ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเชื่อว่าสถิติการทำประตูให้ทีมชาติเยอรมันสูงสุดตลอดกาลของ แกร์ด มุลเลอร์ จะถูกทำลายลง หลังจากยืนหยัดอยู่ได้อย่างยาวนานถึง 40 ปี

แต่ตอนนี้มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะเจ้าของสถิติคนใหม่คือ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ซึ่งไม่ใช่คนเยอรมันแท้ๆด้วยซ้ำ โดยเป็นโปแลนด์ทั้งแท่ง แต่โอนสัญชาติมาภายหลัง โคลเซ่ ยิงประตูที่ 69 ของเขากับเยอรมัน ในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ อาร์เมเนีย 6-1 เมื่อ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำลายสถิติเดิม 68 ประตูของ มุลเลอร์ ที่ทำได้ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1974 ที่ชนะ ฮอลแลนด์ 2-1
 
ปัจจุบัน โคลเซ่ ติดทีมชาติไปแล้ว 132 ครั้ง ตามหลังสถิติสูงสุด 150 แมตช์ ของ โลธ่าร์ มัทเธอุส แบบห่างไกล เพราะสำหรับกองหน้าที่อายุ 36 ปีแล้ว โอกาสที่จะได้ติดทีมชาติอีกเกือบ 20 นัด ไม่ใช่เรื่องง่าย แค่การได้มาเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 4 ครั้งติดต่อกัน (2002-14) ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว เพราะในประวัติศาสตร์มีแค่ 22 คนเท่านั้นที่ทำได้ หากมีลงโอกาสลงสนามสัก 1 นาที โคลเซ่ ก็จะเป็นรายที่ 23
 
ความจริง โคลเซ่ มีลุ้นทำสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากสุด 26 นัด แซงหน้า มัทเธอุส ที่ทำไว้ 25 เกมตั้งแต่ปี 1998 ด้วยเช่นกัน แต่ประเด็นสำคัญคือ เยอรมัน ต้องได้ลงสนามครบทั้ง 7 แมตช์ในฟุตบอลโลกคราวนี้ หรือเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย และ โคลเซ่ ต้องมีส่วนร่วมครบทุกเกมด้วย
 
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งที่ โคลเซ่ อยากทำให้ได้ในการมาบราซิลคราวนี้มากกว่า คือการทำลายสถิติยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสูงสุดตลอดกาล หลังจากล่าสุดซัดไปแล้ว 14 ประตู จากการลงเตะรอบสุดท้าย 3 ครั้ง อยู่อันดับ 2 ร่วมกับ แกร์ด มุลเลอร์ (แต่ มุลเลอร์ เตะรอบสุดท้ายแค่ 2 ครั้ง) และตามหลัง โรนัลโด้ ยอดดาวยิงทีมชาติบราซิล เพียงประตูเดียวเท่านั้น โดยที่ผ่านมาทั้ง โคลเซ่ กับ โรนัลโด้ ต่างเตะรอบสุดท้ายมาแล้ว 19 นัด จาก 3 สมัย และเคยครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดคนละครั้งเท่ากันพอดี เพียงแต่ โรนัลโด้ ได้แชมป์ไปแล้ว 2 ครั้ง นับรวมปี 1994 ที่เขามีชื่อติดทีมไปด้วย แต่ไม่ได้ลงเตะสักเกม ขณะ โคลเซ่ ดีที่สุดก็แค่เป็นรองแชมป์ ในปี 2002 ซึ่ง เยอรมัน โดน โรนัลโด้ ซัดคนเดียว 2 ประตูให้บราซิลชนะ 2-0 ในนัดชิงฯ
 
หาก โคลเซ่ มีโอกาสลงสนามมากเท่าไหร่ ก็มีสิทธิ์ยิงได้มากขึ้น แม้เพียงประตูเดียว เท่ากับสถิติของ โรนัลโด้ ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่ถ้ายิงถึง 2 ประตู โคลเซ่ ก็จะเป็นผู้ครองสถิติแต่เพียงผู้เดียว
 
ปัญหาคือ ฟุตบอลโลก 2014 ไม่มีคู่แข่งซึ่งอ่อนเชิงกว่ามากอย่าง ซาอุดี อาระเบีย ในปี 2002 ให้ เยอรมัน ได้เคี้ยวเหมือนเดิม แถม โคลเซ่ ไม่ใช่กองหน้าเบอร์ 1 ของทัพ "อินทรีเหล็ก" ยุคปัจจุบัน แม้จะเป็นหัวหอกตัวเป้าคนเดียวในทีม แถมระบบการเล่น 4-2-3-1 ตอนนี้ หนึ่งเดียวในแผงรุกก้ไม่จำเป็นต้องเป็นกองหน้าอาชีพเสียด้วย เพราะมีสิทธิ์ใช้ทั้ง มาริโอ เกิตเซ่ หรือขยับ โธมัส มุลเลอร์ ที่เล่นทางกราบดีกว่า มาเล่นตรงกลาง ไม่เช่นนั้นก็เปลี่ยนแผนการเล่นไปเลย ทำให้ถึงแม้ เยอรมัน ผ่าน 2 เกมแรกด้วยการชนะทั้งหมด ก็ใช่ว่า โคลเซ่ จะได้โอกาสมากขึ้นในเกมสุดท้ายที่เจอ สหรัฐอเมริกา เพราะยังมีทางเลือกสำหรับ โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ "อินทรีเหล็ก" อีกเพียบ
 
อย่างไรก็ตาม โคลเซ่ ก็ยังมีลุ้น แถมความสามารถ และประสบการณ์ของเขา ยังคงเป็นสิ่งที่ เยอรมัน ต้องการเสมอ โดยเฉพาะในการเตะแบบทัวร์มาเมนต์แบบนี้