7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >
  • หน้าแรก
  • นักเตะ
  • ข่าว
  • รูปภาพ
  • สถิติข้อมูล
  • วิเคราะห์
  • การแข่งขันถัดไป

ดาวเด่น: ลูก้า โมดริช
บอลโลกที่ผ่านมา: อัลดับที่ 3 ในรอบชิงที่ 3
เส้นทางสู่บอลโลกบราซิล: ทีมอันดับ 18 โลก รองแชมป์กลุ่มเอ ต้องเล่นเพลย์ออฟ 2 นัดกับทีมไอซ์แลนด์ นัดแรกบุกไปเสมอ 0-0 และในนัดที่ 2 กลับมาเล่นในบ้าน ชนะ 2-0 รวมผล 2 นัด ชนะ 2-0 ได้เล่นในรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 4 เคยทำผลงานดีที่สุดคืออันดับ 3 ในปี 1998 และในครั้งนี้หวังเข้ารอบให้ลึกที่สุด อย่างต่ำต้องถึงรอบรองชนะเลิศให้ได้

ตราหมากรุกมีปัญหาใหญ่แน่สำหรับการเตรียมตัวเลือกนักเตะในช่วงเดือนสุดท้ายก่อนศึกฟุตบอลโลก โดยเฉพาะสำหรับสตาฟฟ์โค้ชทีมชาตื

แต่สำหรับผู้จัดการทีมชาติโครเอเชียแล้วอาจจะเป็นเหมือนช่วงเวลาหอมหวานสำหรับเขา เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในทุกๆ ตำแหน่ง และอาจจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนตุลาคม

ทีมตราหมากรุกผ่านเข้ารอบสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับสองของกลุ่มเอ มีแต้มตามหลังเบลเยียมแชมป์กลุ่มอยู่  9 คะแนน โดยแม้โครเอเชียจะทำผลงานในช่วงแรกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่กลับฟอร์มวูบหนักในช่วง4 นัดหลังสุด แพ้ไปถึง 3 และเสมออีก 1 เกม และในเกมที่พวกเขาบุกไปพ่ายต่อสก็อตแลนด์ 0-2 ที่กลาสโกว์ ก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้อิกอร์ สติมัชถูกไล่ออกจากตำแหน่ง

แม้ผลงานในช่วงท้ายของพวกเขาจะย่ำแย่แต่ก็ยังมีแต้มดีกว่าเพื่อนร่วมกลุ่มรายอื่นๆ จนคว้าสิทธิ์ไปเล่นรอบเพลย์ออฟกับทีมชาติไอซ์แลนด์ แต่เป็นโชคร้ายของพวกเขาที่มาริโอ มานด์ซูคิชต้องโดนใบแดง ทำให้เขาอาจหมดสิทธิ์ลงสนามในรอบแบ่งกลุ่มทั้งสามนัด จนอาจจะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นของโครเอเชียก็เป็นได้

หลังจากที่สหภาพโซเวียตแตกออก โครเอเชียก็เข้าร่วมศึกฟุตบอลโลกทันทีในช่วงปี 1998 และปีนั้นพวกเขาก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนทั้งโลก หลังคว้าอันดับ 3 ในศึกฟรองซ์ 98 มาครองได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยมีนักเตะอย่างดาวอร์ ซูเคอร์และซโวนิเมีย โบบัน เป็นหัวใจสำคัญในปีนั้น พวกเขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจโดยเฉพาะในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ถล่มเยอรมันทีมแกร่งร่วมทวีปไปถึง 3-0

แต่เมื่อมีจุดสูงสุดก็ต้องมีจุดต่ำสุด ฟุตบอลโลกสองครั้งต่อมาแม้พวกเขาจะสามารถผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้ แต่ก็ไปได้เพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น ล่าสุดฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ พวกเขาก็ไม่ผ่านแม้แต่รอบคัดเลือก ทั้งที่ยูโร 2008 พวกเขาทำผลงานได้ดีด้วยการเบียดทีมอย่างทีมชาติอังกฤษตกรอบแบ่งกลุ่มไปด้วยซ้ำ

นิโก้ โควัช ที่เป็นกัปตันทีมในตอนนั้นได้หนีบเอาน้องชายของเขาที่เคยเล่นร่วมกันในนามทีมชาติมาเป็นผู้ช่วยรวมถึงอดีตเพื่อนร่วมทีมในสีเสื้อตราหมากรุกอีกมากมายมาเป็นสตาฟฟ์โค้ชอีกด้วย

แต่เกมนัดแรกสำหรับโควัชถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเท่าไร หลังทำได้แค่บุกไปเสมอกับไอซ์แลนด์ ในเกมเพลย์ออฟเพื่อชิงตั๋วไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งที่ทีมเจ้าถิ่นมีผู้เล่นเหลือสิบตัวตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง เนื่องจากโอลาฟู สกูลาสันไปโดนใบแดง

แต่พอกลับมาเล่นที่ซาเกร็บ พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีขึ้นและมาได้ประตูออกนำไปอย่างรวดเร็วจากมาริโอ มานด์ซูคิช จนทำให้แฟนบอลทั่วทั้งโครเอเชียได้เฮกันลั่น แต่จากฮีโร่ก็ต้องกลายเป็นวายร้ายหลังมาโดนใบแดงจากการไปทำฟาวล์โยฮันน์ กุดมุนด์สสัน แต่ยังดีที่พวกเขาที่มีผู้เล่นน้อยกว่ามาได้ประตูปิดกล่องตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลังจากดาริโอ เซอร์นา

งานของโควัชในตอนนี้คือการกระตุ้นสายเลือดของความกระหายต่อการคว้าชัยชนะให้กลับมาอยู่ในตัวของนักเตะทีมชาติโครเอเชียให้ได้ เพราะพวกเขาถือว่ามีผลงานที่สวิงขึ้นสวิงลงเป็นอย่างมากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถเอาชนะได้ถึง 5 จาก 6 เกมแรก โดยนัดที่สะดุดนั้นเป็นการบุกไปเยือนเบลเยียม หลังเสมอกันไป 1-1 โดยเป็นอิวาน เปริซิชที่ยิงให้ทีมตั้งแต่ต้นเกม

อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งเฮดโค้ชคนใหม่ อย่างโควัชเข้ามาถือว่ามีการทำงานที่จริงจังมากขึ้นกว่าเดิมและทุกอย่างก็ดำเนินไปในทิศทางที่ดีมากกว่าแตกแยกด้วยซ้ำ

แต่ปัญหาใหญ่ของทัพตราหมากรุกคือจะไม่สามารถใช้บริการสองนักเตะตัวเก่งอย่างลูก้า โมดริชและมาริโอ มานด์ซูคิชได้ในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2014 ของพวกเขา ซึ่งเชื่อว่าการขาดนักเตะทั้งสองรายจะส่งผลต่อผลงานของพวกเขาในรอบสุดท้ายแน่นอน

ปัญหาใหญ่ของโควัชคือผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่โควัชเคยเล่นในอดีต ซึ่งเขาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ให้ได้ก่อนศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายซึ่งเวลาอีกไม่ถึง 5 เดือนแล้ว

นักเตะ