7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >
  • หน้าแรก
  • นักเตะ
  • ข่าว
  • รูปภาพ
  • สถิติข้อมูล
  • วิเคราะห์
  • การแข่งขันถัดไป

ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
แชมป์โลก (1934, 1938, 1982, 2006)

เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย ตีตั๋วผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้ตั้งแต่เดือนกันยายน ที่พวกเขาเอาชนะเช็ก 2-1 ที่สำคัญ ทีมอัซซูรี่ยังหลงเหลือนักเตะหลายคนที่เคยอยู่ในทีมชุดแชมป์โลก 2006 ที่เยอรมันด้วย ไม่ว่าจะเป็น อันเดรีย ปีร์โล่, จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันเดรีย บาร์ซายี่ หรือ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ทั้งหมดกำลังไล่ล่าหาตำแหน่งแชมป์รายการนี้เป็นหนที่สอง ซึ่งมันจะเป็นแชมป์เวิลด์ คัพสมัยที่ 5 ของอิตาลี

ชื่อเสียง และสูตรสำเร็จที่โด่งดังมาช้านานของอิตาลีก็คือสไตล์การเล่นเกมรับอันแข็ง แกร่ง แท็กติกทั้งหลายถูกนำมาจากวิธีการเล่นของหลายสโมสรในกัลโช่ เซเรีย อา ซึ่งมันรวมไปถึงสูตรแผงหลัง 5 ตัว ที่ทีมชาติได้นำมาใช้เป็นครั้งคราว โดยระบบการเล่นที่ถูกใช้เป็นหลักในปัจจุบันมีอยู่สองรูปแบบ หนึ่งคือแผงหลัง 3 คน บวกกับกองกลางอีก 5 ราย อย่างที่สองคือการมีแผงกองหลัง 4 ตัว และใช้การโจมตีที่หลากหลายในการเล่นเกมรุก ซึ่งไม่ว่าจะสูตรไหน ตำแหน่งที่ถือเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเกมเลยก็คือมิดฟิลด์คู่กลาง ทั้ง เด รอสซี่ และเพลย์เมกเกอร์รุ่นใหญ่อย่าง ปีร์โล่ ที่สามารถใช้ศิลปะในการออกบอลจากเท้าอย่างไม่มีใครเทียบได้

ถ้าสองคนนี้ถูกประกบติด ก็ยังจะมีพวกกองหลังอย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ รวมถึงบาร์ซายี่ ที่สามารถขึ้นมาช่วยต่อบอลได้อย่างไม่เคอะเขิน และสร้างจุดเริ่มต้นแห่งเครื่องจักรในการจ่ายบอลเท้าสู่เท้า ในแดนหน้า อิตาลีฝากความหวังในการจบสกอร์ไว้กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นหลัก แต่ว่าโค้ช เชซาเร่ ปรันเดลลี่ ก็ไม่เคยลังเลที่จะใช้กองหน้าคนที่สอง มาช่วยให้ทีมมีเกมรุกที่ดุดันยิ่งขึ้น ความสามารถของนักเตะอย่าง ปาโบล ออสวัลโด้ หรือแม้แต่จิลาร์ดิโน่ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งถึงมิติในการบุกที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อปรันเดลลี่ เลือกใช้วิธีดันเอาวิงแบ็กสองฝั่งขึ้นมาครอสบอลเข้าเขตโทษ

ด้วยทางเลือกที่มีให้ใช้งานหลากหลาย ปรันเดลลี่จึงมีเครื่องมือครบครัน ในการนำอิตาลีสู่การชูถ้วยแชมป์โลกที่บราซิล เป้าหมายของเขาก็คือการกระตุ้นให้นักเตะลงเล่นด้วยความทุ่มเทถึงขีดสุด จากดีกรีของพวกเขา, การเคยได้แชมป์มาแล้ว และประสบการณ์ที่เคยผ่านมาในเกมใหญ่ๆ มากมาย อิตาลีคือหนึ่งในทีมที่คู่แข่งในทัวร์นาเมนต์นี้อยากจะหลีกเลี่ยงมากที่สุด แบบไม่ต้องสงสัย

กุนซือ  เชซาเร่ ปรันเดลลี่

อดีตเทรนเนอร์คนเก่งของฟิออเรนติน่า เข้ามางานคุมทีมชาติต่อจาก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ หลังจากที่อิตาลีกระเด็นตกแค่รอบแบ่งกลุ่มจากฟุตบอลโลก 2010 เขาได้ตั้งลำใหม่ให้ทีมกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น ด้วยการพาทัพอัซซูรี่ทะลุเข้าชิงชนะเลิศศึกยูโร 2012 รวมไปถึงการคว้าอันดับสามในศึกคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ครั้งที่ผ่านมา

กัปตัน  จานลุยจิ บุฟฟ่อน

ตำแหน่งกัปตันทีมชาติอิตาลี หรือ "อิล คาปิตาโน่" จำเป็นต้องมีคุณสมบัติในความเป็นผู้นำที่สูงจริงๆ ซึ่งก็ไม่มีใครที่จะมีประสบการณ์เทียบเท่า หรือมากกว่าบุฟฟ่อน กัปตันทีมจากยูเวนตุสแล้ว สุดยอดจอมเซฟเริ่มต้นการเป็นประตูมือหนึ่งของทีมอัซซูรี่ตั้งแต่ก่อนศึกยูโร 2000 และได้ลงเฝ้าเสาในฟุตบอลโลกทุกสมัยนับแต่นั้นมา เมื่อครั้งที่คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 2006 บุฟฟ่อน ถือว่ากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา พร้อมกับผลงานเสียไปเพียง 2 ลูกตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ซึ่งก็คือการที่ทีมทำเข้าประตูตัวเอง และจุดโทษ ถ้าวันนี้ บุฟฟ่อน อยู่ในฟอร์มที่เหนียวหนึบเช่นนั้น อิตาลีก็จะเพิ่มความเก่งขึ้นมาเป็นเท่าตัว

คีย์แมน  มาริโอ บาโลเตลลี่

หัวหอกจากเอซี มิลาน วัย 23 ปี จะเป็นกุญแจสำคัญในแนวรุกของอิตาลีแน่นอน "ซูเปอร์มาริโอ" มักจะผลิตผลงานอันเยี่ยมยอดได้บ่อยครั้งยามที่ทีมต้องการ รวมไปถึงการยิง 2 ประตูในเกมรอบรองชนะเลิศศึกยูโร 2012 กับเยอรมัน จากการได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง บาโลเตลลี่ ทำได้ทั้งลงมาล้วงบอลต่ำ เพื่อที่จะใช้เทคนิคเฉพาะตัวของเขาในการเจาะแนวรับคู่แข่งเข้าไปเอง หรือแผงตัวอยู่ในแผงแนวรับ เพื่อรอโอกาสจบสกอร์ แต่แน่นอนว่าการมีเขาอยู่ในทีม นั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม ทั้งใน และนอกสนาม ฉะนั้นดาวยิงผิวสี จำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ที่พุ่งพล่านเอาไว้ให้ได้ เพื่อที่จะช่วยทีมอัซซูรี่ให้ไปได้ไกลในบราซิล 2014

ดาวรุ่ง  มัตเตีย เด ชีโย่

ว่ากันว่าฟูลแบ็กรายนี้ คือผลผลิตที่ดีที่สุดจากอะคาเดมี่ของเอซี มิลาน ถัดจาก เปาโล มัลดินี่ ดาวเตะวัย 21 ปี สามารถใช้เท้าทั้งสองข้างได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังเล่นในระบบแผงหลัง 4 คน หรือ 5 คนได้อย่างลงตัวสุดๆ เนื่องจากความสารพัดประโยชน์ของเขา เด ชีโย่ จึงมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ มัลดินี่ อยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ให้ทีมปีศาจแดง-ดำ ฟุตบอลโลก 2014 คือทัวร์นาเมนต์ที่เหมาะสมที่สุด ที่เขาจะได้แจ้งเกิดเต็มตัวให้เป็นที่รู้จักมากกว่านี้


 

นักเตะ