7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >
  • หน้าแรก
  • นักเตะ
  • ข่าว
  • รูปภาพ
  • สถิติข้อมูล
  • วิเคราะห์
  • การแข่งขันถัดไป

นักเตะหลัก
เซอร์ดาน ชากิรี (บาเยิร์น มิวนิค)

ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
รอบก่อนรองชนะเลิศ (1934, 1938, 1954)

หลังจากถูกจับให้อยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสเปิดกว้าง สวิตเซอร์แลนด์ก็สามารถจองตั๋วสู่บราซิลได้ตั้งแต่ในนัดรองสุดท้ายของรอบคัดเลือก สิ่งสำคัญที่มีผลทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้อย่างง่ายดายก็คือประสบการณ์ของโค้ช อ๊อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ ผู้ที่เข้ามาวางแท็กติกให้ทีมแดนนาฬิกามีทั้งความแข็งแกร่ง และความหลากหลายมากขึ้น พวกเขาเสียไปเพียง 6 ลูกจาก 10 เกมที่เล่นในรอบแบ่งกลุ่ม โดย 4 ประตูในนั้นมาจากเกมเกมเดียวที่เปิดบ้านเสมอไอซ์แลนด์ดุเดือด

ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ฮิทซ์เฟลด์ได้ไปฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่สอง ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2008 โดยในศึกเวิลด์ คัพ ที่แอฟริกาใต้ ยอดกุนซือชาวเยอรมันสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการพาทีมพลิกชนะสเปน ทีมแชมป์ของรายการ 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะไม่เพียงพอต่อการผ่านเข้ารอบต่อไปก็ตาม ผลงานของสวิตเซอร์แลนด์ในเกมอุ่นเครื่องเป็นสิ่งช่วยยืนยันว่าชัยชนะในครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องฟลุก จากการที่พวกเขาทั้งชนะเยอรมัน 5-3 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2012 และปราบบราซิล 1-0 เดือนสิงหาคม 2013

ฟอร์มที่แข็งแกร่งเหล่านั้นเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีสำหรับทีมที่เคยเป็นขาประจำในฟุตบอลโลก ถึงขั้นผ่านเข้ารอบ 6 จาก 7 ครั้งระหว่างปี 1934 ถึง 1966 ทีมชุดนี้มีนักเตะชื่อดังที่เล่นในลีกชั้นนำของยุโรปเป็นกำลังหลักหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ดาน ชาคิรี่ ปีกตัวจี๊ดจากบาเยิร์น มิวนิค, โกคาน อินเลอร์ กองกลางนาโปลี และ สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ แบ็กขวายูเวนตุส ยิ่งการมีฮิทซ์เฟลด์คุมทีมด้วยแล้ว แฟนบอลชาวสวิสอาจจะฝันถึงครั้งที่ทีมไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ในเวิลด์ คัพ 1954 ที่บ้านตัวเองได้เลย

กุนซือ อ๊อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์

เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ถือเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงของยุโรป จากการพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1997 และกับบาเยิร์น มิวนิค ในรายการเดียวกัน ปี 2001 เขาได้รับแต่งตั้งให้มาคุมทีมสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2008 ก่อนพาทีมไปฟุตบอลโลก 2010 สำเร็จ

นักเตะ