สิงโตเจาะไม่เข้า!บุกเจ๊ายูเครน0-0นำฝูงกลุ่ม
11/09/2013 By siamsport "สิงโตคำราม" อังกฤษ ทำได้เพียงบุกไปเสมอ ยูเครน เจ้าบ้านแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม แต่อย่างไรก็ตาม อังกฤษ ยังคงมีแต้มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกโซนยุโรป (กลุ่ม เอช.) เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอลโลก 2014
รอบคัดเลือกโซนยุโรป (กลุ่ม เอช.)
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556
ยูเครน 0 - 0 อังกฤษ
สนาม : เอ็นเอสเค โอลิมปิสกี้ , เคี๊ยฟ
ยูเครนโชว์ฟอร์มนัดก่อนได้สวยด้วยการเปิดบ้านยำใหญ่ซาน มาริโน่ 9-0 และจะกระโดดจากอันดับสามแซงทั้งมอนเตเนโกรและอังกฤษเป็นจ่าฝูงหากกำชัยได้ในเกมนี้
ส่วนทีมเมืองผู้ดีซึ่งเกมที่แล้วเมื่อวันศุกร์เล่นในเวมบลีย์พิชิตมอลโดว่า 4-0 เปลี่ยนโผรายเดียวเท่านั้นโดยรอย ฮ็อดจ์สันเลือกใช้งานเจมส์ มิลเนอร์เน้นรัดกุมแทนที่แดนนี่ เวลเบ็คกองหน้าที่ติดโทษแบนจากการสะสมสองใบเหลือง
ขณะเดียวกัน แฟร้งค์ แลมพาร์ดก็ฉลองการติดธงเป็นเกมที่ 100 และเป็นขุนพลสิงโตคำรามรายที่แปดที่รับใช้ชาติถึงหลักร้อยนัด
เจ้าบ้านเปิดฉากลุยทันที แต่นาทีที่ 3 โดนทีมเยือนโต้เร็วขึ้นกราบขวาแล้วธีโอ วัลค็อตต์หลุดเข้าเขตโทษไปซัดโดนอังเดร ปียาตอฟปรี่ออกมาบล็อคสำเร็จพร้อมโดนดาวเตะอาร์เซน่อลพุ่งชนจนล้มเจ็บหน้าอก แต่หลังได้รับการพยาบาลในสนามสักพักก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้
เกมส่วนใหญ่เป็นไปอย่างคู่คี่ผลัดกันรุกรับ แต่โอกาสจะแจ้งยังไม่มีทั้งคู่
ล่วงเข้าสู่ครึ่งชั่วโมง สิงโตคำรามเริ่มจับจังหวะได้ แต่มักเสียการครองบอลในจังหวะสุดท้าย กระทั่งนาทีที่ 33 มิลเนอร์ก็ผ่านบอลให้สตีเว่น เจอร์ราร์ดยิงปั่นโค้งข้ามคาน
อังกฤษเน้นจ่ายบอลให้วัลค็อตต์อาศัยความเร็วลากทะลุทะลวงมากขึ้นโดยมีแจ็ค วิลเชียร์เพื่อนร่วมสังกัดหาช่องประสานงานเป็นระยะ
กระทั่งนาทีที่ 41 เจอร์ราร์ดก็จ่ายบอลพลาดโดนเยฟเฮน โคโนปลิยันก้าแย่งได้แล้วไหลเข้าเขตโทษสวย แต่โรมัน โซซูลย่าจับบอลแรกไม่ได้ เลยชวดสับไกโดนฟิล จากิลก้าตามมาฉกคืนไปให้โจ ฮาร์ทได้สำเร็จ
ถัดมาในนาทีที่ 44 อังกฤษได้ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาจากจังหวะที่โอเล็ก กูเซฟหวดวิลเชียร์ร่วง และเป็นแลมพาร์ดที่วิ่งเข้ากดกระทบกำแพงออกเส้นหลัง
จากลูกเตะมุมที่เจอร์ราร์ดสาดเข้าไปก็ไม่ดีพอ ถูกโอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์เคลียร์ทิ้งได้ จบครึ่งแรกสกอร์ยังนิ่งที่ 0-0
เริ่มครึ่งหลังยูเครนชิงจังหวะกดดันใส่อังกฤษก่อนอีกรอบ แต่ยังไม่มีพิษสงในการหาโอกาสสอยตาข่าย
จากนั้นถึงนาทีที่ 61 โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์กัปตันเจ้าบ้านก็ได้ใบเหลืองเป็นรายแรกข้อหาหวดใส่วัลค็อตต์จากด้านหลังน่าเกลียดจนสตาร์ผิวสีล้มเจ็บต้องถูกประคองออกไปปฐมพยาบาลริมสนามก่อนกลับมาบู๊ต่อได้
ในที่สุด นาทีที่ 68 สิงโตคำรามก็เปลี่ยนแอชลีย์ ยังลงเล่นแทนวิลเชียร์ พร้อมกับที่ยูเครนใช้งานโรมัน เบซุสแทนโอเล็ก กูเซฟ
ล่วงมาอีกสองนาที ไคล์ วอล์คเกอร์ไปกระแทกโซซูลย่าล้มก่อนหลุดเข้าเขตโทษจึงได้ใบเหลือง และเป็นโคโนปลิยันก้าที่ปั่นฟรีคิก 18 หลาแฉลบกำแพงเฉี่ยวเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 74 จากลูกเตะมุมด้านขวาของเจ้าบ้าน อาร์เต็ม เฟเด็ดสกี้ก็ได้โขกจากหกหลากดลงพื้น แต่บอลกระดอนไปเข้าซองฮาร์ทพอดี
ท้ายเกมยูเครนโหมบุกหมายถลกหนังสิงโตคำรามให้ได้ กระทั่งนาทีที่ 88 วัลค็อตต์ก็ถูกถอดออกโดยมีทอม เคลฟเวอร์ลีย์ได้ลงบู๊
นาทีสุดท้าย ยูเครนใช้งานเยฟเฮน เซเลซนอฟแทนโซซูลย่า และตามด้วยการเปลี่ยนดมิโทร คอมเชนอฟสกี้แทนอังเดร ยาร์โมเลนโก้ในช่วงทดเวลาเจ็บ แต่ก็ไม่อาจล้มทีมเยือนได้อยู่ดี จบเกมทั้งคู่จึงเสมอกันไป 0-0 ทำให้อังกฤษนำหน้าเป็นจ่าฝูงโดยมีแต้มมากกว่ามอนเตเนโกรหนึ่งแต้ม
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3