อาร์เจนติน่า

 ขุมกำลัง 

 ผู้รักษาประตู (6.8)
 เซร์คิโอ โรเมโร่ อาจจะเป็นนายทวารของทีมใหญ่ ทว่าเขาไม่ใช่ประตูที่ไว้ใจได้สักเท่าไหร่ ช็อตซูเปอร์เซฟจังๆ แทบไม่มี
 
 ทั้ง 3 ประตูที่เสียไปในรอบแรกต้องโทษว่าแนวรับก็มีส่วน ทว่าจริงๆ แล้วการเป็นนายทวารจากสโมสรใหญ่เขาควรทำอะได้ไม่กว่านี้
 
 โร เมโร่ อาจจะไม่ได้ทำให้ทีมเสียหายอะไรเมื่อเล่นได้ตามมาตรฐาน แต่หากเจอเกมหนักๆ แล้วไม่เซฟเลย เกมรุก "ฟ้า-ขาว" คงต้องไล่ยิงเอาชนะให้ได้ทุกเกม

 กองหลัง (7)
 เป็น จุดอ่อนที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับ "เต็งสอง" จากดินแดนฟ้า-ขาว เมื่อกองหลังอย่าง เฟเดริโก้ เฟอร์นานเดซ หรือ มาร์กอส โรโฮ ชั้นบอลยังไม่ถึงเล่นให้ทีมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับสโมสรหรือนานาชาติ
 
 จริง อยู่ในรายของ เอเซเกล การาย ยังถือว่าเป็นกองหลังมีชื่อ ทว่าเจ้าตัวก็ช้าเหลือเกิน เช่นเดียวกับสองรายที่ว่ามาก่อนหน้านี้ ส่วน ปาโบล ซาบาเลต้า ก็เหมือนเล่นดีแค่กับระดับสโมสร
 
 ยิ่งหากเล่นเซน เตอร์ฮาล์ฟ 3 รายแล้วส่ง ฮูโก้ คามปานญาโร่ ลงมาอีกราย เท่ากับว่ากองหลังอาร์เจนฯ มีแต่พวกเชื่องช้า และในเกมกับ ไนจีเรีย ก็แสดงอาการมาแล้ว

  กองกลาง (7.3)
 ใช้แดนกลางไม่มากนักสำหรับทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า เมื่อคู่กลางของทีมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคอยทำหน้าที่ตัดเกมเท่านั้น
 
 งานหนักของ ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ และเฟอร์นานโด กาโก้ อยู่ที่ชะลอเกมรุกของคู่ต่อสู้อยู่ตรงกลางสนามเท่านั้น
 
 ส่วน เกมรุกไม่ต้องไปพูดถึง 2 รายนี้แทบจะเรียกได้ว่าเล่นไม่เป็นเลย และในยามที่ทีมต้องการประตู รายใดรายหนึ่งจะโดนถอดออกตามที่เกิดขึ้นในรอบแรก

 กองหน้า (9.5)
 แนว รุกที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของทัวร์นาเมนต์เลยก็ว่าได้ ไม่ใช่เพราะ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย หรือเอเซเกล ลาเวซซี่
 
 แต่ เพราะ อาร์เจนติน่า ชุดนี้มี ลีโอเนล เมสซี่ คอยชำเราคู่แข่งนั่นเอง และตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จาก 3 เกมรอบแรกคงบ่อบอกอะไรได้ดี
 
 นี่ คือ นักเตะที่สามารถแบกทีมได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว และกรุณาลืมฟอร์มกับต้นสังกัดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไปเสียก่อน 
 
 เพราะกับทีมชาติบ้านเกิดเที่ยวนี้ เมสซี่ เล่นเกินร้อยทุกนัด และเริ่มท็อปฟอร์มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละนัดที่ผ่านไปให้กับ อาร์เจนติน่า
 
 ซัดประตูที่สองในเวิลด์ คัพ เกมกับ บอสเนียฯ, ยิงประตูชัยในวินาทีสุดท้ายกับ อิหร่าน และกระทุ้งอีก 2 รวมถึงฟรีคิกใส่ ไนจีเรีย
 
 ข้อ เสียอย่างเดียว คือ นักเตะคนอื่นๆ ต้องอย่าฝากความหวังไว้ที่ เมสซี่ คนเดียวเท่านั้น และการขาด กุน ที่เจ็บต้องพักยาวทั้งทัวร์นาเมนต์ทำให้ เมสซี่ ต้องรับบทหนักกว่าเดิมแน่นอน

 ขุมกำลังสำรอง (6.8)
 ถือว่าไม่ได้เรื่องสำหรับพลพรรค "อัลบิเซเลสเต้" ชุดนี้เมื่อบรรดากำลังสำรองของทีมดูไม่ค่อยโอเท่าไหร่ และประสิทธิภาพน้อย
 
 ทั้ง โฮเซ่ บาซานต้า กับ มาร์ติน เดมิเคลิส ในตำแหน่งกองหลังก็หมดสภาพแล้ว กองกลาง อกุสโต้ เฟอร์นานเดซ หรือ เอ็นโซ่ เปเรซ ก็เกรดบอลธรรมดาๆ
 
 โชคดีที่ในแนวรุกพวกเขายังพอมี ลาเวซซี่ เป็นตัวเลือก กระนั้น โรดริโก้ ปาลาซิโอ กับ มักซี่ โรดริเกซ ก็ไม่ไหวเอาเสียเลย

 เทรนเนอร์ (7.1)
 แค่การเลือกตัวผู้เล่นก็ไม่เข้าท่าแล้วสำหรับเทรนเนอร์รายนี้ ยิ่งฟอร์มที่ออกมาตลอด 3 เกมแรกไม่มีนัดไหนที่น่าประทับใจเอาเสียเลย
 
 ซาเบย่า ไม่ได้แก้เกมอะไรให้ทีมดีขึ้นเลย แต่เป็น เมสซี่ ต่างหากที่พาทีมขึ้นมาจากเหวในแต่ละนัดด้วยความสามารถเฉพาะตัว
 
 เกม กับ อิหร่าน นอกจากแท็คติกจะแย่ เขายังเปลี่ยนตัวแก้เกมแย่ และช้า เช่นเดียวกับในเกมกับ บอสเนียฯ ที่อยู่ๆ ก็มาใช้ 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟ

 รวมคะแนน : 44.6

ผลงานรอบแรก 
 ลงสนาม 3 นัด ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ยิงได้ 6 เสีย 3

 15/06/14 ชนะ บอสเนียฯ 2-1

 21/06/14 ชนะ อิหร่าน 1-0

 25/06/14 ชนะ ไนจีเรีย 3-2

*******************************************************

 สวิตเซอร์แลนด์

 ขุมกำลัง 

 ผู้รักษาประตู (7.7)
 
 แม้จะเสียประตูค่อนข้างเยอะในรอบแรกทว่า ดีเอโก้ เบนาโญ่ นายทวารจาก โวล์ฟสบวร์ก ก็ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ไม่เลว
 
 ฟอร์มของเขาถือว่าใช้ได้เลยกับการเฝ้าเสาให้กับทีมใหญ่ ช็อตซูเปอร์เซฟช่วยชีวิตทีมในเกมกับ เอวาดอร์ ในเกมแรกยังติดตาใครหลายคน 
 
 ส่วน ในเกมกับ ฝรั่งเศส ต้องถือว่าเป็นเรื่องโชคร้าย เพราะแนวรับยุ่ยเละเทะเหลือเกิน กระนั้นเขายังเซฟลูกจุดโทษของ คาริม เบนเซม่า ได้ด้วยซ้ำ

 กองหลัง (6.7)
 ต้องเรียกว่าตัวฉุดทีมอย่างแท้จริงสำหรับแนวรับเมื่อเสีย สตีฟาน ฟอน เบอร์เก้น ที่โดนเตะใส่โหนกแก้มแตกถอนตัวออกจากทัวร์นาเมนต์แล้ว
 
 ยาม ใดก็ตามที่ ฟิลิปปป์ เซนเดอรอส กับ โยฮัน ฌูรู ยืนคู่กันความบรรลัยก็จะเกิดขึ้น โชคดีที่ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ เริ่มคิดได้ให้โอกาส ฟาเบียน ชาร์ ลงสนาม
 
 ด้านริมเส้นสองฝั่ง ริคาร์โด้ โรดริเกซ โชว์ฟอร์มการเล่นทั้งรับ-รุกได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับที่ถูกยกให้เป็นดาวรุ่ง ดวงใหม่ในตำแหน่งนี้
 
 ทว่ากับ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีกับ ยูเวนตุส มาทั้งฤดูกาล แถมเป็นพี่ใหญ่ในแนวรับเขาต้องช่วยทีมให้มากกว่าที่เป็นอยู่

 กองกลาง (7)
 ถือ ว่าไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรจากผลงานในรอบแรกเพราะที่ง โกคาน อินเลอร์ หรือ วาห์ลอน เบราห์มี่ เป็นพวกประเภทปิดทองหลังพระเสียมากกว่า
 
 ทั้งสองรายเป็นตัวเชื่อมเกมจากแดนหลังมาสู่แดนหน้า และทำหน้าที่เป็นลูกหาบคอยตัดเกมลำเลียงบอลมากกว่าทำหน้าที่อื่นๆ
 
 อย่างไรก็ตามหากในรอบลึกๆ ที่พวกเขาต้องเจอทีมใหญ่ๆ ทั้งคู่ก็ควรที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาเพื่อช่วยทีมให้ได้มากกว่านี้

 กองหน้า (7.8)
 ไม่เลวเลยสำหรับเกมรุกของทีมแดนนาฬิกาเมื่อยิงได้ถึง 7 ประตูจาก 3 เกม และมี เซอร์ดาน ชากิรี่ ซัดไปแล้ว 1 แฮตทริก
 
 จริงๆ แนวรุกของพวกเขาได้รับการยกย่องพอสมควรว่าวูบวาบทุกรายไม่เฉพาะปีกจาก บาเยิร์น มิวนิค
 
 แต่ทั้ง อั๊ดมีร์ เมเมห์ดี้, กรานิต ชาก้า หรือ โยซิป เดอร์มิช ต่างเป็นดาวรุ่งแห่งอนาคตที่เล่นได้อย่างวูบวาบ
 
 อย่าง ไรก็ตามในเกมใหญ่ๆ เมเจอร์ระดับเวิลด์ คัพ แนวรุกต้องใช้โอกาสไม่เปลือง และด้วยอายุที่ยังน้อย กลุ่มนักเตะพวกนี้ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองได้อีก

 ขุมกำลังสำรอง (6.7)
 ถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แม้จะมีตัวเลือกมีชื่อเยอะทั้ง ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ที่เล่นได้อย่างห่วยแตกเกมเจอ ฝรั่งเศส
 
 เกลสัน แฟร์นันเดส หรือ ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้า ก็ฟอร์มตกลงไป และเสียตำแหน่งให้พวกดาวรุ่งเรียบร้อย
 
 ด้าน เรโต้ ซีกเลอร์ หรือ มาริโอ กาฟราโนวิช เล่นได้ไม่เหมือนที่เคยเป็นกับสโมสร และนั่นทำให้หากถึงคราวคับขัน ฮิตซ์เฟลด์ ก็คิดหนักเหมือนกัน

 เทรนเนอร์ (8.4)
 ไม่ต้องสังสัยเลยว่า สวิตเซอร์แลนด์ มาถึงจุดนี้ได้เพราะกุนซือรายนี้แน่นอน ประสบการณ์โชคโชน แชมป์ยุโรปก็เคยเป็นมาแล้ว
 
 เขาเข้ามาวางรากฐานแห่งอนาคตให้ทีมด้วยการมอบโอกาสให้ดาวเตะอายุน้อยๆ ที่เล่นดีได้ลงเล่นมากกว่าจะยึดติดกับชื่อชั้น
 
 ขณะ ที่เกมกับ เอกวาดอร์ ที่คัมแบ็กกลับมาชนะ รวมถึงหมากในเกมพิฆาต ฮอนดูรัส คงได้เห็นฝีไม้ลายมือเขาแล้ว และนี่เป็นจุดที่แข็งที่สุดของทีม

 รวมคะแนน : 44.3

 ผลงานรอบแรก 
 ลงสนาม 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ยิงได้ 7 เสีย 6

 15/06/14 ชนะ เอกวาดอร์ 2-1

 20/06/14 แพ้ ฝรั่งเศส 2-5

 25/06/14 ชนะ ฮอนดูรัส 3-0