7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >
  • หน้าแรก
  • นักเตะ
  • ข่าว
  • รูปภาพ
  • สถิติข้อมูล
  • วิเคราะห์
  • การแข่งขันถัดไป

อาร์เจนตินา (แชมป์รอบคัดเลือก)

ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
แชมป์โลก (1978, 1986)

อาร์เจนตินา เจ้าของแชมป์โลกสองสมัย มักจะถูกมองว่ามีศักยภาพดีพอต่อการคว้าแชมป์ในทุกรายการที่ลงเล่น ซึ่งการแข่งขันที่บราซิล ประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขาในซัมเมอร์นี้ ก็ไม่ต่างกัน หลังจากผ่านช่วงเวลาตะกุกตะกักเล็กน้อยในรอบคัดเลือกมาได้ ทีมของ อาเลฮันโดร ซาเบย่า ก็ฟื้นคืนชีพสำเร็จ หลังจากความล้มเหลวในศึกโคปา อเมริกา ที่บ้านตัวเองเมื่อปี 2011

ตั้งแต่เข้ามาสืบทอดตำแหน่งกุนซือต่อจาก เซร์คิโอ บาติสต้า ที่โดนปลดหลังจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ซาเบย่าก็โฟกัสไปที่การเล่นเกมรับของทีมก่อนเป็นอันดับแรก ตลอดจนการสร้างความคงเส้นคงวาขึ้นมาให้ และการหานักเตะที่จะทำให้ทีมของเขาผ่านการออกสตาร์ตรอบคัดเลือก ที่ถือว่ายากลำบากให้ได้ เมื่อถึงจุดที่ทุกอย่างมันลงตัว เทรนเนอร์วัย 59 ปี ก็เริ่มที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ มากมาย จนหาความสมดุลที่ทำให้ทีมอัลบิเซเลสเต้ สามารถที่จะเติมอาวุธในแนวรุกได้มากเท่าที่จะทำได้

แผงกองหน้าสามคนที่ประกอบด้วย เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", กอนซาโล่ อิกวาอิน และ ลิโอเนล เมสซี่ คือแนวรุกที่อันตรายมากที่สุดแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเล่นได้เข้าฟอร์มพร้อมๆ กัน ก็จะไม่มีใครหยุดอยู่แน่ นอกจากนั้นยังมีอะไหล่ชั้นเยี่ยมอย่าง โรดริโก้ ปาลาซิโอ กับ เอเซเกล ลาเวซซี่ ที่ทำให้ม้านั่งสำรองของพวกเขายังดูน่ากลัวเข้าไปอีก ขนาดนักเตะชื่อดังอย่าง คาร์ลอส เตเวซ ยังไม่มีโอกาสแม้จะมาติดทีมเลยด้วยซ้ำ มันแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานในเกมบุกอันแสนสูงส่งของทีมฟ้า-ขาวได้เป็นอย่างดี

ตัวเลือกในแดนกลางของอาร์เจนตินาก็ถือว่าล้นเหลือ นักเตะอย่าง เฟร์นานโด กาโก้ สามารถสวมบทจอมทัพได้อย่างน่าทึ่งยามที่ตัวเองผิตสมบูรณ์ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ก็เป็นอีกหนึ่งขุนพลที่ซาเบย่าใช้บริการมาตลอด ขณะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ก็แสดงให้เห็นถึงพลังในการเล่นที่เยี่ยมยอดจากด้านข้าง ส่วนเกมรับยังคงเป็นจุดที่อ่อนที่สุดของทีมฟ้า-ขาว แต่ด้วยการที่ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ กับ เอเซเกล การาย นั้นมีความเข้าใจกันมากขึ้นในตำแหน่งคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ อีกทั้งยังมีฟูลแบ็กคุณภาพอย่าง ปาโบล ซาบาเลต้า แค่นี้ก็ทำให้พวกเขาสามารถเป็นยอดทีมในเวิลด์ คัพ 2014 ได้แล้ว

กุนซือ อาเลฮันโดร ซาเบย่า

ซาเบย่า สร้างชื่อขึ้นมาจากการเป็นมือขวาของ ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า ทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาพาเอสตูเดียนเตส เด ลา ปลาต้า ให้กลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในอเมริกาใต้ จนได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลาม ในที่สุดเขาก็ได้เข้ามารับงานเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติอาร์เจนตินาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2011

กัปตัน ลิโอเนล เมสซี่

เมื่อนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม แน่นอนว่าแฟนบอลก็จะต้องมองถึงความสุดยอดที่จะบังเกิดขึ้น ซึ่งทุกอย่างมันอยู่ในหัวของเมสซี่แล้ว สำหรับการนำทีมลงทำศึกที่บราซิลช่วงซัมเมอร์นี้ กองหน้าวัย 26 ปีกำลังอยู่ในฟอร์มที่มั่นคงที่สุดในอาชีพการเล่น เมื่อถึงศึกเวิลด์ คัพ 2018 เขาจะมีอายุครบ 30 ปี นั่นหมายความว่าดาวเตะจอมอัจฉริยะ จะเข้าสู่ช่วงโรยรา และสปีดที่เคยมีก็จะหายไปบ้างแล้ว ปีนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเหม็งที่สุดต่อการที่เขาจะได้ระเบิดฟอร์มอย่างเต็มที่ 26 คืออายุที่เท่ากับ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตอนที่ได้แชมป์โลกเป็นครั้งแรกด้วย

คีย์แมน กอนซาโล่ อิกวาอิน

แน่นอนว่า ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงเป็นศูนย์กลางในแนวรุกของทีมอาร์เจนตินา แต่บทบาทของกองหน้าตัวเป้าก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน ประตูแต่ละลูกที่อิกวาอินทำได้ ตลอดการเล่นในรอบคัดเลือก ล้วนเป็นประตูสำคัญ ที่มีผลต่อการผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกของทีม พร้อมยังเป็นการเสริมสร้างดีกรีหัวหอกชั้นนำของโลกให้กับเจ้าตัวด้วย ด้วยสายตาที่มองไปถึงบราซิลแล้ว อิกวาอินกำลังตั้งเป้าที่จะทำให้ดีเทียบเท่า หรือดีกว่าผลงานของเขาในเวิลด์ คัพ 2010 ที่กดไป 4 ลูกจาก 4 นัด

ดาวรุ่ง จิโน่ เปรุซซี่

ฟูลแบ็กคือตำแหน่งที่โค้ช อาเลฮันโดร ซาเบย่า ดูจะมีปัญหามากที่สุด แต่ถ้าเปรุซซี่สามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นที่ดีให้ได้ต่อเนื่องกับคาตาเนีย ในกัลโช่ เซเรีย อา เหมือนที่เคยฉายแววโดดเด่นในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส มาแล้ว ผลผลิตจากเวเลซ ซาร์สฟิลด์ รายนี้ ก็อาจกลายเป็นแบ็กชั้นนำของโลกได้เลย หลังจากเคยมีประสบการณ์ในการดวลกับเนย์มาร์ ของบราซิลอย่างดุเดือดมาแล้ว เขาต้องเร่งเครื่องเต็มที่ในระดับสโมสร เพื่อโอกาสในทีมชาติที่เปิดกว้างกว่านี้

นักเตะ