นักเตะหลัก
เคซุเกะ ฮอนดะ ( เอซี มิลาน )
ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2002, 2010)
พวกเขาอาจจะเปิดตัวในการเล่นรอบคัดเลือกอย่างเฉื่อยชา แต่ญี่ปุ่นก็กลายเป็นชาติแรกที่ได้ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2014 ลูกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ เคซึเกะ ฮอนดะ ช่วยให้พวกเขาเสมอออสเตรเลีย 1-1 และด้วยโปรแกรมที่ยังเหลืออีกหนึ่งนัด มันส่งผลให้ทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยคว้าตั๋วไป เวิลด์ คัพ เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ในรอบคัดเลือก รอบแรก ความพ่ายแพ้ต่ออุซเบกิสถาน และเกาหลีเหนือทำให้ญี่ปุ่นได้แค่อันดับ 2 ของกลุ่ม แต่ทีมของ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ ก็มาลงล็อกในรอบสุดท้าย ด้วยการมีคะแนนจบที่เหนือกว่าออสเตรเลีย 4 แต้ม
ญี่ปุ่นกลับมามีผลงานที่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา หลังจากไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2010 ที่พวกเขาตกรอบด้วยการแพ้จุดโทษต่อปารากวัย ทีมซามูไรบลูก็ผงาดคว้าแชมป์เอเชียน คัพ 2011 เป็นความสำเร็จหนที่ 4 ของพวกเขารายการนี้ ก่อนได้ไปเล่นในคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 พวกเขาจบด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่มที่มีทั้งบราซิล, อิตาลี และเม็กซิโก แต่ชัยชนะในเกมกระชับมิตรเหนืออาร์เจนตินา (1-0 เดือนตุลาคม 2010) และฝรั่งเศส (1-0 เดือนตุลาคม 2012) ก็พอจะบ่งบอกได้ว่าญี่ปุ่นสามารถเอาชนะทุกทีมได้เหมือนกัน
ภายใต้การทำทีมของ "อิล ซัค" ญี่ปุ่นดูจะลงตัวกับระบบ 4-2-3-1 ไปแล้ว โดยใช้ฮอนดะรับบทเพลย์เมกเกอร์อยู่ข้างหลัง เรียวอิจิ มาเอดะ ขณะที่ตัวริมเส้นทั้งสองฝั่งอย่าง ชินจิ คางาวะ และ ชินจิ โอกาซากิ ดาวซัลโวสูงสุดในรอบคัดเลือกที่จำนวน 8 ประตู ก็ได้รับการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมจากทั้ง ยูโตะ นางาโตโมะ และ อัตซึโตะ อูจิดะ สองฟูลแบ็กจอมบุก การผลิตประตูคือสิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างเคยชิน จากการที่ทีมเมืองปลาดิบสามารถยิงได้ถึง 30 ลูก จาก 14 เกมอุ่นเครื่องหลังสุด
กุนซือ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่
หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไปทำทีมยูเวนตุส จอมแท็กติกชาวอิตาเลียนก็เข้ามารับตำแหน่งปัจจุบันของเขาในเดือนตุลาคม 2010 และพาญี่ปุ่นเถลิงแชมป์เอเชียน คัพ 2011 เทรนเนอร์วัย 60 ปี ยังเคยผ่านงานคุมทีมในกัลโช่ เซเรีย อา ทั้ง อูดิเนเซ่, เอซี มิลาน, ลาซิโอ และ อินเตอร์ มิลาน มาแล้ว
- นักเตะ