"เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาอย่างนั้นหรือ?" พาดหัวตัวไม้บนหนังสือพิมพ์กีฬาของบราซิลฉบับหนึ่ง

 ทัพเซเลเซาห่างไกลจากฟอร์มอันน่าครั่นคร้ามอย่างที่คาดหวังหลังผ่าน 2 นัดแรก และหนทางสู่รอบน็อกเอาต์มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นั่นเป็นสรรพเสียงของสื่อลูกหนังเมืองแซมบ้า
 
 เฉพาะอย่างยิ่ง 2 ผู้เล่นที่เสมือน "จุดอ่อน" อันสมควร "กำจัด" ออกไป หนึ่งคือเฟร็ด และสอง เปาลินโญ่
 
 ทั้งคู่เป็นผู้เล่นในแบบฉบับที่ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ชื่นชอบและเลือกใช้งานมาตลอดนับตั้งแต่หวนสู่เก้าอี้นายใหญ่ทัพแซมบ้า อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันกาล ฟอร์มของทั้งคู่ห่างไกลจากคราวร่วมแรงคว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ เมื่อ 1 ปีก่อนอย่างลิบลับ
 
 อลัน เชียเรอร์ ส่งเสียงวิจารณ์ในฐานะกองหน้าด้วยกัน "ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมบราซิลถึงยังเลือกเขามาติดทีม เขาไม่เคลื่อนที่เลย ไม่ยอมทำประตู และมีแต่จะฉุดให้ทีมแย่ลง ผมรู้นะว่า บราซิลควรจะปรับเปลี่ยนระบบการเล่น หรือให้เนย์มาร์เล่นเป็นผู้เล่นเบอร์ 9 ตัวหลอก แต่ที่แน่ๆ คือ เฟร็ด ไม่ใช่คำตอบสำหรับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในขณะนี้"
 
 ขณะที่ "เปเล่ขาว" ซิโก้ ตำนานยุค 80 พุ่งเป้าไปที่ห้องเครื่องแดนกลาง "สิ่งสำคัญที่ต้องเปลี่ยนแต่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยคือ เปาลินโญ่ เขามีปัญหาในตอนนี้ เพราะตกอยู่ในร่มเงาของผลงานเมื่อปีก่อน ซึ่งมันพิสูจน์ถึงความสำคัญในการสร้างสรรค์และทำหน้าที่ในเกมรับไปพร้อมกัน เปาลินโญ่ควรหลีกทางให้รามิเรสในตำแหน่งแดนกลาง"
 
 สถิติของเฟร็ดในช่วงการเริ่มต้นสู่ทัวร์นาเมนต์เข้าขั้นฝันร้าย เขายิงได้ 5 ประตูในการซ้อมทีม ทว่า ในนัดเปิดสนามกับโครเอเชียเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ศูนย์หน้าหมายเลข 9 ยิงเข้ากรอบเพียงหนึ่งครั้งตลอด 90 นาทีเต็ม
 
 เปาลินโญ่ เป็นตัวเลือกแรกของสโคลารี่เสมอในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวคุมเกม "น้องเปา" รับใช้ชาติ 20 ครั้งในยุค "บิ๊กฟิล" ซึ่งมีเพียง ดาวิด ลุยซ์, ออสการ์ และ เนย์มาร์ ที่ลงเล่นมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน
 
 ในการเตรียมทีมก่อนลงเล่นนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับทีมที่ตกรอบไปแล้วอย่าง แคเมอรูน ในค่ำคืนวันจันทร์ ที่สังเวียน มาเน่ การ์รินช่า สเตเดี้ยม ในเมืองบราซิเลีย ดูเหมือนคอของสองผู้เล่นดังกล่าวพาดไว้บนเขียง รอสับเปรี้ยงภายใต้แรงกดดันมหาศาล
 
 เปาลินโญ่ ถือเป็นตัวขับเคลื่อนเกมที่สำคัญ พลังงานในการเคลื่อนที่เข้าเขตโทษ และคอยผ่านบอลอย่างรวดเร็วจากหลังไปหน้า เขาทำได้อย่างสมบูรณ์แบบในคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ปีก่อน ด้วยการทำ 2 ประตู รวมถึงประตูชัยในรอบรองชนะเลิศ กับอุรุกวัย นั่นด้วย
 
 ขณะเดียวกัน เฟร็ด ทำฟอร์มถล่มประตูหดหายในปีที่ผ่านมา หลังกดได้แค่ประตูเดียวให้บราซิลตลอดช่วง 12 เดือน และกระทั่งล่วงถึงกลางปีนี้ เขายังมิอาจคืนฟอร์มเก่งได้อีกเลย
 
 ศูนย์หน้าตัวเก๋าได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและต้องพักยาวในการเล่นกับต้นสังกัดฟลูมิเนนเซ่ เช่นเดียวกับที่เคยประสบในปี 2009 และ 2010 ปีนี้เขากลายเป็นถูกจับจ้องจากแฟนบอลอย่างหนักในยุคที่สโมสรเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
 
 หากพลังงานของบราซิลในการเริ่มต้นดำเนินไปอย่างราบรื่น แคเมอรูนอาจเป็นเหยื่ออันโอชะ มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนของความดุดันแห่งทัพแซมบ้าอีกครั้ง
 
 หลังพลาดในการลงสนามนัดก่อนเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ฮัล์ค มีสิทธิ์คืนสนามและเป็นตัวจริงในเกมวันจันทร์นี้ ที่ผ่านมาเขามักรับบทบาทจู่โจมจากด้านกราบ อย่างไรก็ตาม ดาวยิงวัย 27 ปีมีสิทธิ์กลายเป็นหัวหอกในเกมรุก หาก "บิ๊กฟิล" สูญเสียความเชื่อมั่นที่มีต่อเฟร็ด
 
 สโคลารี่มักใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นแกน ซึ่งมันเป็นแผนที่เขาใช้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่นัดแรกที่กลับมาคุมทีมเมื่อกุมภาพันธ์ปีก่อน
 
 แต่ทางเลือกยังมีมิใช่หรือ? บางที สโคลารี่อาจต้องหันไปใช้แผนเดียวกับ มาโน่ เมเนเซส ที่ปักหลักกับระบบ 4-2-4 มันช่วยให้เกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นกองหน้าเดินเกมอย่างอิสระ
 
 แท็กติกดังกล่าว อาจหมายถึงการดร็อปเฟร็ด ดาวยิงปืนฝืด การยืนเป็นหอกเดี่ยวโดยมี 3 กลางรุกปั้นเกมสนับสนุน มิได้ขับให้ผลงานของทีมกระเตื้องขึ้นเลย
 
 นั่นหมายความว่าหนึ่งตำแหน่งในตัวรุกอาจเป็นของ แบร์นาร์ด หรือ วิลเลี่ยน ที่ทำงานร่วมกับ ฮัล์ค, เนย์มาร์ และ ออสการ์ ฟอร์มของแบร์นาร์ดรวมถึงทักษะในการฉีกกองหลัง พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในเกมกับเม็กซิโก และมันอาจส่งผลถึงการจัดหมากในเกมนี้
 
 ถ้า เปาลินโญ่ โดนดร็อปอีกคน มีถึง 3 ทางเลือกสำหรับตำแหน่งของเขา
 
 ในการเล่นเกมกระชับมิตร เอร์นาเนส สร้างความประทับใจในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลาง และลงเล่นในครึ่งหลัง นัดหวดปานามา ซึ่งเป็นเกมที่เปาลินโญ่ชวด มิดฟิลด์จากอินเตอร์เปลี่ยนรูปโฉมของเกมและทำให้บราซิลดีขึ้นทันตาเห็น
 
 รามิเรส เป็นตัวจริงในเกมดังกล่าว และไม่สามารถสร้างประทับใจในแมตช์ที่แล้วกับเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม การเลือกเขาลงสนามมีเงื่อนไขที่เพิ่มเติม เนื่องจากรามิเรสมีใบเหลืองติดตัว เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, ลุยซ์ กุสตาโว่ และเนย์มาร์ ซึ่งหากโดนอีกใบ พวกเขาจะติดโทษแบนทันที
 
 แฟร์นันดินโญ่ ปิดฉากฤดูกาลที่แล้วด้วยการคว้าแชมป์กับแมนฯ ซิตี้ และการโชว์ฟอร์มกับทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นที่จับตา แม้ว่าในการซ้อม สโคลารี่จะให้น้ำหนักกับเอร์นาเนสมากกว่าก็ตาม
 
 แต่ในเกมรุกซึ่งเป็นงานยากที่สุดและต้องการการแก้ไข ดังนั้น ทีมจำเป็นต้องตัดสินใจบางอย่างเพื่อทำให้เกมไหลลื่นมากกว่าเกมที่พบเม็กซิโก
 
 ฝากความหวังไว้ที่ เฟร็ด นักเตะที่ยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้งอย่างนั้นหรือ? ทีมดำเนินต่อไปด้วยความพยายามและทดลองรูปแบบอื่นๆ แต่การทดแทนแบบตำแหน่งต่อตำแหน่งของ โช ผู้ซึ่งพลาดโอกาสทองในเกมกับเม็กซิโก เมื่อเผชิญหน้ากับฟอร์มเหนียวแน่นหนึบของ กีเยร์โม่ โอชัว
 
 หรือพวกเขาอาจเลือกใช้แท็กติกดั้งเดิม แม้ว่าผลการแข่งขันออกมาย่ำแย่ แต่แท็กติกของเมเนเซสมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่
 
 พวกเขาจะทำอย่างไรกับความเชื่อมั่นที่มีต่อสองผู้เล่น? มันเป็นคำถามสำหรับสโคลารี่ที่จะดึงสิ่งดีที่สุดออกมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
 
 ทุกสายตาที่จับจ้องทัพแซมบ้าล้วนเห็นถึงปัญหา เชียเรอร์เห็น, ซิโก้เห็น แล้ว "บิ๊กฟิล" ล่ะ? หากยึดติดกับโทรฟี่คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ เมื่อปีก่อนและไม่ยอมเปลี่ยนแปลง บางทีอาจสายเกินไป