สิงโตปรับทัพสั่งลา!สเตอร์ริดจ์นำยิงคอสตาริกา
24/06/2014 ขอบคุณ siamsport
(รอบแรก กลุ่ม ดี.)
วันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2557
คอสตาริกา - อังกฤษ
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7, ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports (เวลา 23.00 น.)
สนาม : เอสตาดิอู มิไนเรา, เบโล โอรีซอนชี
ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ นายใหญ่ "กล้วยหอม" พาทีมสร้างผลงานได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์ เมื่อพลิกแซงชนะ อุรุกวัย 3-1 ในนัดแรก และยังเฉือน อิตาลี 1-0 ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปอย่างแน่นอนแล้ว
คอสตาริกา ต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนก็จะการันตีการเป็นแชมป์กลุ่ม หรือหากแพ้ก็ยังมีโอกาสจะได้แชมป์กลุ่มเช่นกัน โดยต้องไปลุ้นผลของคู่ระหว่าง อิตาลี กับ อุรุกวัย
สภาพทีมถือว่าสมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด แต่คาดว่าอาจหมุนเวียนบางตำแหน่งเพื่อรักษาความสดเอาไว้
เคย์เลอร์ นาวาส ยังรับหน้าที่เฝ้าเสา กองหลังไล่เรียงจากขวาไปซ้ายเป็น คริสเตียน กัมบัว, ออสการ์ ดูอาร์เต้, จานคาร์โล กอนซาเลซ, จอห์นนี่ อากอสต้า และ จูเนียร์ ดิอาซ
เซลโซ่ บอร์เกส ประคองแดนกลางกับ โฮเซ่ มิเกล กูเบโร่ ปล่อยให้ ไบรอัน รุยซ์ และ มาร์โก อูเรนญ่า ทำเกมริมเส้น ทิ้ง โจเอล แคมป์เบลล์ ไว้เป็นหน้าตัวเดียวเหมือนเดิม
ด้าน สิงโตคำราม ของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ทำผลงานน่าขายหน้า พ่าย 2 นัดต่อ อิตาลี และ อุรุกวัย ชิงตกรอบแรกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกมสุดท้ายไร้ความหมายทันที
สภาพทีมของ ฮ็อดจ์สัน มีปัญหาเล็กน้อย เลห์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็มีปัญหาที่เข่าซ้ำ หมดสิทธิ์ช่วยทีม
ฮ็อดจ์สัน จะปรับทีมตัวจริงหลายจุดสำหรับนัดสุดท้ายก่อนเก็บกระเป๋ากลับบ้าน โดย แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะรับบทกัปตันทีมนัดสุดท้ายแทน สตีเว่น เจอร์ราร์ด
ทั้งนี้ เบน ฟอสเตอร์ จะได้ลงเฝ้าเสาแทน ฮาร์ท ส่วน ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง และ ลุค ชอว์ จะได้ยืนปักหลักร่วมกันในแผงหลังโดยที่มี แกรี่ เคฮิลล์ เป็นคนคอยนำเหล่าแข้งรุ่นน้อง ด้านแผงมิดฟิลด์จะเป็น เจมส์ มิลเนอร์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รอสส์ บาร์คลี่ย์, แจ็ค วิลเชียร์ และ อดัม ลัลลาน่า ที่ได้รับโอกาสลงสนาม ขณะที่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียว
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
คอสตาริกา : เคย์เลอร์ นาวาส - คริสเตียน กัมบัว, ออสการ์ ดูอาร์เต้, จานคาร์โล กอนซาเลซ, จอห์นนี่ อากอสต้า, จูเนียร์ ดิอาซ - ไบรอัน รุยซ์, เซลโซ่ บอร์เกส, โฮเซ่ มิเกล กูเบโร่, มาร์โก อูเรนญ่า - โจเอล แคมป์เบลล์
อังกฤษ : เบน ฟอสเตอร์, ฟิล โจนส์, แกรี่ เคฮิลล์, คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์, แจ็ค วิลเชียร์, อดัม ลัลลาน่า, เจมส์ มิลเนอร์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รอสส์ บาร์คลี่ย์, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ผู้ตัดสิน : ฌาเมล ไฮมูดี้ (แอลจีเรีย)
- นี่คือการพบกันครั้งแรกระหว่างทั้งสองทีม
- คอสตาริกาผ่านรอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกนับตั้งแต่ 1990 และจะการันตีแชมป์กลุ่มหากไม่แพ้อังกฤษ
- คอสตาริกายิงได้ตลอด 7 นัดหลังสุดที่เจอทีมยุโรปในฟุตบอลโลก
- อังกฤษไม่เคยแพ้รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัดรวดในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ นับตั้งแต่ยูโร 1988
- นอกจากนั้น สิงโตคำรามยังไม่เคยทำสถิติไร้แต้มในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก
- ชัยชนะเหนืออิตาลีในนัดก่อน ส่งผลให้คอสตาริกาเก็บชัยต่อเนื่องได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
- อังกฤษตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 1958
- เวย์น รูนี่ย์ มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูของอังกฤษในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ยิง 1 จ่าย 1)
- รอย ฮ็อดจ์สัน คุมทีมแพ้ 4 นัดติดต่อกันแล้วในฟุตบอลโลก (สวิตเซอร์แลนด์ กับอังกฤษทีมละ 2 นัดเท่ากัน)
- อังกฤษเสียไปถึง 8 ประตูจากเกมฟุตบอลโลก 3 นัดหลัง เท่ากับที่โดนยิงรวมใน 14 แมตช์ก่อนหน้านั้น
- เวย์น รูนี่ย์, เกล็น จอห์นสัน และ เลห์ตัน เบนส์ สร้างสรรค์โอกาสถึง 15 จากทั้งหมด 26 ครั้งของอังกฤษในฟุตบอลโลกหนนี้ (คนละ 5 ครั้งเท่ากัน)
- แดนนี่ เวลเบ็ค หาโอกาสยิงได้แค่ 1 และสร้างสรรค์จังหวะให้เพื่อนไม่ได้เลยในทั้ง 2 เกมที่ลงตัวจริง
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3