10 ปัจจัยชี้ชะตา กลุ่ม เอ
22/06/2014 ขอบคุณ siamsportแคเมอรูน กระเด็นกระดอนอ่อนล้า ลาเวทีนี้ไปเรียบร้อย หลังพ่ายรวด 2 นัดซ้อน และบราซิล เต็งหนึ่งของรายการยังอยู่ โครเอเชียและเม็กซิโก ล้วนมีการโอกาสเข้าป้าย 2 อันดับแรก
บราซิล มีคิวดวลทีมจากโซนแอฟริกาในนัดสุดท้าย ช่วงเวลาเดียวกับ เม็กซิโก ปะทะ โครเอเชีย และทัพ "จังโก้" กุมความได้เปรียบไว้ในมือ ด้วยมีแต้มเหนือกว่า 1 คะแนน
นี่คือ 10 ปัจจัย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการชี้วัดว่า 2 ทีมจะผ่านเข้ารอบ เช่นเดียวกับอีกทีมที่ต้องเก็บของกลับบ้านตามหลังทัพ "หมอผี"
..........................................................
1 บทบาทของเนย์มาร์?
เนย์มาร์ ถือเป็นศูนย์กลางในเกมรุกของบราซิล แม้จะถูกใช้งานทางกราบซ้ายเป็นหลักก็ตาม
นี่ เป็นการปล่อยให้เขาขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้าโดยตรง ด้วยการลากเข้ากรอบเขตโทษ และพร้อมขยับเข้าพื้นที่กลางและหนีเซนเตอร์แบ็กคู่แข่ง แต่เขาจะหลุดจากเกม เมื่อกองหลังยืนเป็นแผงและบีบให้เขายืนทางริมเส้นเท่านั้น
ด้วยการ ขาดแคลนการสร้างสรรค์ในรูปแบบที่หลากหลาย บราซิลฝากความหวังมโหฬารไว้บนสองบ่าของเนย์มาร์ ทั้งในการสร้างโอกาสด้วยตัวเองหรือเปิดป้อนให้เพื่อนร่วมทีม
เฟลิ เป้ หลุยส์ สโคลารี่ ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับบทบาทของเนย์มาร์ จะใช้การลากเลื้อยและโจมตีจากทางริมเส้นต่อไป หรือบางทีอาจเปิดอิสระให้ ออสการ์ หรือ วิลเลี่ยน สร้างสรรค์เกมจากตรงกลางมากขึ้น
..........................................................
2 อาการมึนของกลางรับแซมบ้า
นอกจากนี้ มิดฟิลด์คู่กลางของบราซิล ยังไม่อาจทำงานอย่างที่พวกเขามุ่งหวัง
ลุยซ์ กุสตาโว่ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี ชนะในการแย่งบอล และผ่านบอลไปทั่วอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเติมขึ้นหน้าเมื่อโอกาสมาถึง แต่คู่หูของเขาล่ะ? เปาลินโญ่ สอบตกสนิท
ดาวเตะจากสเปอร์สไม่ได้วิ่งมากพอเพื่อเบรกเกมคู่แข่ง ไม่มีการบุกขึ้นมาเพื่อช่วยกองหน้า และมีการผ่านบอลเพื่อช่วยทีมเพียงเล็กน้อย
สโคลารี่ ควรถอดเขาออกได้แล้ว และแทนที่ด้วยมิดฟิลด์ที่ฟอร์มเหนือกว่าอย่าง แฟร์นันดินโญ่ หรือ เอร์นาเนส
..........................................................
3 หมอผีสปิริตกระเจิง
แคเมอรูน เป็นหนึ่งในทีมที่มีทีมงานแย่ที่สุดในบอลโลกหนนี้ หลังไม่มีแม้แต่แต้มเดียวจาก 2 นัดที่ผ่านมา
การ เล่นของพวกเขาไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน และขาดความชัดเจนในแนวทางการโจมตี พวกเขายิงไม่ได้ ขณะที่ปัญหาเรื่องระเบียบวินัยยังเข้าขั้นวิกฤติ
ศอก ของ อเล็กซ์ ซง สะบัดใส่ มาริโอ มานด์ซูคิช อย่างไร้เหตุผล นำมาสู่ใบแดง และในช่วงท้ายเกมกับโครเอเชีย สองเพื่อนร่วมทีมยังทะเลาะกันเองให้อับอายชาวโลก (เบอร์นัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ และ เบนยามิน มูคานด์โช่)
แคเมอรูนยังมีโอกาสในการแก้ตัวเพื่อรักษาศรัทธาแฟนบอลในชาติ สำหรับการเริ่มต้นสู้ แม้พวกเขาตกรอบไปแล้วก็ตาม
..........................................................
4 จุดโทษ...นกหวีดหวาน?
นับ ถึงตอนนี้ เฟร็ด ศูนย์หน้าบราซิล ยังมิอาจสร้างความประทับใจในฟุตบอลโลกคราวนี้ได้แม้แต่น้อย นอกเหนือไปจากการเรียกจุดโทษกังขาในนัดเปิดสนาม
แน่นอน ที่ผู้คนต่างมองกันว่า มันไม่ยุติธรรม และเมื่อมองไปถึงการสร้างสรรค์เกมก่อนหน้านั้น เฟร็ดไม่มีส่วนร่วมกับทีมมากพอ ทั้งการโฉบเข้ากรอบเขตโทษ หรือวิ่งฉีกแนวรับคู่แข่ง
โช ลงมาแทนเขาในเกมล่าสุด ซึ่งมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แม้หวังให้ โช เพิ่มความกระฉับกระเฉงในแดนหน้า ด้วยบทบาทหมายเลข 9 ของบราซิล นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมกองหน้าแซมบ้าถึงถูกเลือก
นกหวีดหวาน และลูกนิ่ง 12 หลา อาจเป็นแนวทางของเจ้าภาพ และประตูเดียวที่ทัพ "เซเลเซา" ทำได้ในเขตโทษก็มาจากจุดโทษเสียด้วย
..........................................................
5 ในบ้าน...กดดันหรือแรงกระตุ้น?
คำ ถามใหญ่สำหรับทีมชาติบราซิลก็คือ ใครก็ตามที่ย่ำลงสนาม ย่อมเผชิญบททดสอบชิ้นโตว่า พวกเขาแข็งแกร่งและทานทนต่อความความหวังที่ถาโถมเข้าใส่ได้หรือไม่
สิ่ง ที่ชัดเจนคือ แคเมอรูนแดดิ้นไปแล้ว ขณะที่บราซิล แม้ไม่อยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม แต่พวกเขาสมควรได้ 3 แต้ม ซึ่งหากทำ 2 คะแนนหลุดมือในนัดนี้ บราซิลมีสิทธิ์เข้าป้ายเพียงอันดับ 2 ของกลุ่ม ซึ่งนั่นไม่ใช่ความคาดหวังของแฟนบอลทั่วโลกแม้แต่น้อย
แน่นอน หากเป็นเช่นนั้น มันย่อมทำให้งานในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยากเย็นขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
..........................................................
6 มานด์ซูคิช v มาร์เกซ
โครเอเชีย ดวล เม็กซิโก นี่คือเกมชิงตั๋วโดยตรง
มาริ โอ มานด์ซูคิช กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบน และทำ 2 ประตูอย่างน่าประทับใจในเกมที่แล้วกับแคเมอรูน ด้วยกำลังมหาศาลในแดนหน้า มานด์ซูคิชเล่นอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการรับบอลและประสานงานกับผู้เล่นที่อยู่ข้างหลังอย่างลงตัว
กระนั้น เกมนี้ เขาต้องเผชิญหน้ากับเซนเตอร์ที่เก๋าไม่แพ้ใครอย่าง ราฟาเอล มาร์เกซ กัปตันทีมชาติเม็กซิโก ที่เล่นบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 และทีมของเขายังไม่เสียแม้แต่ลูกเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้
มาร์กเซ และกองหลังที่ยืนขนาบข้าง ต่างอยู่ในฟอร์มสุกสกาว ดังนั้น มันจึงเป็นการต่อสู้เพื่อยื้อแย่งโควตารอบน็อกเอาต์ที่น่าติดตามว่า ใครจะกลั่นฟอร์มเด็ดออกมาได้มากกว่ากัน
..........................................................
7 โอชัว ท็อปฟอร์มอีกมั้ย?
เม็กซิโก ควัก 1 แต้มจากบราซิล แม้ฟอร์มของทั้งทีมนั้นดีเยี่ยม แต่ฮีโร่นั้นไซร้ ยังไงก็ต้องเป็น กีเยร์โม่ โอชัว จอมหนึบหัวฟูคนนั้น
นายทวารไร้ สังกัดเซฟระดับโลกอย่างน้อย 3 ครั้ง ทั้งการป้องกันลูกโหม่งของเนย์มาร์และ ติอาโก้ ซิลวา พร้อมกับทำคลีนชีตด้วยปฏิกริยาอันว่องไว แม้ว่าบางทีอาจมีโชคเจือปนอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มาจากการตัดสินใจที่ดีของเขาเช่นกัน
โอชัว กลายเป็นผู้รักษาประตูแห่งทัวร์นาเมนต์ และบางทีฟอร์มเหนียวแน่นหนึบของเขาอาจเป็นปัจจัยส่งมานด์ซูคิชและพรรคพวก กลับบ้านแบบไม่ปรารถนา
..........................................................
8 ต่อสู้แดนกลาง เพรสซิ่ง v ผ่านบอล
เม็กซิโก เป็นทีมจอมเพรสซิ่ง ทำงานหนักและเคลียร์บอลขาด ด้วยการใช้ผู้เล่นแดนกลางหลายราย เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาส พวกเขาจะรุกขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว และไล่บี้เมื่อเสียบอล การสร้างสรรค์โอกาสด้วยวิงแบ็กช่วยให้ทีมอันตรายยิ่งขึ้น
ขณะที่ โครเอเชีย เล่นด้วยเทคนิค มิดฟิลด์ตัวปั้นเกมยืนคู่กันตรงกลาง ซึ่งทั้งคู่ยืนคุมพื้นที่ได้ดีเพื่อปิดพื้นที่ว่าง แต่ไม่ได้เพรสซิ่งคู่แข่งมากนัก เพื่อป้องกันความผิดพลาด ด้วยการผ่านบอลย้อนกลับหลัง หรือเปิดบอลไปทั่วเมื่อเป็นครองบอล
3 มิดฟิลด์จังโก้จะยึดความได้เปรียบ? หรือสไตล์ผ่านบอลของโครเอเชียจะทำลายระบบป้องกันอันเหนียวแน่นของเม็กซิโก?
..........................................................
9 เม็กซิโกสร้างโอกาสมากพอมั้ย?
โจ วานี่ โดส ซานโตส เล่นได้ดีในเกมนัดเปิดสนาม เขาดูกระฉับกระเฉงและพยายามผ่านบอลให้คู่หูแนวรุกอย่าง โอริเบ เปราลต้า รวมถึงการประสานงานกับแผงมิดฟิลด์ ซึ่งนำมาสู่การสร้างโอกาสสำหรับตัวเขาเองและเพื่อนร่วมทีม
ในเกมกับบราซิล สัมผัสและการผ่านบอลของเขาไม่เข้าตาเท่าไหร่ และโดส ซานโตส ไม่อาจมีอิทธิพลต่อทีมมากนัก
ตรงข้ามกับ อันเดรส กวาร์ดาโด้ ที่ฟอร์มแย่ในเกมกับแคเมอรูน แต่พัฒนาขึ้นมาและเล่นด้วยพละกำลังมหาศาลในแมตช์เจ๊าบราซิล
นอกเหนือจาก 2 รายนี้ ยังไม่มีผู้เล่นจังโก้รายไหนโผล่ขึ้นมาในการแสดงให้เห็นถึงการสร้างสรรค์และเจาะแนวรับคู่แข่ง
พวก เขาเก่งในการเซ็ตเกม และหยุดพวกจอมเทคนิค แต่มันคงเป็นปัญหาอย่างแน่นอน หากพวกเขาต้องสร้างโอกาสเพื่อทำประตู ในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง เม็กซิโกจะทำอย่างไร?
..........................................................
10 จังโก้ขอแค่แต้มเดียว
ถ้า โครเอเชียไม่อาจขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม คาดการณ์ได้เลยว่า เม็กซิโกจะไม่เปิดเกม พวกเขาจะไล่เพรสซิ่งคู่แข่งเมื่อบอลอยู่ในแดนตัวเอง และปล่อยให้โครเอเชียครองบอลอยู่ห่างๆ
ทีมจากคอนคาเคฟไม่จำเป็นต้องเร่งเกม สิ่งสำคัญคือโครเอเชียจำเป็นต้องเล่นเพื่อชนะ
นั่น มิอาจบอกได้ว่า พวกเขากำลังเดินสู่ขุมนรก แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเขามีกองหน้าฝีเท้าฉกาจหลายราย การพยายามสร้างความแตกต่างทำให้เกมรุกของโครเอเชียน่ากลัวขึ้น ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช และ มานด์ซูคิช สามารถทำบางอย่างในกรอบเขตโทษได้เสมอ
เช่นกันกับเม็กซิโก ที่มักใช้ความแข็งแกร่งในการเบรกเกมคู่แข่งเป็นอาวุธ
ผล เสมอการันตีการเป็นรองแชมป์กลุ่ม (เป็นอย่างน้อย) สำหรับเม็กซิโก และโครเอเชียต้องคว้าตั๋วรอบน็อกเอาต์ ด้วยเงื่อนไขที่ต้องชนะสถานเดียว
มันยังคงเป็นเกมสุดท้ายในกลุ่ม เอ ที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3