เจาะหลังบ้านกล้วยหอม "เกย์ลอร์ นาวาส"
25/06/2014 ขอบคุณ siamsportเกย์ลอร์ นาวาส นายทวารวัย 27 ได้รับการยกย่องว่าเหนียวสุดใน ลา ลีกา ด้วยอัตราการเซฟสำเร็จสูงถึง 78% ให้กับ เลบานเต้ และล่าสุด แฟนลูกหนังยิ่งรู้จักเขามากขึ้นในฐานะจอมหนึบทีมชาติคอสตาริก้าที่ผ่านเข้า รอบน็อคเอ๊าต์ เวิลด์ คัพ 2014 ได้สำเร็จทั้งๆ ที่อยู่สายแข็งร่วมกับทั้ง อิตาลี, อังกฤษ และ อุรุกวัย
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้รักประตูที่ดีที่สุดในลีกหินอย่าง ลา ลีกา?
"ผม ดีใจและปลาบปลื้มมาก หลักๆ เลยน่าจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยเจ็บ และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมพยายามเล่นไปตามเกมของผม มีสมาธิแน่วแน่ และสนุกกับเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถ นี่คือลีกการแข่งขันที่เข้มข้น ซึ่งมาตรฐานสูงมาก ดังนั้นการได้รับความชื่นชมในเรื่องผลงาน จึงทำให้ผมแฮ็ปปี้"
พูดถึงเรื่องของพัฒนาการ คุณคิดว่าตัวเองได้เรียนรู้จากใคร?
"ผม เฝ้าดูความเก่งกาจของผู้รักษาประตูแต่ละคน ผมดู ดีเอโก้ โลเปซ, อิเกร์ กาซียาส, บิคตอร์ บัลเดส, จานลุยจิ บุฟฟ่อน... พวกเขาต่างมีทั้งประสบการณ์ และฝีมือ โดยผ่านการบ่มเพาะมาหลายปีจนได้ที่"
พักหลัง มีนักเตะจาก คอสตาริก้า หลายคนที่ได้ค้าแข้งในยุโรป คุณมองว่าตัวเองเป็นผู้บุกเบิกหรือเปิดตลาดหรือเปล่า?
"อันที่จริง มีนักเตะจากประเทศของผมหลายคนย้ายมาเล่นในยุโรปพักใหญ่แล้ว และชาวโลกคงได้เห็นแล้วว่า นักเตะจากคอสตาริก้าก็มีศักยภาพไม่น้อย เราพยายามเปิดประตูให้คนที่มีความตั้งใจจริงที่จะตามรอยพวกเรา"
แล้วคิดว่าทีมชาติของคุณได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้บ้าง?
"มัน สำคัญมากนะ การมีประสบการณ์ในระดับนานาชาติช่วยให้เราแข็งแกร่งขึ้นในหลายๆ ด้าน เมื่อเรามาเล่นร่วมกันในฐานะทีมชาติคอสตาริก้า แต่ละคนก็จะนำเอาสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้มาช่วยยกระดับทีม"
คอส ตาริก้า ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ในฐานะทีมอันดับสองจากโซน คอนคาเคฟ โดยเสียแค่เจ็ดประตู ซึ่งน้อยที่สุด ทีมของคุณได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?
"เรา ทำงานหนักกันมากขึ้นในเกมรับ และพยายามปรับในส่วนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย เราได้เน้นเรื่องสมาธิ และการสื่อสารกันระหว่างผู้รักษาประตู และเกมรับ เราเน้นเป็นพิเศษในการซ้อมแต่ละมื้อ รวมถึงทุกครั้งที่ลงสนาม ซึ่งมันช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นกับวิธีการเล่น ปรับตัวเข้ากับระบบ และผลก็ออกมาอย่างที่เห็น"
โค้ช ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต ช่วยปรับตรงไหนจนทำให้ทีมทำผลงานยอดเยี่ยมแบบนี้?
"เขา ทำให้เราทำงานกันหนักกว่าเดิม เขาคอยกระตุ้นเรา และเราก็ตอบสนองในทุกๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการจัดระเบียบทีมให้เข้าที่เข้าทาง ผมคิดว่า มันเป็นสิ่งที่เราขาดไปก่อนหน้านี้ และตอนนี้ เราก็เป็นทีมที่มีระบบระเบียบมากกว่าเดิม"
ความทรงจำแรกของคุณกับฟุตบอลโลกคืออะไร?
"ตอน ปี 2002 ที่ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพร่วม ผมได้ดูทุกเกมที่ คอสตาริก้า ลงสนามกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ความแตกต่างเรื่องเวลาอาจทำให้มันยุ่งยาก เพราะเตะกันตรงกับช่วงกลางคืนที่บ้านเรา ดังนั้น เราจึงต้องนัดกันไปนอนที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง จากนั้นก็ตื่นมากลางดึกเพื่อดูเกม เป็นอะไรที่สนุกมาก"
คราวนี้ที่ บราซิล คงไม่ต้องลำบากกันอย่างนั้นแล้ว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณว่า จะทำให้คนที่ติดตามมีความสุขได้แค่ไหน?
"เรา ทำให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ทีมอื่นๆ ในกลุ่มแข็งแกร่ง และมีสถิติที่ดีในฟุตบอลโลก แต่นี่คือสิ่งที่เราเอามาเป็นแรงขับ มันคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของนักฟุตบอลทุกคน เราพยายามใช้ผลงานในสนามพูดแทน เราทุ่มเทเต็มที่ และคิดบวกตลอด 90 นาทีของทุกเกม"
ไล่ดูเพื่อนร่วมกลุ่มของพวกคุณมีซูเปอร์ สตาร์เพียบทั้ง เอดินสัน กาวานี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เวย์น รูนี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อันเดรีย ปิร์โล่ และ มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ดูคุณไม่ได้รู้สึกประหม่าอะไรเลยนะ?
"พวกเขาล้วนเป็น นักเตะตัวอันตราย แต่เราไม่ได้เกรงกลัวอะไรมากนัก โดยส่วนตัว ผมเล่นในลีกใหญ่ และได้เจอกับนักเตะเก่งๆ ระดับโลกมาแล้ว เรื่องความประหม่าตัดไปได้เลย กลับกัน ผมรู้สึกผ่อนคลายเสียอีก การได้เผชิญหน้ากับผู้เล่น เวิลด์ คลาส ถือเป็นความท้าทาย"
ได้ยินว่า คุณมีเป้าหมายส่วนตัวอยู่อย่างหนึ่งในฟุตบอลโลกคราวนี้ และน่าจะบรรลุเรียบร้อย?
"ผมขอแลกเสื้อกับ บุฟฟ่อน หลังจบเกมที่สุดยอดกับอิตาลี"
ข่าวฮอต
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3