แอลจีเรีย (เพลย์ออฟ รวมผล 2 นัด เสมอ บูร์กินาฟาโซ 3-3 แอลจีเรีย เข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน)
นักเตะหลัก
โซฟิยาน เฟกูลี (บาเลนเซีย)
ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
รอบแบ่งกลุ่ม (1982, 1986, 2010)
หลังจากหยุดสถิติไม่ได้เล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายยาวนานถึง 24 ปี ด้วยการตีตั๋วไปเวิลด์ คัพ 2010 เมื่อสี่ปีก่อน แอลจีเรียก็ทำได้อีกเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ด้วยการเอาชนะบูร์กินาฟาโซ ในรอบเพลย์ออฟ เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ได้ดราม่าเหมือนอย่างปี 2009 ที่พวกเขาจบรอบคัดเลือก รอบแบ่งกลุ่มด้วยการมีแต้ม และประตูได้-เสียเท่ากับทีมคู่ปรับอย่างอียิปต์ ทำให้ต้องไปเตะหาแชมป์กลุ่มกันที่สนามกลางในซูดาน แล้วทัพจิ้งจอกทะเลทรายก็ได้เฮที่สกอร์ 1-0
ผลงานของแอลจีเรียในฟุตบอลโลก 2010 ถือว่าน่าผิดหวัง แม้ว่าจะมีเกมที่สามารถยันเสมออังกฤษ ของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ได้ 0-0 ในกลุ่มซี แต่พวกเขาก็ต้องตกรอบแรกอยู่ดี ซึ่งผลลัพธ์แห่งการตกรอบแบ่งกลุ่มนี้ มันก็เหมือนเมื่อตอนที่พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกได้ครั้งแรก ในปี 1982 ที่ครั้งนั้นต้องตกรอบอย่างน่าเจ็บปวด ด้วยผลต่างประตูได้-เสีย ที่เป็นรองคู่แข่ง แม้จะเปิดสนามแบบสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการคว่ำเยอรมันตะวันตกได้ก็ตาม เช่นเดียวกับครั้งที่สอง ในปี 1986
ด้วยการรวบรวมความหวังครั้งใหม่ โชคชะตาของแอลจีเรีย ตอนนี้อยู่ในกุมมือของ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช เทรนเนอร์ชาวบอสเนียน ที่เข้ามาคุมทีมตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2011 โค้ชเจ้าระเบียบ อาจจะมีผลงานไม่สู้ดีนักหลังพาทีมเป็นบ๊วยของกลุ่มดี ในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2013 แต่เขาก็สามารถพาทีมชนะ 5 จาก 6 นัดในรอบคัดเลือก รอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงการเขี่ยบูร์กินา ฟาโซ พ้นทางในเพลย์ออฟ พร้อมพาแอลจีเรียไปเวิลด์ คัพ สมัยที่ 4 สำเร็จ
กุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช
เทรนเนอร์วัย 61 ปี ชาวบอสเนียน เคยผ่านการเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ด้วยการเปลี่ยนลงไปเป็นสำรอง 2 นัดให้กับยูโกสลาเวีย เมื่อปี 1982 แล้วหลังจากนั้นก็ย้ายไปค้าแข้งกับเปแอสเชด้วย เขาโชว์ฝีมือการคุมทีมด้วยการพาทัพไอวอรี่โคสต์ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็ถูกไล่ออก ก่อนทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจะเริ่มเป็นเวลา 4 เดือน
- นักเตะ