7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >

เดือด!บราซิลส่งเฟร็ดยิง,เยอรมันลุ้นมุลเลอร์โป้ง

08/07/2014 ขอบคุณ siamsport

เดือด!บราซิลส่งเฟร็ดยิง,เยอรมันลุ้นมุลเลอร์โป้ง

เดินทางมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายแล้ว..."ขุนพลแซมบ้า" บราซิล เตรียมส่ง เฟร็ด ลงเป็นตัวหลักปิดสกอร์ เกมพบกับ "ขุนพลอินทรีเหล็ก" เยอรมัน ที่สภาพทีมพร้อมรบโดย โธมัส มุลเลอร์ พร้อมล่าตาข่ายเก็บชัย ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอลโลก2014 (รอบรองชนะเลิศ) คืนวันอังคารที่ 8 ก.ค. ศกนี้

  
(รอบรองชนะเลิศ)
วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557
บราซิล - เยอรมัน


ถ่ายทอดสด: ช่อง 7, ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports, (เวลา: 03.00 น.)


สนาม: เอสตาดิอู มิไนเรา, (เบโล โอรีซอนชี, บราซิล)


 "เซเลเซา" บราซิล ภายใต้การคุมทัพของ หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ เทรนเนอร์คนดังพาทีมเฉือนชนะ โคลอมเบีย 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนทะลุเข้ารอบตัดเชือกได้สำเร็จ


 อย่างไรก็ตามเกมนี้ ทัพแซมบ้า ต้องขาด เนย์มาร์ กองหน้าตัวเก่งวัย 22 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังร้าว เมื่อโดนเข่าของ ฮวน ซูนญีก้า ฟูลแบ็กทีมชาติโคลอมเบีย กระแทกเข้าที่ด้านหลัง ในช่วงท้ายเกม คาดว่าต้องพักอย่างน้อย 1 เดือนเลยทีเดียว ชวดทำศึกในทัวร์นาเม็นท์นี้แล้ว


 โดยทาง เนย์มาร์ เดินทางออกจากแคมป์เก็บตัวของทีมในย่านเทเรสโปลิส แล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางกลับไปพักฟื้นต่อที่เซา เปาลู บ้านของเขา


 นอกจากนั้น บราซิล ยังไม่มี ติอาโก้ ซิลวา กองหลังกัปตันทีมที่ติดโทษแบนจากการได้ใบเหลืองสะสมครบตามโควตาพอดี โดยล่าสุดนั้นทาง บราซิล ทำการยื่นอุทธรณ์โทษใบเหลืองของ ติอาโก้ ซิลวา ไปให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) พิจารณาแล้ว แต่เชื่อกันว่าเขาไม่น่าจะได้รับการยกเลิกโทษแบนหนึ่งนัด เนื่องจากเป็นการทำฟาวล์ที่สมควรได้ใบเหลืองจริง และอาจทำให้ฟีฟ่าถูกประณามได้ว่าเอาใจช่วยทีมเจ้าภาพ


 จากกรณีนี้ทำให้ สโคลารี่ ต้องเปลี่ยนทีมอย่างน้อยสองตำแหน่งแล้ว โดยแนวรับคาดว่าจะให้ ดานเต้ ลงมายืนแทน ติอาโก้ ซิลวา ส่วนตำแหน่งของ เนย์มาร์ นั้น ทีแรกจะให้ วิลเลี่ยน เล่นแทน แต่กองกลางหัวฟูรายนี้ดันมาเจ็บบริเวณแผ่นหลังจากการซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ผ่านมา จนต้องหยุดซ้อมทันที ซึ่งหากว่าฟิตไม่ทัน อาจเป็นโอกาสของ รามิเรส ลงเสียบแทน


 ขณะเดียวกัน ชูลิโอ เซซาร์ นายทวารมือหนึ่งของทีมที่มีอาการเจ็บหัวเข่าขวาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และต้องใช้น้ำแข็งประคบ ทว่ามีการยืนยันว่านายด่านวัยเก๋า พร้อมลงเจออินทรีเหล็กในวันอังคารนี้อย่างแน่นอน


 ข่าวดีคือได้ ลุยซ์ กุสตาโว่ กองกลางตัวรับพ้นโทษแบน 1 นัดกลับมา ยืนเคียงข้างกับ แฟร์นันดินโญ่ ทำให้ เปาลินโญ่ ต้องกลับไปนั่งเป็นสำรอง ส่วนรายของ ออสการ์ กองกลางตัวรุกพร้อมลงปั้นเกมร่วมกับ ฮัล์ค คอยสนับสนุน เฟร็ด กองหน้าตัวเป้าเข้าทำประตู


 โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์พาทัพอินทรีเหล็กฝ่าด่านด้วยการเชือดฝรั่งเศส 1-0 จากประตูชัยของ มัทส์ ฮุมเมิลส์ ซึ่งถือเป็นการเข้ารอบรองชนะเลิศ เวิลด์ คัพ ครั้งที่สี่ติดต่อกัน


 ความพร้อมล่าสุด มีเพียงชโครดาน มุสตาฟี คนเดียวที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหมดสิทธิ์จนจบทัวร์นาเม้นต์ แต่ไม่น่าส่งผลกระทบมากมาย ฟิลิปป์ ลาห์ม กลับมายืนแบ็คขวาและทำผลงานตามมาตรฐานเหมือนเดิม


 แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ โดนดร็อปในเกมล่าสุดด้วยเหตุผลแท็คติกล้วนๆ ซึ่งเชื่อว่า เลิฟ จะยึดมั่นแผนเดิมต่อไป เนื่องจากแนวรุกเจ้าบ้านความคล่องตัวสูงถ้าใช้ปราการหลังสูงใหญ่ทั้ง แมร์เตซัคเคอร์ และ ฮุมเมิลส์ อาจเจองานยาก ฉะนั้น เยโรม บัวเต็ง จะสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตามเดิม โดยมี เบเนดิคท์ เฮอเวเดส ยืนแบ็คซ้าย ส่วนนายทวาร มานูเอล นอยเออร์ กำลังท็อปฟอร์ม


 กลางสนามไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ปักหลักตัวโฮลดิ้ง พร้อมวาง ซามี่ เคดิร่า ขับเคลื่อนขึ้นหน้า ส่วน โทนี่ โครส เตรียมลงสนามรับใช้ชาตินัดที่ 50 เป็นตัวเปิดเกม


 จุดน่าสนใจคือแดนหน้า โธมัส มุลเลอร์ กับ เมซุต โอซิล จะได้โอกาสยืนตัวจริงต่อไป อีกหนึ่งโควต้านัดล่าสุดเป็น มิโรสลาฟ โคลเซ่ แต่นัดนี้คงกลับไปนั่งข้างสนามตามเดิม


 ตัวเลือกทดแทนคือ ลูคัส โพดอลสกี้ เพิ่งกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบ รวมถึง มาริโอ เกิทเซ่อ และ อันเดร เชือร์เล่อ ขึ้นอยู่ที่เลิฟจะเลือกใช้ใคร ซึ่งตามสื่อเมืองเบียร์อย่าง "คิกเกอร์" เลือกจิ้มไปที่โพลดี้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม


  บราซิล: ชูลิโอ เซซาร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ดาวิด ลุยซ์ (กัปตันทีม), ดานเต้, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลุยซ์ กุสตาโว่, แฟร์นันดินโญ่ - ฮัล์ค, ออสการ์, วิลเลี่ยน (รามิเรส) - เฟร็ด


 เยอรมนี (4-3-3) : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิคท์ เฮอเวเดส - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี่ โครส - เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, ลูคัส โพดอลสกี้


 ผู้ตัดสิน: มาร์โก โรดริเกซ (เม็กซิโก)

 


- บราซิลผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 2002 ซึ่งพวกเขาได้แชมป์ในบั้นปลาย
- ทัพเซเลเซาไม่แพ้ทั้ง 6 หนหลังที่เล่นรอบคัดเชือก โดยชนะ 5 เสมอ 1
- ผลลัพธ์ดังกล่าวเท่ากับว่า บราซิลได้ชัยในรอบรองฯ ทั้ง 6 ครั้ง โดยยืดเยื้อถึงดวลจุดโทษแค่ครั้งเดียวเท่านั้น (พบฮอลแลนด์ 1998)
- เยอรมันเป็นชาติแรกที่ทำสถิติเข้ารอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 4 สมัยติดต่อกัน
- อย่างไรก็ตาม เยอรมันได้ผ่านถึงนัดชิงชนะเลิศแค่หนเดียวเท่านั้น ในปี 2002 ก่อนแพ้บราซิล
- นี่คือการพบกันแค่ครั้งที่ 2 ระหว่างทั้งสองทีมในฟุตบอลโลก ต่อจากนัดชิงฯ 2002 ที่บราซิลชนะ 2-0 จากการเหมาคนเดียวของ โรนัลโด้
- นับตั้งแต่เกมชิงดำ 2002 คู่นี้เคยเจอกันอีก 3 ครั้ง รวมถึงคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2005 โดยผลัดกันชนะ และเสมออีกเกม
- บราซิลทำประตูได้ทั้ง 10 เกมหลังสุดที่เจอเยอรมัน ด้วยค่าเฉลี่ย 2.2 ลูกต่อเกมเลยทีเดียว
- เนย์มาร์ ยิงไป 4 แอสซิสต์อีก 1 มีส่วนร่วมกับสกอร์ของบราซิลถึง 50 เปอร์เซ็นต์ในฟุตบอลโลกหนนี้ แต่จะพลาดลงเล่นทุกเกมที่เหลือแน่นอนเนื่องจากเจ็บกระดูกสันหลังร้าว
- บราซิลไม่เคยแพ้ตลอด 10 เกมหลังที่มี ติอาโก้ ซิลวา (ชนะ 8 เสมอ 2) ทว่านัดนี้เจ้าตัวติดโทษแบนลงเล่นไม่ได้
- ไม่มีทีมไหนเก็บคลีนชีตได้มากเท่าเยอรมันในฟุตบอลโลกหนนี้ (3) ขณะที่บราซิลไม่เสียประตูแค่เกมเดียวเท่านั้นจาก 5 นัดที่ผ่านมา
- บราซิลได้เฮแค่ 1 จาก 4 เกมหลังสุดดฟุตบอลโลกที่เจอทีมยุโรป โดยชัยชนะดังกล่าวคือเกมเปิดสนามที่แซงโครเอเชีย 3-1 นอกนั้นเสมอ 1 แพ้ 2
- เยอรมันแพ้แค่ 1 จาก 9 เกมหลังสุดฟุตบอลโลกที่เจอคู่แข่งละติน (ชนะ 6 เสมอ 2) ทว่าความปราชัยดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยน้ำมือบราซิลในนัดชิงชนะเลิศ 2002
- ทีมอินทรีเหล็กได้ 6 ประตูหลังสุดจากผู้เล่นไม่ซ้ำหน้ากันเลย (มาริโอ เกิทเซ่, มิโรสลาฟ โคลเซ่, โธมัส มุลเลอร์, อันเดร เชือร์เล่, เมซุต โอซิล, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์)
- ทั้งสองทีมต่างต้องพึ่งพาผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กพังสกอร์ตีตั๋วเข้ารอบตัดเชือก โดยบราซิลได้ ติอาโก้ ซิลวา กับ ดาวิด ลุยซ์ กดคนละลูกเฉือนโคลอมเบีย ขณะที่ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ โขกประตูโทนให้เยอรมันชนะฝรั่งเศส
- ในรอบที่ผ่านมา บราซิลทำฟาวล์ถึง 31 ครั้ง มากกว่าทุกเกมฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ 1966
- มิโรสลาฟ โคลเซ่ หอกเก๋าเยอรมัน ขออีกแค่ประตูเดียวเพื่อขึ้นนำดาวซัลโวตลอดกาลฟุตบอลโลก โดยเวลานี้ทำไป 15 ลูกเท่ากับ โรนัลโด้ (บราซิล)
- นอกจากนี้ โคลเซ่ ยังเป็นนักเตะหนึ่งเดียวจากทั้งสองทีมที่หลงเหลือมาจากเกมชิงชนะเลิศ 2002

 

พลิกปูมเจอกันแซมบ้าขี่บานเบอะ


 สำหรับสองชาติยักษ์ใหญ่ในแวดวงลูกหนังนั้น เจอกันมาทั้งหมด 21 นัด (จากทุกรายการ) ปรากฏว่า บราซิล เหนือกว่าเอาชนะไปได้ถึง 12 นัด เสมอ 5 และ พลาดท่าปราชัยไปแค่ 4 เกมเท่านั้นเอง โดยขุนพลแซมบ้าทำไปทั้งสิ้น 39 ประตู ส่วน เยอรมัน ทำไป 24 ประตูด้วยกัน


 หากแยกออกมาเฉพาะการเจอกันในเกมกระชับมิตรทั้งหมด 18 ครั้ง นั้น บราซิล ชนะไปถึง 9 นัด เสมอ 5 และแพ้ 4 นัด


 ส่วนในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย นั้น เจอกันเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ เวิลด์ คัพ ปี 2002 ที่โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น โดย บราซิล เป็นฝ่ายคว้าชัยไป 2-0 จากการเหมายิงคนเดียวทั้งสองประตูของ โรนัลโด้ อดีตกองหน้าร่างอ้วนของทัพแซมบ้า


เผยบราซิลไร้พ่าย 14 นัดติดแล้ว


 "เซเลเซา" ทีมชาติบราซิล ไม่แพ้ในทุกรายการมา 14 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว โดยความปราชัยครั้งสุดท้ายของพวกเขาคือเกมอุ่นเครื่องกับ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนสิงหาคม ปีก่อน


 นอกจากนั้น บราซิล ไม่แพ้ในการลงเล่นเกมที่มีความหมายในบ้านของพวกเขามากว่า 38 ปีแล้ว หนสุดท้ายที่พวกเขาปราชัยบนผืนแผ่นดินของตัวเองคือการพ่าย เปรู 1-3 ในรอบรองชนะเลิศของศึก โคปา อเมริกา เมื่อปี 1975


 สถิติที่น่าสนใจอีกประการนั้น บราซิล แพ้แค่เกมเดียวในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 17 นัดหลังสุด เมื่อเป็นฝ่ายขึ้นนำช่วงพักครึ่ง (เกมเดียวที่แพ้คือนัดพ่าย ฮอลแลนด์ 1-2 รอบก่อนรองชนะเลิศของเวิลด์ คัพ 2010)


ออสการ์ชี้บราซิลไม่ได้พึ่งแค่เนย์มาร์


 ออสการ์ กองกลางตัวรุกของทีมชาติบราซิล ออกมาเผยก่อนเกมรอบตัดเชือก เวิลด์ คัพ 2014 ที่จะปะทะกับ เยอรมัน วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม นี้ว่า ทัพแซมบ้าคงคิดถึงการขาดหายไปของ เนย์มาร์ แต่เชื่อว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เพราะการร่วมมือร่วมใจกันทั้งทีม


 "เราจะคิดถึง เนย์มาร์ เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของเรา" ออสการ์ กล่าว


 "ใครก็ตามที่ได้โอกาสลงเล่นแทนเขาก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่มีเป้าหมายเดียวกันคือล้มพวกเยอรมัน"


 "สิ่งที่ดีที่สุดคือเราเล่นด้วยกันเป็นทีม และ ผมหวังว่าใครก็ตามที่ลงมาเล่นแทนเขา จะเล่นได้ดี"


 คาดกันว่า วิลเลี่ยน มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้สวมแทนตำแหน่งของ เนย์มาร์ แต่ล่าสุดนั้น วิลเลี่ยน ดันมีอาการบาดเจ็บหลัง และต้องออกจากการฝึกซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าฟิตไม่ถึง อาจเป็น รามิเรส ที่ได้เล่นตำแหน่งนี้แทน


วิลเลี่ยนรับขาดเนย์มาร์โค่นเบียร์ลำบาก


 วิลเลี่ยน ปีกจอมเทคนิคทีมชาติบราซิล เปิดปากยอมรับไม่มีกองหน้าตัวความหวังอย่าง เนย์มาร์ ทำให้เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะเอาชนะ เยอรมัน ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบรองชนะเลิศ วันอังคารที่ 8 กรกฏาคมนี้


 เนย์มาร์ ต้องปิดฉากทัวร์นาเมนต์นี้ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังได้รับบาดเจ็บที่หลังอย่างหนักจากเกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่ บราซิล เชือด โคลอมเบีย 2-1 ซึ่ง วิลเลี่ยน ที่คาดว่าจะได้รับโอกาสลงเล่นแทน ก็ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากสำหรับทีมตน แต่ในขณะเดียวกันก็จะช่วยให้นักเตะทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันตามล่าความฝัน


 "เนย์มาร์ ได้ตั้งมาตรฐานให้กับพวกเรา เขาสามารถตัดสินเกมได้ เพราะฉะนั้นการไม่มีเขาจะถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เรารู้คุณภาพของทีมเราเป็นอย่างดี เราทุกคนต่างเสียใจที่ไม่มีเขา แต่ตอนนี้เราแกร่งขึ้นกว่าเดิมแล้วหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็จะตามล่าความฝันต่อไป" ดาวเตะเชลซี ระบุ


ชไวนี่เตือนเปาจับตาเจ้าภาพเล่นหนัก


 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ห้องเครื่องทีมชาติเยอรมัน เตือนกรรมการเกมตัดเชือก ฟุตบอลโลก ระหว่าง "อินทรีเหล็ก" กับ บราซิล จับตาการเล่นของทีมเจ้าภาพให้ดี โดยเฉพาะการทำฟาวล์หนักหน่วง หลังจากในรอบแปดทีมสุดท้ายนัดเชือดโคลอมเบีย ขุนพลแซมบ้าทำฟาวล์ถึง 31 ครั้ง


 บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการเล่นที่พลิ้วไหว สวยงาม ทำเอาทีมคู่แข่งสะดุ้งโหยงกันเป็นแถวในเกมกับ โคลอมเบีย เพราะพวกเขาจบเกมด้วยสถิติทำฟาวล์มากถึง 31 ครั้ง โดย โรดริเกซ เป็นขวัญใจอันดับหนึ่ง ได้รับประคบประหงมดูแลมากเป็นพิเศษ


 อย่างไรก็ตาม สถิติพวกนี้ถูกมองข้ามไป เพราะข่าวใหญ่ในเกมเดียวกัน ฮวน ซูนิก้า อัด เนย์มาร์ จนกระดูกสันหลังร้าว ชนิดหวุดหวิดเป็นอัมพาต ต้องปิดฉากฟุตบอลโลก ในแผ่นดินบ้านเกิดเพียงเท่านี้ แต่ "ชไวนี่" ไม่มองข้าม และอยากให้ผู้ตัดสินคิดถึงประเด็นนี้ด้วย


 "ผมไม่มีปัญหากับการเล่นหนักแบบแฟร์ๆ แต่ว่าการฟาวล์บางครั้งของ บราซิล มันเลยเถิดเกินไป นักเตะบราซิลไม่ได้เป็นพ่อมดลูกหนังเท่านั้น พวกเขาเล่นเกมหนักเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องระวังให้ดี เช่นเดียวกับผู้ตัดสินก็ต้องจับตาดูด้วย"ดาวเตะบาเยิร์น มิวนิค เผย

ข่าวฮอต
  ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
  • ตารางคะแนน
  • ดาวซัลโว
    • A
    • B
    • C
    • D
    • E
    • F
    • G
    • H
  • เรียงลำดับ นักฟุตบอล ทีม ประตูรวม(จุดโทษ)
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
  • ปี
  • ชนะเสิศ
  • รองชนะเสิศ
  • อันดับ 3