เงาเทพเจ้า หรือ ราชาไร้บัลลังก์
09/07/2014 ขอบคุณ siamsportTags: ฟุตบอลโลก อาแจ็กซ์ โปรตุเกส บอลโลก ราซิล ฟุตบอลโลก 2014 คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ภาพ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ศึกฟุตบอลโลก 2014 กำลังดำเนินอยู่ในรอบรองชนะเลิศ ที่ผู้แพ้ยังมีรางวัลปลอบใจกลับบ้านเป็นอันดับ 3 และ 4 แต่ตำแหน่งแชมป์โลกจะมีเพียงทีมเดียวที่ได้ครอบครอง
ค่ำคืนวันพุธนี้ถึงคิวดวลของอาร์เจนตินา อดีตแชมป์โลก 2 สมัย พบกับฮอลแลนด์ ที่อกหักมาตลอดจากการเข้าชิงทั้ง 3 ครั้ง รวมถึงหนล่าสุดที่แอฟริกาใต้
ที่ผ่านมาทั้งสองชาติผ่านการโคจร ของดวงดวลมาพบกันไม่บ่อยนัก ทว่าแต่ละครั้งล้วนเป็นสุดยอดเกม และถูกจารึกไว้ในความทรงจำของแฟนบอลอย่างตราตรึง
8 ครั้งที่ผ่านมา แบ่งครึ่งเป็นเกมกระชับมิตร 4 นัด และฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อีก 4 นัด เกมนี้จะเป็นนัดที่ 9 ที่ "ฟ้า-ขาว" ต้องปะทะกับ "สีส้ม"
4 นัดที่ทั้งสองทีมอุ่นเครื่องกัน ปรากฏว่า ฮอลแลนด์ทำได้ดีกว่าด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 2 ในปี 1974 เอาชนะไปได้ 4-1 ที่อัมสเตอร์ดัม ก่อนที่จะเสมอกัน 0-0 ในปี 1979 ที่เบิร์น ส่วนอีก 2 ครั้งที่อัมสเตอร์ดัมในปี 1999 และ 2003 จบลงด้วยสกอร์ 1-1 และ 1-0
ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ครั้งแรกที่ทั้งสองชาติพบกันคือในปี 1974 ที่เยอรมัน (ตะวันตก) ปรากฏว่าฮอลแลนด์ที่มี โยฮัน ครัฟฟ์ และ โยฮัน นีสเก้นส์ นำทัพถล่มเอาชนะอาร์เจนตินาไปได้ขาดลอย 4-0 ในรอบแบ่งกลุ่มรอบสอง เกมนี้ครัฟฟ์ยิงไป 2 ลูก ก่อนได้ รุด ครอล กับ จอห์นนี่ เรป ช่วยยิงคนละเม็ด
แต่สุดท้าย "อัศวินสีส้ม" ไปไม่ถึงฝัน เมื่อพ่ายในรอบชิงชนะเลิศต่อเจ้าภาพ 1-2
อย่างไรก็ตาม 4 ปีถัดมา คู่นี้ได้โอกาสมาล้างตากันอีกครั้งบนแผ่นดินอาร์เจนตินาที่ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ
ทั้ง สองทีมโคจรมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศ ทัพฟ้า-ขาวที่นำทัพโดย มาริโอ เคมเปส, ดาเนียล พาสซาเรลล่า และ ออสวัลโด้ อาร์ดิเลส ได้ประตูออกนำไปก่อนจากเคมเปส ในนาที 34 ก่อนที่ฮอลแลนด์ยุคไร้ครัฟฟ์ แต่ชุดเดิมยังอยู่กันครบ จะมาตามตีเสมอได้จาก ดิ๊ค นานนิงก้า นาที 88 ต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ
สุดท้ายเป็นอาร์เจนตินาที่คว้า แชมป์โลกสมัยแรกมาครองได้ หลังจากเคมเปส กับ ดาเนียล แบร์โตนี่ มายิงเพิ่มในช่วงต่อเวลาให้ "ฟ้า-ขาว" ชนะ 3-1 พร้อมกับโกลเดน บูต (ดาวซัลโว) ของเคมเปสอีกด้วย
และนั่นเป็นชัยชนะเพียงครั้งเดียวที่อาร์เจนตินามีเหนือฮอลแลนด์ ที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
ครั้งต่อมาต้องรอถึง เวิลด์ คัพ ปี 1998 ที่ฝรั่งเศส สองชาติต้องโคจรมาเจอกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ผอง เด็กปั้นอาแจ็กซ์ ต่างเป็นแกนหลักของทีมชุดนี้ นำโดย เดนนิส เบิร์กแคมป์, พาทริก ไคลเวิร์ต, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, สองพี่น้อง เดอ บัวร์, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ และ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ฝั่งทัพ ฟ้า-ขาวอุดมด้วยดาวดังคับคั่งเช่นกันทั้ง กาเบรียล บาติสตูต้า, เคลาดิโอ โลเปซ, อาเรียล ออร์เตก้า, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ และ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ
เริ่มเกมมาได้เพียง 12 นาที ไคลเวิร์ตมายิงให้ "อัศวินสีส้ม" ออกนำไปก่อน แต่ดีใจได้เพียง 5 นาที เคลาดิโอ โลเปซ มาตามตีเสมอคืนทันควัน
เกมมาดุเดือดช่วงท้ายเกมเมื่อมีสองใบแดงจาก อาร์เธอร์ นูมัน และ ออร์เตก้า ในต่างจังหวะกัน สุดท้ายเป็นเบิร์กแคมป์ ที่ยิงประตูชัยสุดสวยในนาทีสุดท้ายพอดิบพอดี ช่วยให้ฮอลแลนด์ชนะ 2-1
แต่ สุดท้ายเป็นอีกครั้งที่ฮอลแลนด์ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อกลับบ้านด้วยอันดับ 4 หลังพ่ายจุดโทษบราซิล ในรอบตัดเชือก ก่อนแพ้โครเอเชียในนัดชิงที่ 3
ใน ปี 2006 ที่เยอรมัน ทั้งสองชาติถูกจับให้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน การพบกันในนัดสุดท้ายหลังชนะมา 2 นัดรวดทั้งคู่ ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 กอดคอกันเข้ารอบ
ฮอลแลนด์ ที่มี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อาร์เยน ร็อบเบน, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, มาร์ค ฟาน บอมเมล และ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องร่วงตกเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังพ่ายต่อโปรตุเกส 0-1
ขณะที่ อาร์เจนตินาที่นำทัพโดย คาร์ลอส เตเวซ, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูโช่ กอนซาเลซ และ กาเบรียล ไอน์เซ่ ร่วงตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังแพ้จุดโทษเยอรมัน
นั่นคือความหลังในโลกลูกหนังระหว่างสองชาติ
แน่ นอนว่าการผ่านเข้ามาเป็น 4 อรหันต์ของฟุตบอลโลก 2014 นับเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะฮอลแลนด์ที่เดินทางมาด้วยขุมกำลังสุดขี้เหร่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกคนและทุกทีมต่างต้องหวังตำแหน่งแชมป์เพียงเท่านั้น
"มีผู้สมหวัง ย่อมมีผู้ผิดหวัง"สัจธรรมโลกเป็นเช่นนี้
แม้ จะไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ แต่พลันสิ้งเสียงนกหวีดพลบรุ่งวันพฤหัสบดีนี้ อย่างน้อยก็จะได้รู้คำตอบว่า ลิโอเนล เมสซี่ จะเป็นเทพเจ้าฟ้า-ขาวคนใหม่ หรือฮอลแลนด์ ยังคงฉายา "ราชาไร้บัลลังก์" สืบต่อไป
ข่าวฮอต
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3