ทัพ "อัซซูรี่" อิตาลี ใช้ อันโตนิโอ คันเดรว่า, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และ มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็น 3 ประสานในแนวรุก ขณะที่ พลพรรค "กล้วยหอม" คอสตาริกา วาง  โจเอล แคมป์เบลล์ ลงล่าตาข่าย โดยมี ไบรอัน รุยซ์ คอยปั้นเกมในแดนกลาง

<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%>

 เริ่มเกมการแข่งขัน แค่เพียง 6 นาที คอสตาริกา ได้ทักทายก่อนเลย จากจังหวะที่ คริสเตียน โบลันญอส ได้หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ติดบล็อกของ อันเดรีย บาร์ซายี่ ออกหลังไป

  นาทีที่ 7 จากลูกเตะมุม คริสเตียน โบลันญอส เปิดยาวเข้าไปหน้าประตู เซลโซ่ บอร์เกส ขึ้นโขกตัดหน้า จานลุยจิ บุฟฟ่อน แต่บอลข้ามคานออกไป

  นาทีที่ 27 โอกาสแรกของทัพอัซซูรี่ มาริโอ บาโลเตลลี่ พักบอลคืนกลับหลังให้ ติอาโก้ ม็อตต้า ได้ยิงด้วยขวาระยะ 20 หลา แต่บอลหลุดกรอบออกไป

  นาทีที่ 31 อิตาลีพลาดโอกาสทองอย่างเหลือเชื่อ อันเดรีย ปีร์โล่ วางบอลยาวให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตู แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

  ถัดจากนั้นสองนาที ทีมอัซซูรี่ ได้โอกาสอีกครั้งจากลูกยิงของ มาริโอ บาโลเตลลี่ คนเดิมแต่ เคย์เลอร์ นาวาส ยังล้มตัวเซฟไว้ได้

  นาทีที่ 36 ทีมกล้วยหอม โต้กลับมาบ้าง คริสเตียน โบลันญอส ลากบอลหน้าเขตโทษก่อนกดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งจะเสียบโคนเสาอยู่แล้ว แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ

  คอสตาริกา เริ่มครองเกมบุกได้มากขึ้น นาที่ที่ 41 ไบรอัน รุยซ์ ตักบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ออสการ์ ดูอาร์เต้ ได้โหม่งแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

  นาทีที่ 44 ความพยายามของทีมกล้วยหอม มาประสบความสำเร็จ จูเนียร์ ดิอาซ เปิดบอลเข้าไปที่เสาสอง ไบรอัน รุยซ์ วิ่งสอดเข้าไปโขกคนเดียวโล่งๆ บอลพุ่งเช็ดคานเข้าประตูให้  คอสตาริกา ออกนำ 1-0

  หมดครึ่งเวลาแรก อิตาลี เป็นฝ่ายตามหลัง คอสตาริกา 0-1

   กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง อิตาลีแก้เกมส่ง อันโตนิโอ คาสซาโน่ ลงสนามไปแทน ติอาโก้ ม็อตต้า

  ทีมอัซซูรี่ เดินหน้าบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 52 อันเดรีย ปีร์โล่ ได้ซัดฟรีคิกระยะ 20 หลา บอลพุ่งเข้าหาประตูแต่
เคย์เลอร์ นาวาส พุ่งปัดไว้ได้

   นาทีที่ 55 เชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซือทีมชาติอิตาลีตัดสินใจเปลี่ยนเอา ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ลงไปแทน อันโตนิโอ คันเดรว่า

   นาทีที่ 67 คอสตาริกา เปลี่ยนเอา เยลต์ซิน เตเฮด้า ออกและส่ง โฮเซ่ มิเกล กูเบโร่

   นาทีที่ 69 มาริโอ บาโลเตลลี่ โดนใบเหลืองหลังไปเล่นนอกเกมใส่ จูเนียร์ ดิอาซ

   นาทีที่ 70 ทัพอัซซูรี่ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง อเลสซิโอ แชร์ชี่ ลงไปเล่นแทน เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ

   นาทีที่ 71 โฮเซ่ มิเกล กูเบโร่ ที่เพิ่งลงสนามมาก็โดนใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ผู้เล่นอิตาลี

   นาทีที่ 75 ทีมกล้วยหอม เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองโดยถอดเอา โจเอล แคมป์เบลล์ ออกและส่ง มาร์โก อูเรนย่า ลงสนามแทน

   นาทีที่ 81 คอสตาริกา เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายโดยส่ง แรนดอลล์ เบรเนส ลงไปเล่นแทน ไบรอัน รุยซ์

  นาทีที่ 88 อิตาลี ได้ลุ้นตีเสมอจากลูกเตะมุม อเลสซิโอ แชร์ชี่ เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู อันโตนิโอ คาสซาโน่ พยายามแหย่ขาแต่โดนไม่เต็มบอลออกหลังไป

  จบเกม คอสตาริกา เป็นฝ่ายเอาชนะ อิตาลี ไปได้แบบเหลือเชื่อ 1-0 เก็บ 6 คะแนนเต็ม ผ่านเข้ารอบแน่นอนแล้ว แถมทำให้อังกฤษต้องตกรอบแรกไปโดยปริยาย

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

 อิตาลี (4-1-4-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน, อินยาซิโอ อบาเต้, อันเดรีย บาร์ซายี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, มัตเตโอ ดาร์เมียน, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันโตนิโอ คันเดรว่า, ติอาโก้ ม็อตต้า, อันเดรีย ปีร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, มาริโอ บาโลเตลลี่

 เทรนเนอร์ : เชซาเร่ ปรันเดลลี่

 คอสตาริกา (5-4-1) : เกย์ลอร์ นาวาส, คริสเตียน กัมบัว, ออสการ์ ดูอาร์เต้, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ไมเคิ่ล อูมานญ่า, จูเนียร์ ดิอาซ, ไบรอัน รุยซ์, เยลต์ซิน เตเฮด้า, เซลโซ่ บอร์เคส, คริสเตียน โบลันญอส, โจเอล แคมป์เบลล์

 เทรนเนอร์ : ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้

 ผู้ตัดสิน : เอนริเก้ ออสเซส (ชิลี)