ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์ที่บราซิลจะเริ่มต้นขึ้น เราขอพาย้อนกลับไปดูผลงานของเอเชียในฟุตบอลโลกในครั้งที่ผ่านมา ลองดูว่าตัวแทนของทวีปเราฝากอะไรให้โลกได้จดจำไว้บ้าง

โดย อาฟีฟะห์ อาริฟฟีน| โกล สิงคโปร์

เอเชียชาติแรกในฟุตบอลโลก

แม้จะเป็นที่รู้จักในชื่อของ ดัตช์ อีสต์ อินดีส์ ก่อนสงครามโลก แต่อินโดนีเซียก็ถือเป็นชาติแรกของเอเชียที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลกได้สำเร็จ ในทัวร์นาเมนต์ที่ฝรั่งเศสเมื่อปี 1938 โดยทีมชุดนี้คุมทัพโดย โจฮาน มาสเทนเบิร์ก และใช้ผู้เล่นท้องถิ่นชาวอินโดนีเซียเกือบทั้งทีม พร้อมด้วยนักเตะดัตช์อีก 2 คน

แต่อินโดนีเซียก็ไปได้ไกลที่สุดแค่เพียงรอบแรกหลังพ่ายให้กับ ฮังการีอย่างยับเยิน 0-6 ในสมัยที่ฟุตบอลโลกกลับไปใช้ระบบน็อคเอาท์ตั้งแต่รอบแรก ก่อนที่ในครั้งนั้นอิตาลีจะเป็นผู้คว้าแชมป์ไปได้ ป้องกันแชมป์เมื่อ 4 ปีก่อนได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากนั้น ทีมจากเอเชียก็ต้องรอถึง 16 ปีกว่าจะกลับเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกได้อีกครั้ง

ประตูแรกของเอเชียในเวิลด์คัพ

พาร์ค ซึงซิน จารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะสัญชาติเอเชียที่สามารถเบิก ประตูได้ในฟุตบอลโลก ในการแข่งขันที่อังกฤษในปี 1966   พาร์ค ผู้เป็นส่วนหนึ่งของตำนานทีมชาติเกาหลีเหนือที่สร้างความตกตะลึงให้กับทั่ว โลก(ที่กำลังจะกล่าวต่อไป)ในเกมพบกับอิตาลีและโปรตุเกสภายใต้การนำทีมของยู เซบิโอ

ในเกมนัดที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม เกาหลีเหนือถูกชิลีออกนำไปก่อน 1-0 จากจุดโทษของ รูเบน มาร์กอสในนาทีที่ 26 แต่ก่อนหมดเวลาเพียง 2 นาที หัวหอกของเกาหลีเหนือก็มาช็อคคนทั้งโลกหลังซัดประตูตีเสมอแบ่งแต้มให้ทีมได้ สำเร็จ

เกาหลีเหนือช็อคอัซซูรี

ฟุตบอลโลก 1966 บนผืนแผ่นดินอังกฤษ กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำให้เกาหลีเหนือเป็นที่รู้จัก หลังสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ พร้อมเขี่ยยักษ์ใหญ่อย่างอิตาลีตกรอบ

ชัยชนะ 1-0 เหนือยอดทีมจากยุโรปที่อายร์ซัม พาร์ค กลายเป็นเรื่องพลิกความคาดหมายที่สุดที่เกิดขึ้นจากทีมของเอเชีย โดยชัยชนะในนัดนี้ยังทำให้พวกเขากอดคอสหภาพโซเวียตผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้

แต่ ท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำได้ดีที่สุดแค่เพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ หลังพ่ายให้กับโปรตุเกสในเกมสุดมันที่มีการทำประตูกันอย่างสนุก ทีมรองบ่อนจากเอเชียออกนำไปก่อนถึง 3-0 ตั้งแต่ 30 นาทีแรก แต่สุดท้ายก็พ่ายไปด้วยสกอร์ 5-3

สุดยอดประตูโซโลของสะอิ๊ด โอไวย์ราน

ซาอุดิอาระเบียผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนที่พวกเขาจะต้องลงเล่นนัดชี้ชะตาการเข้ารอบในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับ เบลเยียมในวันที่ 29 มิถุนายน ที่วอชิงตัน ดีซี

เริ่มเกมมาได้ไม่ นาน สะอิ๊ด โอไวย์ราน หัวหอกของซาอุดิอารเบียก็รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมบริเวณหน้าปากประตูของตัว เอง แล้วพาบอลเลี้ยงเดี่ยวแหวกผู้เล่นของเบลเยียมในสไตล์ของมาราโดนา ก่อนล้มตัวจะยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปเป็นประตูชัยให้กับทีม กลายเป็นหนึ่งในประตูอันน่าจดจำของฟุตบอลโลก

และด้วยชัยชนะในนัดนี้ ทำให้ "เหยี่ยวมรกต" ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปพร้อมกับฮอลแลนด์ได้สำเร็จ และจากประตูดังกล่าวยังทำให้ โอไวย์ราน ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเอเอฟซีอีกด้วย

ฟุตบอลโลกครั้งแรกบนผืนแผ่นดินเอเชีย

ฟุตบอลโลกได้จัดขึ้นบนผืนแผ่นดินเอเชียเป็นครั้งแรกในปี 2002 หลังเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพร่วมในลำดับที่ 17 ของทัวร์นาเมนต์

ทว่าการตัดสินใจของฟีฟ่าในการให้สองประเทศจัดการ แข่งขันร่วมกันใช่ว่าจะไม่มีเสียงคัดค้าน ในตอนแรก ทั้งสองชาติต่างแยกกันเสนอเป็นเจ้าภาพ แต่ภายหลังพวกเขาก็ตัดสินในร่วมมือกัน ก่อนที่จะได้รับเลือกอย่างเอกฉันท์เหนือเม็กซิโก

ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่มีเจ้าภาพร่วมกัน และเป็นครั้งสุดท้ายที่ใช้กฎประตูโกลเด้นโกลอีกด้วย ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีการยืนยันว่าการแข่งขันฟุตบอลจะไม่มีการใช้เจ้าภาพ ร่วมอีก

จากการที่เจ้าภาพผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ทำให้เอเชียเหลือโควตาเพียง 2 ทีมที่ต้องแย่งชิงกัน ซึ่งท้ายที่สุดเป็นจีนและ ซาอุดิอาระเบียที่คว้าตั๋วใบนี้ได้ ญี่ปุ่น ในตอนที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปี 1996 พวกเขาต่างไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าต่อมาจะผ่านเข้าไปเล่นในปี 1998 ได้ก็ตาม

และการแข่งขันที่เปรียบเสมือนได้เล่นบ้านยังได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องมงคลสำหรับทีมจากเอเชียอีกด้วย

เกาหลีใต้สร้างประวัติศาสตร์สู่รอบรองชนะเลิศ

ทีมชาติเกาหลีใต้ในปี 2002 สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งโลก ด้วยการผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นที่บ้านของตัวเอง ซึ่งยังคงเป็นทีมเดียวของเอเชียที่ไปได้ไกลที่สุดในการแข่งขันนี้

ทีม ฟอร์มฮอตอย่างเกาหลีทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการเขี่ยทีมอย่าง โปรตุเกส, สเปนและ อิตาลีตกรอบ แม้ว่าในเกมที่เอาชนะอิตาลี จะยังคงได้รับการถกเถียงกันกันว่าอดีตแชมป์โลก 3 สมัยถูกโกงในการแข่งขันครั้งนั้นจากความเอนเอียงของผู้ตัดสินก็ตาม  

แท กุก วอริเออร์ ผ่านเข้าสู่รอบสองในตำแหน่งแชมป์ของกลุ่ม ที่มีคู่แข่งร่วมสายอย่าง โปรตุเกส, โปแลนด์ และสหรัฐอเมริกา พวกเขาเอาชนะอัซซูรีไปได้ 2-1 ก่อนจะดวลจุดโทษเอาชนะสเปนไปได้ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องปราชัยให้กับเยอรมันในรอบรองชนะเลิศ และได้อันดับ 4 ของทัวร์นาเมต์หลังพ่ายให้กับ ตุรกี ในนัดชิงที่ 3