ปอนด์ต่อปอนด์ : เยอรมัน v แอลจีเรีย
30/06/2014 ขอบคุณ siamsportวันที่ 3 ของรอบ 16 ทีมสุดท้าย น่าติดตามอย่างยิ่ง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน หนึ่งในทีมเต็ง เตรียมโซ้ยกับ "นักรบทะเลทราย" ไนจีเรีย เปรียบเทียบทั้งสองทีมแบบหัวจรดเท้าแล้ว ผลออกมาเป็นเช่นไร กรุณาเหวี่ยงสายตาดูบรรทัดข้างล้างนี้...
เยอรมัน
ขุมกำลัง
ผู้รักษาประตู (8.4)
หากจะหายอดนายทวารสักรายบนพื้นพิภพนี้เชื่อเหลือเกินว่าชั่วโมงนี้เลือกมา 1 คนยังไงก็ต้องมีชื่อของ มานูเอล นอยเออร์
จุด เด่นของเจ้าตัวไม่จำเป็นต้องสาธยายให้มากความ เอาเป็นว่าผู้รักษาประตูที่ดีต้องมีอะไรบ้าง มือกาวจากเสือใต้ทำได้ครบ แถมอยู่ในข่ายยอดเยี่ยมเสียด้วย
นอกจากนี้เขายังเป็นนายทวารที่ใช้ เท้าได้ดี เพียงแต่ว่าในบางครั้งบางคราวอาจจะมีลูกแอ๊กต์ลูกโชว์มากเกินไปหน่อย กระนั้นหากยิงไม่เด็ดขาดจริงๆ อย่าหวังจะได้กิน นอย์เออร์
กองหลัง (8.2)
แม้ แพร์ แมรเตซัคเกอร์ กับ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ จะเล่นได้อย่างเข้าขายอดเยี่ยม เป็นกำลังหลักให้ทีมได้เป็นอย่างดี ทว่าก็ต้องไม่ลืมตำแหน่งแบ็กที่เป็นปัญหาของทีมด้วย
ชัดเจนเลยว่า โยกี้ เลิฟ เลือกแล้วว่าจะใช้เซนเตอร์แบ็กทั้ง 4 คนลงเป็นแบ็กโฟร์ร่วมกัน โดยมี เบเนดิค โฮเวเดส เป็นแบ็กซ้าย ส่วนอีกฟากแล้วแต่ความฟิตของใคร
จาก 3 เกมที่ผ่านมานั่นคือจุดอ่อนที่สำคัญของทัพ "อินทรีเหล็ก" ทั้งๆ ที่มีแบ็กเวิลด์คลาสอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม อยู่ แต่ เลิฟ เชื่อว่าทีมเอาอยู่ กระนั้นอย่างที่เห็นในเมื่อไม่ใช่แบ็กอาชีพผลงานย่อมออกมาไม่ร้อย เปอร์เซ็นต์แน่นอน
กองกลาง (9.3)
จะว่าไปนี่ คือกองกลางที่ดีที่สุดในเวิลด์ คัพ ครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย นักเตะอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม, ซามี่ เคห์ดิร่า, โทนี่ โครส หรือ บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ เป็นตัวจริงทีมไหนก็ได้ในฟุตบอลโลกเที่ยวนี้
ทุกคนร่วมกันเล่นแถม คุมจังหวะเกมเข้าขา รู้ใจไม่ว่าจะเป็นเกมรับ และเกมรุก แถมมีทีเด็ดที่การยิงไกล ขณะที่เกมรับก็สอดประสานงานกันได้อย่างลงตัว ดูแล้วเอาใครลงก็ไม่น่าเกลียด
กองหน้า (9.5)
พี กสุดๆ สำหรับแนวรุกของทัพอินทรีเหล็ก แม้จะไม่มี มาร์โค่ รอยส์ ที่ดวงแตก ทว่าทั้ง มาริโอ เกิตเซ่อ, เมซุต โอซิล, อังเดร เชือร์เล่ ต่างเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ
นอกจากนี้ โธมัส มุลเลอร์ กลายเป็นคีย์แมนของทีมเรียบร้อยแล้ว และในไม่ช้าเจ้าตัวจะกลายเป็นตำนานนักเตะที่ยิงในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมากที่สุดแน่นอน
ขณะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ หรือ ลูคัส โพดอลสกี้ ยังมีทีเด็ด และพร้อมจะลงมาเปลี่ยนแปลงเกมตลอด ซึ่งนั่นเป็นปัญหาที่ เลิฟ ต้องปวดหัวยามเลือกทีมรุก แต่ก็คงเป็นปัญหาที่กุนซือหลายๆ ทีมอยากจะเป็น
ขุมกำลังสำรอง (8.9)
นี่คือขุมกำลังสำรองที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกเที่ยวนี้ก็ว่าได้ เพราะพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า เลิฟ จัดใครลงเป็นตัวจริงก็ไม่น่าเกลียด
นัก เตะทุกๆ รายพร้อมเล่นเป็นตัวจริง และทำผลงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น โพลดี้, ยูเลียน ดรั๊กซ์เลอร์, โคลเซ่ หรือเชือร์เล่ ปัญหาเดียวของพวกเขาอยู่ที่แนวรับสำรองอ่อน
ทั้ง ชโครดาน มุสตาฟี่, คริสโตเฟอร์ คราเมอร์ หรือเอริค ดวร์ม อ่อนเกินไปกับเวทีเวิลด์ คัพ ทว่าดูแล้วไม่ถึงมือพวกเขาแน่นอนที่จะได้ลงสนาม หากตัวหลักไม่เจ็บเยอะแบบน่าเกลียด
เทรนเนอร์ (8.3)
ถือ ว่ายอดเยี่ยมสำหรับ เลิฟ ในการทำงานอย่างไรก็ตามนั่นอาจจะเป็นเพราะระบบที่ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ วางรากฐานเอาไว้ให้ รวมถึงผู้เล่นที่สุกงอมได้ที่ขึ้นมาพร้อมๆ กัน
จุดเสียของ เลิฟ อยู่ที่หัวรั้น และดื้อเกินไป แถมชอบยึดติดกับ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ของประเทศอาทิดึงดันให้ ลาห์ม เล่นกลางรับ
ขณะที่จุดอ่อนแบ็กโฟร์ยังเป็นปัญหา แต่เขาก็มั่นใจว่า 4 เซนเตอร์ฮาล์ฟที่เอามายืนเรียงกันจะใช้งานได้ไปตลอดรอดฝั่ง
รวมคะแนน : 52.6
ผลงานรอบแรก
ลงสนาม 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ยิงได้ 7 เสีย 2
16/06/14 ชนะ โปรตุเกส 4-0
21/06/14 เสมอ กาน่า 2-2
26/06/14 ชนะ สหรัฐฯ 1-0
********************************************
แอลจีเรีย
ขุมกำลัง
ผู้รักษาประตู (6.9)
ไม่ได้เหนียวแน่น และเป็นที่พึ่งให้ทีมได้มากมายอะไรเลยสำหรับ ราอิส เอ็มโบลี นายทวารจาก ซีเอสเคเอ โซเฟีย
มาตรฐานตลอด 3 เกมที่ผ่านมาของเขาจัดว่าธรรมดา โชคดีที่มีเกมรับเหนียวแน่นมาช่วยประคับประคองเอาไว้
นอก จากนี้เจ้าตัวยังมีการเตะเปิดเกมที่ไม่ได้เรื่องทำให้ทีมเสียเปรียบอยู่บ่อย ครั้ง ข้อดีของเจ้าตัว คือ รูปร่างสรีระสูงใหญ่เล่นลูกกลางอากาศดีเท่านั้น
กองหลัง (7.3)
ไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งอะไรมากมายสำหรับแนวรับ แอลจีเรีย แต่พวกเขาเป็นทีมที่เล่นด้วยวินัยเป็นหลัก แถมมีลูกขยันตลอดเวลา
ใน เกมแรกเกือบจะต้านทานเกมรุกของ เบลเยียม อยู่ แต่ก็มาพลาดง่ายๆ ท้ายเกม ส่วนเกมรุกได้จุดเด่นของ ฌาแมล เมสบาห์ แบ็กซ้าย กับ แบ็กขวาอย่าง อิสซ่า ม็องดี้ มาช่วยครอสบอล
กองกลาง (7)
หนักไปทาง ตัดเกม และเชื่อมเกมมากกว่าสำหรับคู่กลางของทีมอย่าง คาร์ล เม็ดฌานี่ อดีตนักเตะของ ลิเวอร์พูล รวมถึง นาบิล เบนตาเล็บ เด็กจากเล้าไก่เดือยทอง
ทั้งคู่ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมากมาย และเป็นผึ้งงานสำหรับทีมเสียมากกว่าในการช่วยเกมรับ ตัดเกม และคอยถ่ายบอลมาถึงแนวรุก
กองหน้า (7.4)
ทำ ได้ดีเกินความคาดหมายสำหรับแนวรุกของพวกเขา ทั้ง โซฟียาน เฟอกูลี่ จอมทัพจาก บาเลนเซีย รวมถึง ยาซีน บราอิมี่ และอับแดลมูเมน ฌาบู
ความคล่องตัว คือ จุดเด่นของแนวรุกชุดนี้ สถานการณ์ 1-1 พวกเขาเอาตัวรอดได้เก่งด้วยเทคนิคที่ยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ทั้ง 3 รายยังสามารถสลับสับเปลี่ยนปรับตำแหน่งการยืนของตัวเองในการเล่นร่วมกันได้ทั้ง 3 ราย
ยิ่ง การเรียก อิสลาม สลิมานี่ กลับมาเป็นหน้าเป้ายิ่งช่วยได้เยอะ หลังถูกดร็อปไปในเกมแรก เพราะ สลิมานี่ เล่นลูกกลางอากาศดี แถมมีความเร็ว นอกจากนี้เขายังยิงประตูได้เฉียบคมเข้าข้อ
ขุมกำลังสำรอง (6.6)
อาจ จะดูว่าอ่อนด้อยไปเล็กน้อยหากเทียบกับทีมอื่นๆ ที่หลุดเข้ารอบมา ทว่า ริยาด มาห์เรซ เด็กเลสเตอร์, ซาฟีร์ เทแดร์ และเมห์ดี้ ลาเซ็น ก็ถือเป็นทีเด็ด แถมยังเคยเป็นตัวจริงมาก่อน
อย่างไรก็ตามเกมรับของพวกเขาหากมีใคร บาดเจ็บขึ้นมา และต้องใช้ตัวสำรองลงเล่นดูแล้วโอกาสโดนมีสูง เพราะทั้ง ลิอาสซีน ซาดามูโร่ และเอสซาอิด แบลคาเลม อ่อนชั้นเหลือเกิน
เทรนเนอร์ (7.2)
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของทีมเลยก็ว่าได้ เพราะ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิซ ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนในลีก ฝรั่งเศส
เขาเคยทำงานร่วมกับนักเตะชั้นยอดมากอย่างมากมาย ทำให้มีความสามารถในการอ่านเกม และแก้เกมได้ดีเยี่ยม
นอก จากนี้เขายังเป็นเทรนเนอร์ที่เฮี๊ยบ และกระตุ้นลูกทีมจากข้างสนามได้ดี สังเกตได้จากเกมกับ รัสเซีย ที่เล่นกันได้ยอดเยี่ยมทั้งทีม รวมถึงกุนซือ
รวมคะแนน : 42.4
ผลงานรอบแรก
ลงสนาม 3 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 6 เสีย 5
17/06/14 แพ้ เบลเยียม 0-1
22/06/14 ชนะ เกาหลีใต้ 4-2
26/06/14 เสมอ รัสเซีย 1-1
ข่าวฮอต
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3