7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >

จุดอ่อนของ ฮอลแลนด์?

09/07/2014 ขอบคุณ siamsport

 
ฮอลแลนด์ กรุยทางมาสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 ในฐานะหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ที่ บราซิล ด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างการยิง 12 ประตูจาก 5 นัดที่ผ่านมา


 อย่างไรก็ดี ในเกมล่าสุดกับ คอสตาริกา ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ฮอลแลนด์ กลับทำได้แค่เสมอ คอสตาริกา แบบไม่มีประตูเกิดขึ้น ตลอดเวลา 120 นาที จนต้องพึ่งพา ทิม ครูล นายด่านซูเปอร์ฮีโร่ ช่วยเซฟ 2 จุดโทษช่วยให้พวกเขาฝ่าด่าน "กล้วยหอม" ได้สำเร็จ


 แล้วอย่างนี้พอจะบอกได้ว่าพลพรรค "อัศวินสีส้ม" เริ่มเผยจุดอ่อนของตัวเองแล้วหรือยัง?


 แม้ถูกมองเป็นเพียงไม้ประดับประจำ เวิลด์ คัพ หนนี้ แต่ คอสตาริกา กลับสร้างปรากฎการณ์ด้วยการทะลุมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างยิ่งใหญ่


 หนึ่งในกุญแจสำคัญของ คอสตาริกา คือแนวรับอันแข็งแกร่งนั่นเอง พิสูจน์ได้จากสถิติของ ฟีฟ่า ที่ระบุว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในการแข่งขันจนถึงเวลานี้ ด้วยการเสีย 2 ประตูตลอด 5 นัดทั้งที่เจอกับทีมอย่าง อุรุกวัย, อังกฤษ, อิตาลี, กรีซ และ ฮอลแลนด์


 เกย์ลอร์ นาวาส เป็นเสาหลักในเกมรับของ คอสตาริกา ด้วยผลงาน 21 เซฟตลอด 510 นาที แต่ในเกมกับ ฮอลแลนด์ พวกเขาขาดปราการหลังคนสำคัญอย่าง ออสการ์ ดูอาร์เต้ ที่โดนไล่ออกในเกมก่อนหน้านี้ จนต้องชดใช้โทษแบน


 กระนั้น ขุนพล "กังหันลม" กลับเจาะแนวรับของ คอสตาริกา ไม่ได้เลย ทั้งที่ดาหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องทั้งเกม อย่างนี้เรียกได้ว่าพวกเขาเจอบททดสอบที่แท้จริงแล้วใช่มั้ย? แล้วดันมาเกิดขึ้นในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายก่อนเกมกับ อาร์เจนตินา อีกต่างหาก


 หากมองรูปเกมของ "ฟ้าขาว" ในนัดล่าสุด จะเห็นได้ว่าแนวรับของพวกเขาประสานงานกันได้ดีผิดคาด ทั้งที่รับมือ เบลเยียม ทีมที่มีเกมรุกที่ดีที่สุดจากสถิติของ ฟีฟ่า แม้จะยิงได้เพียง 6 ประตูแต่การสร้างสรรค์เกมรุกของพวกเขาอยู่ในระดับท็อปทั้งการหาโอกาสยิงมาก ที่สุดที่ 91 ครั้ง โดยยิงเข้ากรอบทั้งสิ้น 58 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เยอรมัน


 อเลฮานโดร ซาเบย่า เทรนเนอร์ทีมชาติอาร์เจนตินา วางแผนตั้งรับกันได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการสร้างสมดุลไปทั่วทั้งสนาม นักเตะทุกคนช่วยกันไล่เพรสซิ่งคู่แข่งตั้งแต่แดนหน้าเพื่อจำกัดโอกาสหาช่อง ทำประตูของ เบลเยียม ได้อย่างชะงัด


 พร้อมกันนี้ ปัญหาของ ฮอลแลนด์ อีกอย่างคือการไร้เงา ไนเจล เดอ ยอง กองกลางพันธุ์ดุ ที่เจ็บโคนขาหนีบจนรูดม่านตัวเองในฟุตบอลโลกไปแล้ว ทำให้พวกเขาต้องขาดตัวกรองแนวรุกคู่แข่งชั้นเยี่ยมที่ช่วยให้แผงหลังทำงาน สบายกว่าเดิมตลอด 4 เกมแรก


 ปัญหานี้อาจจะไม่ค่อยทำให้กังวลมากนัก แต่ก็เริ่มเผยตัวให้ได้ระแวดระวังบ้างจากเกมกับ คอสตาริกา ที่โต้กลับเร็วจนเกือบทำประตูหลายครั้ง


 แล้วพวกเขาจะทำยังไงเมื่อต้องดวลกับ อาร์เจนตินา ที่มีตัวพาบอลตะลุยไปข้างหน้าได้ดีหลายคนนำโดย ลิโอเนล เมสซี่, เอเซเกล ลาเวซซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน หรือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่เพิ่งมีข่าวล่าสุดว่าผ่านฟิตพร้อมลงล่าตาข่าย ล่ะ? แล้วยังเรื่องการช่วงชิงแดนกลางที่ต้องเผชิญหน้ากับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ อีก?


 อย่างไรก็ดี ที่ร่ายมาทั้งหมดนี้ไม่ได้จะบอกว่า ฮอลแลนด์ เตรียมรอพบความปราชัยแต่อย่างใด เนื่องจากขุนพล "อัศวินสีส้ม" ชุดนี้ ถือว่าสมดุลทั้งรุกและรับ โดยเฉพาะแดนหน้าที่มีตัวทีเด็ดที่พร้อมพลิกเกมได้ตลอดเวลาอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แถมยังมีกุนซือสมองเพชรอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล บงการเกมข้างสนาม เรื่องผลการแข่งขันนั้นคงยากที่จะคาดเดา แต่สิ่งที่จะได้เห็นแน่นอนคือความระทึกใจของเกมคู่นี้ครับ


:: เรือดำน้ำ ::

 


3 การตัดสินใจสะท้าน เวิลด์ คัพ ของ หลุยส์ ฟาน กัล


 หลุยส์ ฟาน กัล ตอกย้ำให้เห็นว่าเป็นกุนซือมือทองอย่างแท้จริงหลังใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมา ตลอด 28 ปีในการพาทัพ "อัศวินสีส้ม" เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 ได้สำเร็จ


 ฮอลแลนด์ ชุดล่าสุด ถูกค่อนขอดก่อนทัวร์นาเมนต์ว่าเป็นทีมที่ไร้ประสบการณ์โดยเฉพาะในระดับชาติ เนื่องจากคัดผู้เล่นอายุน้อยกว่า 20 ปี มาตะลุยเมืองแซมบ้าถึง 10 คน แต่ก็ด้วยมันสมองของ ฟาน กัล นี่เองที่ผลักดันพวกเขามาจนถึงจุดนี้จนได้


 ฟาน กัล พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนกล้าคิดกล้าทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟุตบอลโลก ครั้งนี้ ที่ยิ่งเห็นได้อย่างแจ่มแจ้ง แต่จะเป็นเรื่องใดบ้าง ตามไปดูกันเลย


การปรับมาใช้ระบบ 5-3-2 ในเกมกับ สเปน


 ตลอดช่วง ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก แท็กติกหลักของ ฮอลแลนด์ คือ 4-3-3 อันเป็นที่โปรดปรานของ ฟาน กัล มาตั้งแต่ยุคเริ่งจับงานโค้ชกับ อาแจ็กซ์ แล้ว


 อย่างไรก็ดี ก่อนนัดเปิดสนามของพวกเขากับ สเปน ฟาน กัล กลับทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเปลี่ยนมาเป็น 5-3-2 โดยได้ทดลองระบบเพียงไม่กี่ครั้งในเกมอุ่นเครื่อง


 กระนั้น มันกลับได้ผลอย่างยอดเยี่ยม ฮอลแลนด์ ช็อกวงการด้วยการถล่มแชมป์เก่าอย่าง สเปน ด้วยสกอร์ 5-1 ทั้งที่โดนนำไปก่อนด้วย แถมเกมกับ ชิลี ระบบ 5-3-2 ก็ได้แผลงฤทธิ์อีกครั้ง ทำให้ความข้องใจกับการเปลี่ยนแท็กติกของ ฟาน กัล ที่เคยมีมานั้นสลายหายไปหมดแล้ว


การปรับตำแหน่ง เดิร์ค เค้าท์


 เดิร์ค เค้าท์ อาจไม่ใช่นักเตะที่น่าพิสมัยในแง่ของการเป็นแข้งเทคนิคแพรวพราวแต่อย่างใด ทว่า ฟาน กัล กลับทำให้ อดีตดาวยิงลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มจนเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ "อัศวินสีส้ม" ในเวลานี้ไปแล้ว


 เค้าท์ ถูกส่งลงสนามเป็นนัดแรกใน เวิลด์ คัพ ครั้งนี้ ในเกมกับ ชิลี โดยลงไปประจำการเป็นแบ็กซ้าย แถมยังโยกไปเป็นแบ้กขวา รวมถึงกลับไปเป็นกองหน้าตามถนัดมาแล้ว


 ถึงจะไม่ใช่นักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในทีมชุดนี้ แต่ เค้าท์ เป็นผู้เล่นที่มีความขยันเป็นเลิศและพร้อมเชื่อฟังคำสั่งแบบไม่บิดพลิ้ว แถมยังช่วยให้ ฟาน กัล สามารถปรับแท็กติกแก้เกมได้ตามใจคิดระหว่างเกมอีกด้วย


การเปลี่ยน ทิม ครูล เฝ้าเสาช่วงดวลเป้าตัดสิน


 ในรอบก่อนรองชนะเลิศกับ คอสตาริกา เกมเสมอกัน 0-0 ในช่วงเวลา 120 นาที ทำให้ต้องลากยาวไปถึงการดวลจุดโทษหาผู้ชนะ แต่ก่อนหน้านั้น หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไม ฟาน กัล ถึงยังไม่เปลี่ยนตัวให้ครบโควตาเสียทีเพื่อเติมเกมรุกเพื่อยิงประตูชัย


 แต่เพียงไม่กี่วินาทีจะสิ้นเสียงนกหวีดของ ราฟชาน เออร์มาตอฟ "อัศวินสีส้ม" ถอด ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น เพื่อให้ ทิม ครูล ลงไปเฝ้าเสาในช่วงยิงจุดโทษตัดสิน เนื่องจากมองว่าเกมคงจบลงด้วยผลเสมอแน่นอน


 แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันลูกโทษ แต่ ครูล ใช้ทั้งจิตวิทยาและแขนขาอันยาวเหยียดเซฟไว้ได้ถึง 2 ครั้ง ช่วยให้ ฮอลแลนด์ ลิ่วเข้ารอบตัดเชือกได้สำเร็จ ซึ่ง ฟาน กัล ยอมรับว่าเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่ต้นแล้วและบอก ครูล เพียงคนเดียว ทำให้คงไม่มีอะไรนอกจากคำชมแก่ นายใหญ่วัย 62 ปี สำหรับการอ่านเกมล่วงหน้าขนาดนี้

ข่าวฮอต
  ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
  • ตารางคะแนน
  • ดาวซัลโว
    • A
    • B
    • C
    • D
    • E
    • F
    • G
    • H
  • เรียงลำดับ นักฟุตบอล ทีม ประตูรวม(จุดโทษ)
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
  • ปี
  • ชนะเสิศ
  • รองชนะเสิศ
  • อันดับ 3