โธมัส มุลเลอร์ ฟอร์มสุดร้อนแรงหลังทำสามประตูช่วยให้ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ไล่ถล่ม "ทีมฝอยทอง" โปรตุเกส ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ไปแบบสบายๆ 4-0 ในเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี เมื่อวันจันทร์ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 

  เริ่มเกมการแข่งขัน เพียงแค่ 5 นาที โอกาสแรกของเกมเป็นของ โปรตุเกส จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลากบอลขึ้นมาก่อนผ่านบอลให้ อูโก้ อัลเมยด้า ได้ยิงหน้าเขตโทษแต่เบาไป มานูเอล นอยเออร์ รับไว้ได้สบาย

  ทีมฝอยทองยังทำเกมโต้กลับได้น่ากลัว นาทีที่ 7 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลากบอลหลุดเข้าไปยิงที่เสาแรกแต่ไปติดตัว มานูเอล นอยเออร์

  ถัดจากนั้นนาทีเดียว ทีมอินทรีเหล็กพลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย จากความผิดพลาดของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูโปรตุเกสที่เปิดบอลยาวพลาดไปให้ ซามี่ เคดิร่า ได้ยิงสวนทันทีจากระยะ 25 หลา แต่บอลหลุดกรอบออกไป

   นาทีที่ 11 ชูเอา เปเรยร่า แบ็กขวาโปรตุเกส ไปดึง มาริโอ เกิทเซ่ ล้มล้งในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษพร้อมควักใบเหลืองให้กับ ชูเอา เปเรยร่า

   นาทีที่ 12 จากจุดโทษ โธมัส มุลเลอร์ ซัดเรียดผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ เสียบมุมขวา ให้เยอรมันออกนำ 1-0

  นาทีที่ 25 โปรตุเกส น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆจากลูกยิงไกลระยะ 18 หลา ของ หลุยส์ นานี่ แต่บอลข้ามคานออกไปนิดเดียว

   นาทีที่ 28 ทีมฝอยทอง ต้องเปลี่ยนตัว อูโก้ อัลเมยด้า กองหน้าของทีมได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โดยส่ง เอแดร์ โลเปส กองหน้าจาก บราก้า ลงไปเล่นแทน

  นาทีที่ 31 เมซุต โอซิล ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนไหลเข้ากลางให้ มาริโอ เกิทเซ่ ได้ยิงเต็มๆแต่บอลแฉลบกองหลังโปรตุเกสออกหลังไป

   นาทีที่ 32 จากลูกเตะมุม โทนี่ โครส เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ โถมเข้าโขกเต็มหัวให้ทีมอินทรีเหล็กสยายปีกหนีเป็น 2-0

  นาทีที่ 36 โปรตุเกสได้ลุ้นจากลูกเตะมุม ชูเอา มูตินโญ่ เปิดยาวเข้าไปหน้าประตู เอแดร์ ได้โขกคนเดียวโล่งๆแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

 นาทีที่ 37 สถานการณ์ของโปรตุเกสย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อต้องเหลือผู้เล่น 10 คน หลัง เปเป้ โดนใบแดงเนื่องจากไปเล่นนอกเกมใส่ โธมัส มุลเลอร์

   นาทีที่ 45 โทนี่ โครส เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ โธมัส มุลเลอร์ ขึ้นแย่งบอลกับ บรูโน่ อัลเวส ก่อนบอลมาตกตรงหน้า ดาวเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ซัดทันทีบอลพุ่งโดนตัว รุย ปาตริซิโอ ก่อนตุงตาข่าย เยอรมัน หนีห่างไปเป็น 3-0

  หมดครึ่งแรก เยอรมัน ขึ้นนำ โปรตุเกส 3-0

   กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง โปรตุเกส เปลี่ยนเอา ริคาร์โด้ คอสต้า ลงสนามไปแทน มิเกล เวโลโซ่

  นาทีที่ 51 ทีมอินทรีเหล็กเกือบได้ประตูเพิ่ม มาริโอ เกิทเซ่ แทงทะลุให้ เมซุต โอซิล หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงติดขาของ รุย ปาตริซิโอ บอลกระดอนไปเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ ที่ตามมาโหม่งซ้ำแต่ข้ามคานออกไป

   นาทีที่ 62 เยอรมันเปลี่ยนเอา เมซุต โอซิล ออกและส่ง อันเดร เชือร์เล่ ลงไปเล่นแทน

   นาทีที่ 65 โปรตุเกส ต้องเปลี่ยนเอา ฟาบิโอ โคเอนเตรา ที่เจ็บหนักเล่นต่อไม่ไหวออก และส่ง อันเดร อัลเมยด้า ลงสนามแทน

  นาทีที่ 69 จากจังหวะโต้กลับเร็ว โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลหลุดเข้าไปหน้าเขตโทษก่อนไหลไปที่เสาสองให้ มาริโอ เกิทเซ่ ได้ยิงแต่บอลแฉลบ ราอูล เมยเรเลส ออกหลังไป

   นาทีที่ 73 ทีมอินทรีเหล็กต้องส่ง ชโคดราน มุสตาฟี่ ลงสนามไปแทน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ที่ได้รับบาดเจ็บที่เข่าเล่นต่อไม่ไหว

   นาทีที่ 78 อันเดร เชือร์เล่ เปิดบอลยัดเข้าไปหน้าประตู รุย ปาตริซิโอ ล้มตัวปัดไว้ได้แต่ โธมัส มุลเลอร์ ตามซ้ำจ่อๆไม่เหลือ ให้เยอรมัน นำห่างสุดกู่ 4-0 เป็นแฮตทริกของ โธมัส มุลเลอร์ ในเกมนี้และเป็นแฮตทริกแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้

   นาทีที่ 81 เยอรมัน เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายโดยส่ง ลูคัส โพดอลสกี้ ลงสนามไปแทน โธมัส มุลเลอร์

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลา บอลพุ่งเต็มแรงผ่านกำแพงแต่ มานูเอล นอยเออร์ ไม่พลาดพุ่งปัดออกหลังไปได้

  จบเกม "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน เป็นฝ่ายเอาชนะ โปรตุเกส ไปได้ด้วยสกอร์มโหฬาร 4-0