุม มาติเยอ วัลบูเอน่า วางบอลเข้าไปหน้าประตู โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ได้โหม่งแต่บอลข้ามคานออกไป

　　นาทีที่ 18 แฟนบอลไนจีเรียเฮเก้อ เมื่อ เอ็มมานูเอล อเมนิเก้ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

　　นาทีที่ 22 ทีมตราไก่เกือบได้เฮ มาติเยอ วัลบูเอน่า เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ปอล ป็อกบา ยิงด้วยขวาเต็มข้อแบบไม่ต้องจับ แต่บอลไปตรงตัว วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ทุบทิ้งออกมาได้

　　นาทีที่ 30 อินทรีมรกต ทำเกมบุกโต้กลับมาบ้าง เอ็มมานูเอล อเมนิเก้ ผ่านบอลให้  ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ได้ยิงด้วยขวาแต่บอลหลุดกรอบออกไป

　　นาทีที่ 40 ฝรั่งเศส ที่ครองบอลบุกอย่างต่อเนื่องได้ลุ้นอีกครั้ง มาติเยอ วัลบูเอน่า พาบอลขึ้นมาก่อนไหลเข้ากลางไปหน้าประตูให้ มาติเยอ เดอบูชี่ ได้ซัดด้วยขวาแต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

　　นาทีที่ 44 ไนจีเรีย ได้ลุ้นจากลูกยิงไกลระยะ 18 หลา เต็มข้อของ เอ็มมานูเอล อเมนิเก้ แต่ อูโก้ โยริส ไม่พลาดปัดเอาไว้ได้

　　หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0

　　กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกแลกกันเหมือนเดิม แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์

   นาทีที่ 54 แบลส มาตุยดี้ รับใบเหลืองคนแรกของเกมหลังไปเสียบหนักใส่ โอเกนยี โอนาซี่

   และจากจังหวะดังกล่าว โอเกนยี โอนาซี่ เจ็บหนักจนเล่นต่อไม่ไหว สตีเฟ่น เคชี่ กุนซือของทีมเลยต้องเปลี่ยนเอา รูเบน เกเบรียล ลงเล่นแทนในนาทีที่ 61

   นาทีที่ 63 ดิดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ เทรนเนอร์ของฝรั่งเศส ตัดสินใจส่ง อ็องตวน กรีซมันน์ ลงสนามไปแทน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

　　นาทีที่ 64 อินทรีมรกต เกือบได้ประตูจากลูกยิงหน้าเขตโทษของ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ แต่ อูโก้ โยริส ยังไวพุ่งปัดเอาไว้ได้

　　นาทีที่ 68 ทัพตราไก่เกือบได้เฮ คาริม เบนเซม่า ทำชิ่งกับ อ็องตวน กรีซมันน์ ก่อนหลุดเข้าไปยิงติดตัว วินเซนต์ เอ็นเยียม่า บอลกระดอนมาโดน เบนเซม่า กลิ้งเข้าหาประตู แต่ วิคเตอร์ โมเสส ตามมาเตะทิ้งได้ทัน

　　ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายครองเกมบุกได้ต่อเนื่อง นาทีที่ 77 โยอัน กาบาย ได้ยิงซ้ำระยะ 18 หลา จากลูกเตะสกัดของแนวรับไนจีเรีย แต่บอลพุ่งชนคานกระดอนออกมา

   หลังพยายามอยู่นาน นาทีที่ 80 จากลูกเตะมุม มาติเยอ วัลบูเอน่า เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ออกมาตัดบอลพลาด บอลเลยไปเสาสองให้ ปอล ป็อกบา โหม่งโล่งๆตุงตาข่าย ฝรั่งเศส ขึ้นนำ 1-0

　　นาทีที่ 84 ทีมตราไก่ยังไม่เพลาเกมบุก แบลส มาตุยดี้ วางบอลยาวให้ อ็องตวน กรีซมันน์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายเต็มๆ แต่ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า โชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดมือเดียวออกหลังไปได้

   นาทีที่ 89 ไนจีเรีย เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยถอดเอา วิคเตอร์ โมเสส ออกและส่ง อูเช่ เอ็นโวฟอร์ ลงสนามแทน

   นาทีที่ 90 ฝรั่งเศสมาได้ประตูเพิ่มจากลูกเตะมุม มาติเยอ วัลบูเอน่า เล่นสั้นกับ คาริม เบนเซม่า ก่อนเปิดเรียดเข้าไปที่เสาแรก อ็องตวน กรีซมันน์ เช้าชาร์จไม่โดน บอลเลยไปโดนขา โจเซป โยโบ เข้าประตูตัวเอง ฝรั่งเศส หนีห่างเป็น 2-0

   ช่วงทดเวลานาทีที่ 4 ทีมตราไก่เปลี่ยนเอา มาติเยอ วัลบูเอน่า ออกและส่ง มูสซ่า ซิสโซโก้ ลงเล่นแทน

　　หมดเวลาการแข่งขัน ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายเอาชนะ ไนจีเรีย ไปได้ 2-0 ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ


รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
　　ฝรั่งเศส (4-3-3) : อูโก้ โยริส,  มาติเยอ เดอบูชี่, ราฟาแอล วาราน, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, ปาทริซ เอวร่า, โยอัน กาบาย, แบลส มาตุยดี้,  ปอล ป็อกบา, มาติเยอ วัลบูเอน่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คาริม เบนเซม่า 
 เทรนเนอร์ : ดิดีเย่ร์ เดส์ช็องส์

　　ไนจีเรีย (4-3-3) : วินเซนต์ เอ็นเยียม่า,  เอเฟ่ อัมโบรส, โจเซป โยโบ, เคนเน็ธ โอเมรูโอ, จูวอน โอชานิว่า, โอเกนยี โอนาซี่, จอห์น โอบี มิเกล, อาเหม็ด มูซ่า, ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้, เอ็มมานูเอล อเมนิเก้ , วิคเตอร์ โมเสส
 
　　เทรนเนอร์ : สตีเฟ่น เคชี่

　　ผู้ตัดสิน : มาร์ค ไกเกอร์ (สหรัฐอเมริกา)