ฟุตบอลโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ 13 กรกฎาคม 2557

อาร์เจนตินา 0-0 เยอรมัน

(ต่อเวลาพิเศษ เยอรมัน ชนะ 1-0)

สนาม : เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า, (รีโอ เด จาเนโร, บราซิล)

  เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 4 นาที เยอรมัน ได้ลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิกระยะ 20 หลา แต่ โทนี่ โครส ยิงไปติดกำแพง

  นาทีที่ 10 ทีมฟ้าขาวทำเกมบุกได้น่ากลัว ลีโอเนล เมสซี่ กระชากบอลหนี มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ สุดเส้นหลังก่อนเปิดเข้าไปในเขตโทษ แต่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ สกัดทิ้งไว้ได้

  นาทีที่ 12 เยอรมัน ขึ้นเกมมาได้สวยก่อนที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม จะเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษแต่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ วิ่งเข้าโหม่งไม่ถึงบอล

  นาทีที่ 21 อาร์เจนตินาได้โอกาสทอง โทนี่ โครส โหม่งบอลพลาด บอลเลยไปเข้าทาง กอนซาโล่ อิกวาอิน ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวาแต่ ดาวยิงจากนาโปลี กลับยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย

   นาทีที่ 28 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โดนใบเหลืองหลังไปตัดเกมใส่ เอเซเกล ลาเวซซี่

  นาทีที่ 30 แฟนฟ้าขาวต้องเฮเก้อ จากจังหวะที่ เอเซเกล ลาเวซซี่ ผ่านบอลให้ กอนซาโล่ อิกวาอิน ได้ส่งบอลผ่านตัว มานูเอล นอยเออร์ ตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า


   นาทีที่ 31 ทีมอินทรีเหล็ก เปลี่ยนตัวส่ง อันเดร เชือร์เล่ ลงสนามไปแทน คริสโตเฟอร์ คราเมอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว

   นาทีที่ 33 เบเนดิคท์ โฮเวเดส รับใบเหลืองไปอีกคนหลังไปเสียบหนักใส่ ปาโบล ซาบาเลต้า

  นาทีที่ 36 โธมัส มุลเลอร์ ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดไปหน้าเขตโทษให้ อันเดร เชือร์เล่ ได้สับไกด้วยขวาเต็มๆ แต่ เซร์คิโอ โรเมโร่ ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้

  นาทีที่ 40 อาร์เจนตินาได้ลุ้นจาก ลีโอเนล เมสซี่ ที่กระชากบอลหลุดเข้าเขตโทษไปดวลเดี่ยวกับ มานูเอล นอยเออร์ ที่เสาแรก ก่อนดาวเตะจากบาร์เซโลน่าจะไหลบอลผ่านเข้าไปหน้าประตูแต่แนวรับเยอรมันตามมาเตะทิ้งได้ทัน

  นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทีมอินทรีเหล็กได้ลูกเตะมุม โทนี่ โครส เปิดยาวเข้าไปหน้าประตู เบเนดิคท์ โฮเวเดส ขึ้นโขกเต็มหัวบอลพุ่งชนเสาอย่างจัง


  หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0

   กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง อาร์เจนตินา เปลี่ยนเอา เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงสนามมาแทน เอเซเกล ลาเวซซี่

  นาทีที่ 47 ลูคัส บิเกลีย แทงบอลให้ ลีโอเนล เมสซี่ ได้ทะลุหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย

  นาทีที่ 60 ทีมอินทรีเหล็กได้โอกาสบ้าง ฟิลิปป์ ลาห์ม โยนบอลจากริมเส้นเข้าไปหน้าเขตโทษ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ได้โหม่งแต่บอลเบาไป เซร์คิโอ โรเมโร่ รับไว้ได้ไม่ยาก

   นาทีที่ 64 ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ โดนใบเหลืองหลังไปเสียบหนักใส่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ 

  นาทีที่ 65 เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็รับใบเหลืองไปอีกคนหลังไปเข้าบอลช้าใส่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์

   นาทีที่ 78 อาร์เจนตินา เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองโดยถอดเอา กอนซาโล่ อิกวาอิน ออกและส่ง โรดริโก้ ปาลาซิโอ ลงสนามแทน

  นาทีที่ 81 เยอรมันต่อบอลกันได้สวย เมซุต โอซิล รับบอลที่ริมเส้นฝั่งขวาก่อนผ่านบอลเข้ากลางให้ โทนี่ โครส ได้แปด้วยขวาจากหน้าเขตโทษแต่บอลหลุดกรอบออกไป

   นาทีที่ 86 ทีมฟ้าขาวตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โดยถอดเอา เอ็นโซ เปเรซ ออกและส่ง เฟร์นานโด กาโก้ ลงเล่นแทน

   นาทีที่ 88 เยอรมัน เปลี่ยนเอา มาริโอ เกิทเซ่ ลงสนามไปแทน มิโรสลาฟ โคลเซ่

  หมดเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปเพื่อหาผู้ชนะ

  นาทีที่ 91 ทีมอินทรีเหล็กเกือบได้เฮ มาริโอ เกิทเซ่ ลากบอลสุดเส้นหลังก่อนหักกลับมาให้ อันเดร เชือร์เล่ ได้ยิงที่เสาแรก แต่ เซร์คิโอ โรเมโร่ ยังปัดเอาไว้ได้

  นาทีที่ 96 โรดริโก้ ปาลาซิโอ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว มานูเอล นอยเออร์ แต่บอลหลุดเสาออกไป


   นาทีที่ 113 อันเดร เชือร์เล่ กระชากบอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้าไปในเขตโทษให้ มาริโอ เกิทเซ่ พักอกหนึ่งจังหวะก่อนสับไกด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งผ่านตัว เซร์คิโอ โรเมโร่ เสียบเสาสองเข้าไป ให้ เยอรมันเป็นฝ่ายออกนำ 1-0

   นาทีที่ 120 เยอรมัน เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ ลงสนามไปแทน เมซุต โอซิล

  จบเกม เยอรมัน เป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะ อาร์เจนตินา ไปได้ในช่วงต่อเวลา 1-0 ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ไปครอง และเป็นทีมแรกจากยุโรปที่สามารถคว้าแชมป์บนแผ่นดินอเมริกาใต้