ทีมชาติสเปน กลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ต้องตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มในครั้งถัดจากที่ได้แชมป์ ภายหลังพวกเขาแพ้ ชิลี 0-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดสอง ที่สนาม เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า นคร รีโอ เด จาเนโร เมื่อวันพุธที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 หลังจากแพ้ ฮอลแลนด์ ในนัดแรกมาแบบยับเยิน 1-5 เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้เกมนี้ สเปน จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อต่อความหวังการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่พวกเขากลับยังเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ในขณะที่ ชิลี ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ "ลา โรฆา" แพ้ไปในที่สุด

  ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ สเปน จอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเป็นที่แน่นอนแล้ว หลังผ่านไป 2 นัด ยังเก็บไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว ขณะที่ 2 อันดับแรกของกลุ่มอย่าง ฮอลแลนด์ กับ ชิลี มีทีมละ 6 คะแนน ในขณะที่เหลือเกมให้เล่นอีก 1 นัด

 จากเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ สเปน กลายเป็นแชมป์เก่ารายที่ 4 ที่ไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ ต่อจาก อิตาลี ในปี 1950 กับ 2010, บราซิล ในปี 1966 และ ฝรั่งเศส ในปี 2002 นอกจากนี้ พวกเขายังมีสิทธิ์เป็นแชมป์เก่าที่เก็บแต้มได้น้อยที่สุดด้วย หากนัดสุดท้ายแพ้ ออสเตรเลีย ในวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ โดยสถิติแต้มน้อยสุดของแชมป์เก่าในปัจจุบันเป็นของ "เลส์ เบลอส์" ชุดปี 2002 ที่เก็บได้เพียงแต้มเดียว

ทีมอัซซูรี่ที่เพิ่งผงาดคว้าถ้วยจูลส์ ริเมต์ ก็มีอันต้องตกรอบแรกในปี 1950


บราซิล ยุคปี 1966 ที่มี เปเล่ ก็เคยพลาดท่ามาแล้ว


ช็อกโลก! ทัพตราไก่ที่เต็มไปด้วยสตาร์ดัง ตกรอบแรกโดยเก็บได้เพียงแต้มเดียว
 

ซีเนดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศส ร่ำไห้หลังผลงานของทีมย่ำแย่


ขุนพลอัซซูรี่ ซ้ำรอยตกรอบแรกอีกครั้งในปี 2010


ทีมชาติสเปน กลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ต้องตกรอบแรก