ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
แชมป์โลก (1998)
ถึงจุดหนึ่ง ฝรั่งเศสอยู่ในสถานะที่ทำท่าว่าจะไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกนับตั้งบแต่ปี 1994 เสียแล้ว หลังจากจบรอบคัดเลือกที่อันดับสอง ด้วยการเป็นรองสเปน ในกลุ่มไอ ทัพเลส์ เบลอส์ ต้องเจอกับคืนหฤโหดที่เคียฟ ด้วยการแพ้ต่อยูเครน 0-2 ในเลกแรกของรอบเพลย์ออฟ นัดนั้นทำเอานักวิเคราะห์วิจารณ์เมืองน้ำหอมทั้งหลายต้องโชว์ฝีปากกันยกใหญ่ โดยได้ข้อสรุปที่ว่านักเตะเฟร้นช์หลายคนขาดความทุ่มเทในการเล่น จนมาถึงเกมเลกสองที่ปารีส โค้ช ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำการเปลี่ยนตัวจริงบางตำแหน่ง แล้วมันก็เห็นผล พวกเขากลับมาเป็นฝ่ายเอาชนะ 3-0 ตีตั๋วสำเร็จ
การไม่ได้ไปเล่นที่บราซิล 2014 จะถือเป็นจุดตกต่ำสุดๆ ของชาติที่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาตลอดในทัวร์นาเมนต์หลังๆ ตั้งแต่เวิลด์ คัพ 2006 ที่การกลับมาของ ซีเนดีน ซีดาน เกือบจะพาทีมคว้าแชมป์โลกสมัยที่สอง ล่าสุดในฟุตบอลโลก 2010 กลายเป็นว่าทีมตราไก่ล้มเหลวเป็นอย่างยิ่งจากการต้องตกรอบโดยที่ไม่สามารถชนะใครได้เลย การจบด้วยรอบก่อนรองชนะเลิศในศึกยูโร 2012 ก็ถือว่าพอเป็นตัว กอบกู้ได้บ้าง กับการที่ทีมชุดนี้ต้องถูกบดบังด้วยรัศมีที่ทรงอานุภาพของทีมชุดแชมป์โลก 1998
ตลอดรอบคัดเลือก สิ่งที่พอจะดูเป็นภาพลักษณ์ที่ดีไม่แพ้ใครให้กับฝรั่งเศสก็เห็นจะเป็น ฟร้องค์ ริเบรี่ ซึ่งฟอร์มอันสุดยอดของเขากับ บาเยิร์น มิวนิค ก็ทำให้เจ้าตัวคว้ารางวัลนักเตะที่ดีที่สุดในยุโรปของยูฟ่า เมื่อเดือนสิงหาคม และบรรดาประตูที่เขายิงได้ในทีมชาติ ก็เป็นสิ่งที่มาทดแทนสภาวะปืนฝืดของ คาริม เบนเซม่า ได้เป็นอย่างดี จอมหนึบอย่าง อูโก้ โยริส ก็เป็นอีกคนที่รักษามาตรฐานได้คงเส้นคงวา ขณะที่การแจ้งเกิดของ ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็ก และมิดฟิลด์ ปอล ป็อกบา ก็แสดงให้เห็นว่าตราไก่มีอนาคตที่สดใสรออยู่
ปัญหาเรื่องการยืนระยะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เกมสองนัดในรอบเพลย์ออฟกับยูเครน ก็ได้สะท้อนให้เห็นทั้งในด้านดี และด้านแย่ของฝรั่งเศสไปหมดแล้ว ความท้าทายอีกอย่างของเดส์ชองส์ คือการต้องสรรหา 11 ตัวจริงที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาให้ได้ และต้องมั่นใจว่าเขาเลือกนักเตะถูกคนไปใช้งานที่บราซิล
กุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์
อดีตกองกลางตัวรับรายนี้ คือกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ชุดที่คว้าแชมป์โลกปี 1998 หลังจากแขวนสตั๊ด เขาก็ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ และพาทีมโมนาโกทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในปี 2005 จากนั้นก็ไปเป็นโค้ชให้กับทีมใหญ่ๆ ทั้งยูเวนตุส และโอลิมปิก มาร์กเซย ก่อนจะมารับงานคุมทีมตราไก่ในเดือนกรกฎาคม 2012
กัปตัน อูโก้ โยริส
นายประตูมากความสามารถ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติโดย โลร็องต์ บล็องก์ ก่อนถึงศึกยูโร 2012 และยังสวมปลอกแขนเรื่อยมาจนถึงยุคของ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ หลังจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว โยริสก็ย้ายจากโอลิมปิก ลียง มาเฝ้าเสาให้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่เขาสามารถรั้งมือหนึ่งได้อย่างเหนียวแน่น มือกาวเฟร้นช์แมน ยังยืนเป็นด่านสุดท้ายให้ทีมตราไก่ ในฟุตบอลโลก 2010 และหวังที่จะทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมที่บราซิล 2014
คีย์แมน ฟร้องค์ ริเบรี่
ปีกจอมทักษะ ยืนยงเป็นสตาร์เบอร์ 1 ของฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน ซึ่งในซีซั่นหลังๆ ดูเหมือนว่าเขาจะยกระดับตัวเองขึ้นไปได้อีก จนสามารถเทียบชั้นสตาร์แนวหน้าของวงการอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ ได้แล้ว อดีตดาวเตะโอลิมปิก มาร์กเซย เป็นหนึ่งในนักเตะหน้าใหม่ของทัพ เลส์ เบลอส์ ในเวิลด์ คัพ 2006 ที่เยอรมัน แล้วจากนั้นก็ย้ายไปประสบความสำเร็จเป็นกอบเป็นกำกับ บาเยิร์น มิวนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 แชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว ริเบรี่อายุ 30 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังอยู่ในฟอร์มระดับท็อปของอาชีพค้าแข้ง และจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองที่บราซิลกลางปีนี้
ดาวรุ่ง ปอล ป็อกบา
ทั้งทรงพลัง และมีจังหวะในการเล่นที่ดีเยี่ยม ป็อกบาดูจะเป็นความหวังของฝรั่งเศสในระยะยาวอย่างแท้จริง ตั้งแต่ย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 เขาก็กลายเป็นกุญแจสำคัญในทีมยูเวนตุส แชมป์ลีกอิตาเลียน และตอนนี้ก็เป็นนักเตะตัวหลักในทีมตราไก่ไปเรียบร้อยแล้วด้วย ด้วยอายุเพียง 20 ปี ห้องเครื่องเฟร้นช์แมนก็สามารถเทียบชั้นนักเตะชั้นนำในยุโรปได้แบบสบายๆ แล้ว
- นักเตะ