โปรตุเกส (เพลย์ออฟ รวมผล 2 นัด ชนะ สวีเดน 4-2)
ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
อันดับสาม (1966)
มีไม่กี่ทีมนักหรอกที่จะเล่นรอบเพลย์ออฟได้อย่างโปรตุเกส หลังจากที่เคยปราบบอสเนียฯ มาสองหนติดในการชิงตั๋วไปฟุตบอลโลก 2010 และศึกยูโร 2012 ทัพเซเลเซา ดาส กีนาส ก็มีชัยเหนือสวีเดนในหนล่าสุด ได้ไปเล่นในมหกรรมลูกหนังอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกสมัย ซึ่งเหตุการนี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาจบรอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ ด้วยการมีหนึ่งแต้มเป็นรองรัสเซียของ ฟาบิโอ คาเปลโล่
สี่ปีก่อนที่แอฟริกาใต้ โปรตุเกสต้องปิดฉากทัวร์นาเมนต์ที่น่าผิดหวังแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการพ่ายต่อเพื่อนบ้านอย่างสเปน ขณะนั้นกุนซือของพวกเขายังเป็น คาร์ลอส เคยรอช ที่โดนโจมตีอย่างหนักว่าทำทีมเล่นฟุตบอลทื่อเกินไป และเมื่อทีมออกสตาร์ตด้วยฟอร์มเป๋ไม่เลิกในการคัดเลือกยูโร 2012 อดีตเทรนเนอร์เรอัล มาดริด ก็ถูกแทนที่ด้วย เปาโล เบนโต้ อดีตกองกลางชื่อดังของสปอร์ติ้ง ลิสบอน
หลังจากออกสตาร์ตอย่างเนือยในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวที่มีโปแลนด์ และยูเครนเป็นเจ้าภาพร่วม โปรตุเกสก็รวมพลังฮึดสู้กันใหม่ พร้อมเขี่ยเช็กตกรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนจะไปแพ้ต่อสเปน ทีมแชมป์ของรายการ ในช่วงดวลจุดโทษ ผลที่ตามมาคือความคาดหวังจากคนในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุที่ทีมมีสปิริตอันแรงกล้า, ฟอร์มที่เข้าฝักของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และไหนจะยังมีกองกลางอย่าง ชูเอา มูตินโญ่ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้ว่าสิ่งต่างๆ จากศึกยูโร 2012 จะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ดูเหมือนว่าโปรตุเกสจะลืมวิธีที่จะผ่านรอบคัดเลือกอย่างง่ายดายไปแล้ว หลังจากออกสตาร์ตอย่างร้อนแรงในการเล่นรอบคัดเลือกเวิลด์ คัพ 2014 พวกเขาก็ต้องเจอปัญหาต่างๆ มากมาย จนความพ่ายแพ้ที่รัสเซีย รวมถึงการทำได้แค่เสมอไอร์แลนด์เหนือ และอิสราเอล ทำให้ทีมของเบนโต้ ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงเอาตัวรอดจากหายนะได้ ด้วยการเก็บ 13 จาก 15 คะแนน ใน 5 เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงชัยชนะเกมสำคัญเหนือรัสเซีย 1-0 จนทำให้ได้ไปเล่นเพลย์ออฟ
กุนซือ เปาโล เบนโต้
อดีตดาวเตะทีมฝอยทอง เพิ่งจะเคยมีประสบการณ์คุมทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรเดียว ก่อนมารับงานนี้เมื่อเดือนกันยายน 2010 เทรนเนอร์วัย 44 ปี ไม่ชอบที่จะเปลี่ยน 11 ตัวจริงบ่อยครั้งจนเกินไป จึงทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการทำทีมให้คู่แข่งเดาทางง่าย โดยระบบเก่งของเขาคือ 4-3-3 ที่จะใช้ เอลแดร์ ปอสติก้า ยืนกองหน้าตัวเป้า
กัปตัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้
โปรตุเกสขึ้นชื่อเรื่องการผลิตนักเตะเก่งๆ มาหลายคน แต่ใครล่ะที่จะเก่งเทียบเท่า โรนัลโด้? เด็กคนนี้เกิด และเติบโตมาในมาเดยร่า เขาต้องย้ายไปเมืองลิสบอนเมื่ออายุได้ 12 และมีโอกาสได้รับการพัฒนาฝีเท้าโดยทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน หนึ่งในอะคาเดมี่ลูกหนังที่ดีที่สุดในโลก ความสำเร็จของปีกจอมสับกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เขาได้รับรางวัลบัลลง ดอร์ ปี 2008 การย้ายไปค้าแข้งให้เรอัล มาดริด ยิ่งเป็นการประทับตราว่าเขาคือนักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน จนกระทั่งซิวลูกบอลทองคำอีกครั้งเมื่อต้นปี 2014
คีย์แมน ชูเอา มูตินโญ่
มิดฟิลด์จากโมนาโก มีสองซีซั่นก่อนหน้านี้ที่เยี่ยมยอดกับทั้งเอฟซี ปอร์โต้ และทีมชาติ ความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมของเขา ทำให้เจ้าตัวสามารถสร้างชื่อให้โลกรู้จักอย่างเต็มตัวในศึกยูโร 2012 ที่โปแลนด์ และยูเครน ในฐานะกองกลางที่มีการจ่ายบอลดีเยี่ยม และความคงเส้นคงวาไม่มีตก มูตินโญ่ ยังมีเท้าขวาที่เปี่ยมไปด้วยทักษะ และเหมือนกับเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาก็เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของสปอร์ติ้ง ลิสบอน นั่นเอง
ดาวรุ่ง บรูม่า
หลายทีมใหญ่ต่างก็ต้องการล่าลายเซ็นของบรูม่า หลังจากการโชว์ฟอร์มได้น่าทึ่งในศึกเวิลด์ คัพ ยู-20 เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากตลาดซื้อ-ขาย เปิดตัวขึ้น ดาวเตะวัย 19 ก็เลือกที่จะย้ายจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปอยู่กับกาลาตาซาราย ในตุรกี ทั้งเทคนิคแพรวพราว และอัตราการเร่งสปีดที่เหลือเชื่อ ทำให้ปีกรายนี้ได้ฉายาว่า "นิว คริสเตียโน่ โรนัลโด้" แม้ว่าเขาจะไม้ได้เล่นในรอบคัดเลือกให้โปรตุเกส แต่เป็นไปได้เหลือเกินที่ บรูม่า จะได้ไปเป็นตัวโจ๊กเกอร์ให้ทีมของเบนโต้ ที่บราซิล
- นักเตะ