ฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2557
คอสตาริกา 1-1 กรีซ
(ต่อเวลาพิเศษเสมอ1-1,คอสตาริกาชนะจุดโทษ5-3)
สนาม : อาเรน่า แปร์นัมบูกู, เรซีเฟ่
"ขุนพลกล้วยหอม" คอสตาริกา สภาพทีมถือว่าสมบูรณ์พร้อม จัดชุดเก่งลงสนาม นำทัพโดย ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีม จะเดินเกมล่าตาข่ายร่วมกับคริสเตียน โบลันยอส และ โจเอล แคมป์เบลล์
ฝั่ง "ทัพเทพนิยาย" กรีซ มีจอร์จอส ซามาราส ดาวยิงตัวเก๋า ฮีโร่นัดล่าสุดยืนเป็นหน้าหน้าเป้า และใช้ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส, อันเดรียส ซามาริส และ ดิมิตริส ซัลปิงกิดิส คอยสนับสนุนในเกมรุก
เริ่มครึ่งแรกคอสตาริกาเป็นฝ่ายเขี่ยลูก แต่เป็นกรีซที่ได้ลุ้นก่อนเพียง 2 นาที จากจังหวะฟรีคิก กองหลังกล้วยหอม เคลียร์บอลไม่ขาด มาเข้าทางลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส ได้ยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลลอยเหินข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 5 คอสตาริกา ก็ตอบโต้มาบ้าง คริสเตียน แกมบัว แบ็กขวาเติมขึ้นมายิง ประมาณ 20 หลา ไปที่เสาสอง บอลเรียดหลุดเสาออกไป
จากนั้น 2 นาทีต่อมา ขุนพลกล้วยหอม ขึ้นเกมรุกมาอีกครั้ง คริสเตียน โบลันยอส ได้บอลหลุดไปยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย ข้ามคานแบบได้เสียว
ผ่านไป 28 นาที ทัพเทพนิยาย ได้ยิงตรงกรอบครั้งแรก เมื่อจอร์จอส คารากูนิส กัปตันทีมซัดด้วยขวา ร่วม 30 หลา บอลพุ่งแรงตกพื้น แต่ไปเข้าซองเคย์เลอร์ นาวาส นายด่าน คอสตาริกา
นาทีที่ 35 กรีซมาได้เหลืองแรก เมื่ออันเดรียส ซามาริส ไปตัดเกมใส่โจเอล แคมป์เบลล์3 นาทีให้หลัง ทัพเทพนิยาย น่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่ โฮเซ่ โอเลบาส ครอสจากฝั่งซ้ายไปที่เสาสองให้ ดิมิตริส ซัลปิงกิดิส ได้ยิงจ่อๆ แต่เคย์เลอร์ นาวาส ใช้ขาเซฟไว้ได้อย่างหวุดหวิด
ท้ายเกมนาทีที่ 42 คอสตาริกา โดนเหลืองแรกบ้าง เมื่อออสการ์ ดูอาร์เต้ ไปขวางการเล่นของ ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอสจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีจังหวะลุ้นเพิ่มเติม จบ 45 นาทีแรก คอสตาริกา ยังเสมออยู่กับ กรีซ 0-0
ครึ่งหลังกรีซ ได้โอกาสก่อน นาทีที่ 47 ได้ลุ้นจากฟรีคิกฝั่งซ้าย จอร์จอส คารากูนิส เปิดมาหน้าประตู ถึงหัวจอร์จอส ซามาราส ได้โหม่ง แต่ไปตรงตัวเคย์เลอร์ นาวาส รับได้ไม่ยาก
นาทีต่อมาคอสตาริกา มาโดนใบเหลืองที่สอง เมื่อ เยลต์ซิน เตเฮด้า ไปเข้าช้าใส่ จอร์จอส คารากูนิส 
แต่ ถึงนาทีที่ 52 กลับเป็น คอสตาริกา ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จังหวะที่ คริสเตียน โบลันยอส ขึ้นบอลมาทางด้านซ้าย ก่อนจะไหลให้ไบรอัน รุยซ์ ยิงด้วยซ้ายตรงเส้นเขตโทษ ลูกเรียดเสียบมุมเข้าไปนาทีที่ 56 ทัพกล้วยหอม มาเสียใบเหลืองอีก เมื่อเอสเตบัน กรานาดอส นายทวารสำรองที่นั่งอยู่ข้างสนามไปเตะบอลทิ้ง 
อีก 2 นาทีต่อมา ฟร์นานโด ซานโตส นายใหญ่กรีซ ต้องแก้เกมคนแรกทันที ถอดอันเดรียส ซามาริส กองกลางออก แล้วเติมกองหน้า คอสตาส มิโตรกลู ลงมาแทนนาทีที่ 66 คอสตาริกา เปลี่ยนตัวคนแรกบ้าง ส่ง โฮเซ่ มิเกล กูเบโร่ ลงมาแทน เยลต์ซิน เตเฮด้า
แต่ นาทีต่อมาทัพกล้วยหอม ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ ออสการ์ ดูอาร์เต้ ที่ติดเหลืองมาจากครึ่งแรก ไปทำฟาวล์ใส่ โฮเซ่ โอเลบาส ผู้ตัดสินออสเตรเลียไม่รอช้า ชักใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
หลังผู้เล่นมากกว่า นาทีที่ 69 กรีซ แก้เกมคนที่สอง ส่ง ธีโอฟานิส เกคัส ลงมาแทน ดิมิตริส ซัลปิงกิดิสเกมเริ่มเล่นกันแรงขึ้น อีกหนึ่งนาที คอสตาริกา มาโดนเหลืองอีก เมื่อไบรอัน รุยซ์ ไปทำฟาวล์ จอร์จอส ซามาราสนาทีที่ 72 คอสตาส มาโนลาส เซ็นเตอร์กรีซ มาโดนเหลืองอีกราย เมื่อไปเข้าหนักใส่ โจเอล แคมป์เบลล์นาทีที่ 77 ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ เทรนเนอร์ คอสตาริกา แก้เกมอีกคน ส่ง จอห์นนี่ อากอสต้า เซ็นเตอร์ ลงมาแทน คริสเตียน แกมบัวด้านกรีซ ก็เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ในนาทีถัดมา ส่งคอสตาส คัตซูรานิส ลงแทน จานนิส มาเนียติสนาทีที่ 82 กรีซ มาได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะฟรีคิก จอร์จอส คารากูนิส เปิดจากกึ่งกลางสนามมาให้ คอสตาส มาโนลาส ได้โหม่ง แต่ก็ข้ามคานออกไป
นาทีต่อมา ทัพกล้วยหอม เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่งแรนดอลล์ เบรเนส ลงมาแทน คริสเตียน โบลันยอสนาทีสุดท้าย เคย์เลอร์ นาวาส นายด่าน คอสตาริกา มาโดนเหลืองอีกราย เมื่อไปถ่วงเวลา
แต่ จากนั้นไม่นาน ทัพเทพนิยาย ที่ตัวผู้เล่นมากกว่า ก็ตามตีเสมอจนได้ ธีโอฟานิส เกคัส ตัวสำรองได้ยิงในเขตโทษ เคย์เลอร์ นาวาส ปัดได้แล้ว แต่บอลไปเข้าทาง โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส ตามซ้ำจ่อๆไม่เหลือ เป็น 1-1 และเป็นประตูแรกในนามทีมชาติของเจ้าตัวด้วยและช่วงทดเจ็บกรีซเกือบได้ประตูชัย คอสตาส มิโตรกลู ได้โหม่งในเขตโทษ บอลจะมุมใต้คานอยู้แล้ว แต่เคย์เลอร์ นาวาส ยังลอยตัวปัดออกหลังไปได้ และจบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาทีแรก แม้กรีซจะเดินเครื่องบุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ก็ยังไม่มีจัวหวะจะแจ้งมากนัก ยังเสมอกันที่ 1-1
นาที 112 จากจังหวะสวนกลับเร็ว กรีซ น่าได้ประตู เมื่อลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส ได้ยิงในเขตโทษฝั่งขวา แต่เป็นทางเคย์เลอร์ นาวาส ที่ยืนตำแหน่งดี เซฟเอาไว้ได้
นาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาทัพเทพนิยาย น่าได้สุดๆอีกครั้ง เมื่อธีโอฟานิส เกคัส โหม่งต่อให้ คอสตาส มิโตรกลู ได้ยิงคนเดียวในเขตโทษ แต่ไปติดขาเคย์เลอร์ นาวาส เซฟได้อย่างหวุดหวิด ครบ 120 นาที ยังเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
หลังจากนั้นแฟร์นานโด ซานโตส เทรนเนอร์กรีซ เดินไปบ่นเบนจามิน วิลเลียมส์ ผู้ตัดสินชาวออสเตรเลีย เลยไล่ออกจากสนามไป
คอสตาริกา เป็นฝ่ายยิงก่อน โดยเซลโซ่ บอร์เกส ซัดตรงกลางประตูไม่เหลือ คอสตาริกา นำ 1-0คอสตาส มิโตรกลู ยิงไปทางซ้ายมือของตัวเองเข้าไป กรีซตามเสมอ 1-1ไบรอัน รุยซ์ กัปตันคอสตาริกา กดด้วยซ้ายไม่พลาด คอสตาริกา นำ 2-1ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส แปด้วยขวาไม่พลาดเช่นกัน กรีซตามเสมอ 2-2จานคาร์โล กอนซาเลซ ยิงให้คอสตาริกา นำอีก 3-2โฮเซ่ โอเลบาส ซัดเสียบมุม ให้กรีซไล่มา 3-3โจเอล แคมป์เบลล์ ซัดคนที่ 4 ไม่เหลือ คอสตาริกา นำ 4-3
คนที่ 4 กร๊ซ ธีโอฟานิส เกคัส โดน เคย์เลอร์ นาวาส ปัดได้ คอสตาริกา ยังนำ 4-3คนสุดท้าย ไมเคิ่ล อูมานย่า สังหารไม่เหลือ คอสตาริกา ชนะ 5-3ทำให้จบเกม คอสตาริกา เป็นฝ่ายเอาชนะ กรีซ ไปได้ในช่วงการดวลจุดโทษ 5-3 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไปพบกับฮอลแลนด์ต่อไปในวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม นี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม (คะแนนความสามารถ)
คอสตาริกา (5-4-1) : เกย์ลอร์ นาวาส (8.5) - คริสเตียน กัมบัว (6.5), ออสการ์ ดูอาร์เต้ (5.5), จานคาร์โล กอนซาเลซ (7), มิเชล อูมันญ่า (7), จูเนียร์ ดิอาซ (7) - ไบรอัน รุยซ์ (กัปตันทีม) (7), เซลโซ่ บอร์เกส (7), เยลต์ซิน เตเฮด้า (6.5), คริสเตียน โบลันโญส (6.5) - โจเอล แคมป์เบลล์ (6.5)
สำรองที่ลงสนาม : โฮเซ่ คูเบโร่(6) (น.66 เยลต์ซิน เตเฮด้า), จอห์นนี่ อกอสต้า (6.5) (น.75 คริสเตียน กัมบัว), รานดัลล์ เบรเนส (6.5) (น.82 คริสเตียน โบลันโญส)
ใบเหลือง: ออสการ์ ดูอาร์เต้ น.42, เยลต์ซิน เตเฮด้า น.48, ออสการ์ กรานาโดส น.56, ไบรอัน รุยซ์ น.70, เคย์ลอร์ นาวาส น.90
ใบเหลือง-แดง : ออสการ์ ดูอาร์เต้ น.66
กรีซ (4-2-3-1) : โอเรสติส คาร์เนซิส (6)- วาซิลิส โตโรซิดิส (6), คอสตาส มาโนลาส (6), โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส (7), โฮเซ่ โอเลบาส (7)- จานนิส มาเนียติส (6), จอร์จอส คารากูนิส (กัปตันทีม) (6) - ดิมิทริส ซัลปินกิดิส (6), อันเดรียส ซามาริส (5.5), ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส (6.5) - จอร์จอส ซามาราส (6.5)
สำรองที่ลงสนาม : คอสตาส มิโตรกลู (6.5) (น.58 อันเดรียส ซามาริส), ธีโอฟานิส เกคัส (6.5) (น.69 ดิมิทริส ซัลปินกิดิส), คอสตาส คัตซูรานิส (6) (น.76 จานนิส มาเนียติส)
ใบเหลือง : อันเดรียส ซามาริส น.36, คอสตาส มาโนลาส น.72
ผู้ชม: 41, 242 คน
ผู้ตัดสิน : เบนจามิน วิลเลียมส์ (ออสเตรเลีย)
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ (FIFA.com) : เกย์ลอร์ นาวาส (คอสตาริกา)
นายทวาร์วัย 27 ปีจากเลบันเต้ เกมนี้สมควรอย่างยิ่งกับการถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม หลังโชว์ซูเปอร์เซฟถึง 7 ครั้งไม่ว่าจะเป็นลูกยิงเผาขนในครึ่งเวลาแรกของ ดิมิทริส ซัลปินกิดิส หรือครึ่งหลังซึ่งทัพติกอสเหลือผู้เล่นแค่10คน โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมจากลูกโขกของ คอสตาส มิโตรกลู กับอีกครั้งช่วงต่อเวลาพิเศษ มิโตรกลู ได้ยิงโล่งๆแต่ นาวาส ก็เซฟด้วยขาเอาไว้ได้ ก่อนจะเป็นฮีโร่ในช่วงดวลจุดโทษซึ่งตัวเขาพุ่งไปทางด้านขวาก่อนจะปัดด้วยมือ ซ้ายปฏิเสธลูกยิงของ ธีโอฟานิส เกคัส พาทีมเอาชนะในการยิงจุดโทษ 5-3 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
- คอสตาริกา ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรก
- คอสตาริกา เป็นชาติแรกจากโซนคอนคาเคฟ นับตั้งแต่ปี 2002 ที่ไปได้ไกลกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก ฟุตบอลโลก 2014 (ทีมสุดท้ายก่อนหน้านี้คือ สหรัฐอเมริกา)
- ลูกนำ 1-0 ของ คอสตาริกา มาจากการยิงตรงกรอบครั้งแรกของพวกเขาในเกมนี้ และยังเป็นการยิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียวของ คอสตาริกา ในนัดนี้ด้วย
- ประตูของ ไบรอัน รุยซ์ นับเป็นลูกที่ 19 ที่นักเตะกัปตันทีมสามารถยิงได้ในการแข่ง ฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
- คอสตาริกา เสียประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์เป็นครั้งแรกในการแข่ง ฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย (ประตูเดียวก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเสียไปคือจุดโทษของ เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย)
- คอสตาริกา ได้รับใบแดงเป็นครั้งแรกในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
- นี่เป็นครั้งแรกที่ กรีซ ทำประตูได้ในเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย แต่ไม่ชนะ
- นี่เป็นเพียงประตูที่ 5 ของ กรีซ ในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จากการลงเล่น 10 นัด
- กรีซ ไม่เสียประตูในเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น
- เธโอฟานิส เกคาส กลายเป็นนักเตะที่มีอายุมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ยิงจุดโทษในการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ไม่เข้า ด้วยวัย 34 ปี กับอีก 37 วัน เป็นรองเพียง ฟรังโก้ บาเรซี่ ตำนานกองหลังชาวอิตาเลียนเพียงคนเดียวเท่านั้น (บาเรซียิงพลาดในนัดชิงดำกับ บราซิล เมื่อปี 1994 ด้วยวัย 34 ปี กับอีก 70 วัน)
- 9 ครั้งหลังสุดของการดวลเป้าในเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปรากฎว่าทีมที่ได้ยิงก่อนเป็นฝ่ายชนะทั้งหมด
- นี่เป็นเกมที่มีการแจกใบเหลืองและใบแดงรวมแล้วมากที่สุด ด้วยจำนวน 7 ใบ (6 ใบเหลืองกับ 1 ใบแดง) เทียบเท่ากับเกมระหว่าง บราซิล กับ ชิลี
- ในการแข่ง ฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย มีการทำไปแล้ว 145 ประตู เทียบเท่ากับการแข่งเมื่อ 4 ปีก่อนทั้งทัวร์นาเมนต์
