อาร์เจนฯส่งเมสซี่นำซัด,เบลเยียมจัดอาซาร์โป้งสู้
05/07/2014 ขอบคุณ siamsport
(รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2557
อาร์เจนตินา - เบลเยียม
ถ่ายทอดสด : ททบ.5, ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports, (เวลา: 23.00 น.)
สนาม : เอสตาดิอู นาซิออนนาล, (บราซิเลีย, บราซิล)
อเลฮานโดร ซาเบย่า เทรนเนอร์ร่างเล็กของทีมชาติอาร์เจนตินา พาทีมเก็บชัยสามนัดรวดในรอบแบ่งกลุ่มเหนือ บอสเนียฯ, อิหร่าน และ ไนจีเรีย เก็บ 9 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์กลุ่มเอฟ ได้ตามเป้าหมาย ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องออกแรงสุดเหนื่อยกว่าจะพิชิต สวิตเซอร์แลนด์ ลงได้ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอกัน 0-0 ในเวลา 90 นาที เมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในเซา เปาลู จนทะยานเข้ามาเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ จะพบกับ เบลเยียม ที่เมืองบราซิเลีย ในวันเสาร์ที่ 5 ก.ค. นี้
ความพร้อมทั่วไปนั้น อาร์เจนตินา จะต้องขาด มาร์กอส โรโฆ แบ็กซ้ายจอมบุกที่ติดโทษแบน 1 นัด หลังจากได้ใบเหลืองสะสมครบ 2 ใบ ตามโควตาพอดี ทำให้ต้องใช้งาน โฮเซ่ บาซานต้า ปราการหลังจากสโมสรมอนเตอร์เรย์ ในลีกเม็กซิโก ลงมาเล่นแทน
ส่วนรายของ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กองหน้าตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายฉีกจากเกมนัดสุดท้ายของ รอบแบ่งกลุ่ม กับ ไนจีเรีย จนชวดลงสนามในนัดล่าสุดกับสวิสนั้น ฟื้นตัวได้ดี กลับมาลงซ้อมเบาๆ พร้อมหวดบอลได้แล้วเป็นเวลาประมาณ 15 นาที เมื่อวันพุธที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และ อาจจะกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ในเร็วๆ นี้ บางทีอาจมีชื่อเป็นสำรองนัดเจอกับ เบลเยียม ด้วย
สามประสานแดนหน้าต้องเลือกว่าจะให้ โรดริโก้ ปาลาซิโอ หรือ เอเซเกล ลาเวซซี่ คนใดคนหนึ่งที่จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงลงล่าตาข่ายร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมที่ซัดไปแล้ว 4 ประตู และ กอนซาโล่ อิกวาอิน
แผงหลังนั้นยึดมั่นกับ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟกับ เอเซเกล การาย โดยมี ปาโบล ซาบาเลต้า ยืนแบ็กขวา ส่วนแบ็กซ้ายนั้นเกมนี้ปรับมาใช้ โฮเซ่ บาซานต้า ยืนแทน โรโฆ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น
ขณะที่แดนกลางนั้นให้ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงวัย 30 ปี ที่จะลงรับใช้ชาติเป็นนัดที่ 103 ยืนคุมเกมร่วมกับ เฟร์นานโด กาโก้ ปล่อยให้ อังเคล ดิ มาเรีย ฮีโร่นัดเอาชนะ สวิส นั้น มีอิสระในการช่วยปั้นเกมรุก
ทางด้าน "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ทีมชาติเบลเยียม ภายใต้การคุมทัพของ มาร์ค วิลม็อตส์ พาทีมเอาชนะ สหรัฐอเมริกา มาได้อย่างสนุก 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เมืองซัลวาดอร์ เมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากเสมอกัน 0-0 ในเวลา 90 นาที
สภาพทีมของเบลเยี่ม ไม่มี อองโตนี่ ฟานเดน บอร์ วิงแบ็กกราบขวาวัย 26 ปี ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วน โธมัส แฟร์มาเล่น เซนเตอร์ฮาล์ฟที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่ได้ลงสนามในเกมล่าสุดนั้น คงมีชื่อเป็นแค่สำรองเท่านั้น ส่งผลให้ ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น คงได้จับคู่กับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กัปตันทีม อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจะได้ตัว สเตเว่น เดอฟูร์ กองกลางตัวรับพ้นโทษแบนกลับมา ทว่าคงเป็นแค่สำรอง โดยมิดฟิลด์คู่กลางนั้นให้ อั๊กเซิ่ล วิตเซิ่ล ยืนคู่กับ มูสซ่า เดมเบเล่ ซึ่งรายของ มารูยาน เฟลไลนี่ น่าจะเป็นแค่สำรองในเกมนี้
แนวรุกนั้นส่ง เควิน มิรัลลาส ลงเล่นเป็นตัวจริงผนึกกำลังกับ เควิน เดอ บรอยน์ และ เอแด็น อาซาร์ ช่วยกันปั้นเกมรุกสนับสนุน ดิว็อค โอริกี้ ศูนย์หน้าดาวรุ่งวัย 19 ปีจากสโมสรลีลล์ ที่จะลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นนัดที่ 2 ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ขณะที่ โรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างใหญ่ที่โชว์ฟอร์มได้ดี เมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมกับสหรัฐฯ นั้น จะยังเป็นเพียงแค่สำรอง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
อาร์เจนติน่า : เซร์คิโอ โรเมโร่ - ปาโบล ซาบาเลต้า, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, เอเซเกล การาย, โฮเซ่ บาซานต้า - เฟร์นานโด กาโก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อังเคล ดิ มาเรีย - ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม), กอนซาโล่ อิกวาอิน, โรดริโก้ ปาลาซิโอ (เอเซเกล ลาเวซซี่)
เบลเยี่ยม: ติโบต์ กูร์กตัวส์ - โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, แว็งซ็องต์ ก็องปานี (กัปตันทีม), แยน แฟร์ต็องเก้น - มูสซ่า เดมเบเล่, อั๊กเซิ่ล วิตเซิ่ล - เควิน มิรัลลาส, เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ - ดิว็อค โอริกี้
- อาร์เจนตินาชนะ 3 จาก 4 ทั้งหมด 4 เกมที่เจอกับเบลเยียม โดยยิงได้ 10 เสียไป 4
- คู่นี้ผลัดกันชนะฝั่งละครั้งในฟุตบอลโลก เบลเยียมชนะ 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม 1982 ก่อนอีก 4 ปีต่อมา อาร์เจนตินาล้างแค้น 2-0 จากการเหมายิงของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ในรอบตัดเชือก ซึ่งเป็นการพบกันหนล่าสุดของทั้งสองทีมด้วย
- นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2010 อาร์เจนตินาชนะถึง 8 จาก 9 เกม โดยแพ้แค่นัดเดียวในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 4 ปีก่อน (แพ้เยอรมัน 0-4)
- อาร์เจนตินาชนะ 6 จากเกมฟุตบอลโลก 19 นัดหลังที่เจอคู่แข่งยุโรป
- ทีมฟ้าขาวผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้ 3 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกันแล้ว ทว่าไม่เคยไปไกลกว่านี้นับตั้งแต่เข้าชิงชนะเลิศเมื่อปี 1990
- อาร์เจนตินาไม่ผ่านรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้ง 4 หนล่าสุด โดยหลังจากชนะจุดโทษยูโกสลาเวียในปี 1990 ก็จอดป้ายในปี 1998 (แพ้ฮอลแลนด์ 1-2), 2006 (แพ้จุดโทษเยอรมัน) และ 2010 (แพ้เยอรมัน 0-4)
- เบลเยียมผ่านมาถึงรอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ต่อจากปี 1986 ที่ทีมคว้าอันดับ 4 มาครอง
- อาร์เจนตินาเป็นฝ่ายชนะ (ทั้งในเวลา 120 นาทีและดวลจุดโทษ) ถึง 6 จาก 7 หนหลังเมื่อเกมยืดเยื้อถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ
- อาร์เจนตินา กับเบลเยียม คือ 2 ใน 4 ทีมร่วมกับโคลอมเบีย และฮอลแลนด์ ที่เก็บชัยทุกนัดในฟุตบอลโลกหนนี้ (รวมต่อเวลาพิเศษ)
- ทั้ง 4 ชัยชนะดังกล่าวของอาร์เจนตินา และเบลเยียม ล้วนเกิดขึ้นด้วยผลต่างประตูเดียวทุกนัด
- เบลเยียมได้ 6 ประตูฟุตบอลโลกหนนี้ในช่วงหลังจากนาที 70 โดย 4 ในจำนวนนั้นมาจากผู้เล่นสำรอง
- เบลเยียมเป็นฝ่ายขึ้นนำคู่แข่งกินเวลารวมแค่ 52 นาทีจาก 4 เกมฟุตบอลโลก น้อยกว่าทุกทีมที่หลงเหลือในรอบนี้
- เบลเยียม และอาร์เจนตินา ทำสถิติส่องคู่แข่งมากที่สุด (83 และ 80 ตามลำดับ) โดยทีมปีศาจแดงยุโรปยังยิงตรงกรอบมากที่สุดด้วย (32)
- อาร์เจนตินาครองบอลเฉลี่ย 64.3 เปอร์เซ็นต์ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ มากกว่าทุกทีม
- ลิโอเนล เมสซี่ มีส่วนร่วมถึง 5 (ยิง 4 จ่าย 1) จาก 7 ประตูของอาร์เจนตินา โดย 3 ในจำนวนประตูที่ทำได้นั้นมาจากนอกเขตโทษ
- เมสซี่ ครองสถิติเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากสุด (24) และสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมมากสุด (18)
- ในเกมรอบที่แล้ว อังเคล ดิ มาเรีย หาโอกาสยิงได้ 12 ครั้ง เป็นสถิติมากที่สุดสำหรับนักเตะฟ้าขาวนับตั้งแต่ปี 1966 ก่อนเจ้าตัวเป็นฮีโร่พังประตูชัยต่อเวลาพิเศษ
- ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองกลางอาร์เจนตินา แย่งบอลมากกว่าผู้เล่นทุกคนในฟุตบอลโลกหนนี้ (18 จาก 22 ครั้ง)
- เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์เบลเยียม สร้างโอกาสทำประตูถึง 10 ครั้งในเกมกับสหรัฐฯ มากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ รวมถึงยังมีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตู ยิงเบิกร่องก่อนจ่ายลูกสอง
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3