หลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ทั้ง 64 นัดผ่านไปเกินครึ่งทาง ใครบ้างที่อาจไม่ได้อยู่ในสายตาของแฟนลูกหนังส่วนใหญ่ แต่กลับกลายเป็นสตาร์ที่คนพูดถึงกว้างขวางไปแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้

โซฟิยาน เฟกูลี - แอลจีเรีย

จอมทัพจากบาเลนเซียถือเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของทีมชาติแอลจีเรียอย่างแท้ จริง หลังบงการเกมแดนกลางได้อย่างโดดเด่นและมีส่วนสร้างสรรค์เกมรุกของทีมแทบทุก จังหวะจนพาบ้านเกิดมีลุ้นผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เจ้าตัวโชว์ความพริ้วหลอกล่อนักเตะเกาหลีใต้ซะหัวหมุน พร้อมพาทีมเก็บชัยชนะอย่างสวยงามด้วยสกอร์ 4-2 เชื่อเหลือเกินว่าเขาต้องตกเป็นเป้าเสริมทัพของบิ๊กทีมในยุโรปแน่นอนในช่วง หน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง
 

กิลเยร์โม โอชัว - เม็กซิโก

หากพูดถึงสุดยอดโกลในเวิล์ด คัพครั้งนี้ทุกสายต่างจับจ้องไปที่ธิโบต์ กูร์ตัวส์, อิเกร์ กาซิยาสหรือจานลุยจิ บุฟฟอน แต่นายทวารที่กำลังจะไร้สังกัดรายนี้กลับทำผลงานได้อย่างโดดเด่นหลังโชว์ผล งานระดับมาสเตอร์พีชในเกมที่ช่วยให้เม็กซิโกยันเสมอทีมเจ้าภาพไปได้อย่าง เหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นช็อตการป้องกันลูกโหม่งเนย์มาร์, การชาร์จจ่อๆของเปาลินโญ เป็นต้น ความยอดเยี่ยมของเขาในเกมพบบราซิลการันตีคุณภาพด้วยภาพ Meme มากมายในโซเชียลเน็ตเวิร์ค หลังฟอร์มระดับพระกาฬที่ส่งผลให้เจ้าภาพเก็บได้แต้มเดียวในเกมนั้น

เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ - ไนจีเรีย

แม้จะดับสนิทในเกมวิ่งชนกำแพงหินแห่งเอเชียอย่างอิหร่าน แต่ในเกมกับบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ต้องบอกว่าเป็นหนังคนละม้วน กองหน้าตีนจรวดจากเฟเนร์บาห์เชฉีกกราบซ้ายบอสเนียฯเป็นชิ้นๆ ตลอด 90 นาที แม้ไม่ใช่ผู้ทำประตู แต่ก็จ่ายให้ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ ปิดบัญชีแบบเด็ดขาด จากนี้ไป หมายเลข 9 แห่งทัพอินทรีมรกตจะถูกจับตาและจับตายในทุกเกมที่ลงสนาม - ถ้าจับได้ทัน

แซร์จ ออริเยร์ - ไอวอรีโคสต์

แบ็คขวาจากลีกน้ำหอมตกเป็นเป้าเสริมทัพของหลายทีมในยุโรปมาพักใหญ่ แต่คงไม่ค่อยมีใครคาดคิดว่าเจ้าตัวจะโดดเด่นถึงขนาดนี้ในทีมที่เต็มไปด้วย สตาร์อย่างดิดิเยร์ ดร็อกบา, วิลเฟรด โบนี หรือยายา ตูเร ออริเยร์กลายเป็นแบ็คขวาที่มีส่วนสำคัญต่อเกมรุกของไอวอรีโคสต์อย่าง ยิ่งยวด และเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นแบ็คขวาที่โชว์ฟอร์มดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์จนถึง นาทีนี้ จากที่เคยเนื้อหอมอยู่แล้ว คิดว่าคราวนี้สโมสรตูลูสคงต้องรับโทรศัพท์กันสายไหม้ทีเดียวจากการโทรมา ทาบทามของยอดทีมทั่วยุโรป

ดาลีย์ บลินด์ - ฮอลแลนด์

จากคุณพ่อผู้เป็นตำนานแนวรับของอาแย็กซ์สู่ลูกที่เป็นแบ็คซ้ายดาวรุ่งผู้ เปิดบอลให้ทีมชาติฮอลแลนด์ถึงสองประตูในเกมถล่มสเปนยับเยิน บลินด์คือตัวอย่างของแบ็คซ้ายที่เข้าใจเกมเป็นอย่างดี ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือการเปิดบอลจากด้านข้างที่แม่นยำ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการจะเป็นฟูลแบ็คที่ดีต่อไปในอนาคตอันใกล้

ทิม เคฮิลล์ - ออสเตรเลีย

ด้วยวัย 34 ปี ไม่ต้องให้ใครมาบอกก็คงทราบกันดีว่าเคฮิลล์กำลังอยู่ในช่วงปลายของชีวิตค้า แข้ง หลายคนอาจตราหน้าเขาว่าหมดน้ำยาแล้วสำหรับเวลาขนาดใหญ่ระดับบอลโลก แต่จากฟอร์มการเล่นทั้ง 2 นัดที่เขาลงสนามพบชิลีและฮอลแลนด์คงต้องพูดว่าไม่ใช่เลย เจ้าตัวทำได้นัดละหนึ่งประตูและสร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังของสองทีมที่ ถล่มสเปนหมดท่าจนระส่ำระส่ายด้วยตัวคนเดียว แม้ทีมจิงโจ้จะต้องกลับบ้านแบบไร้แต้มติดมือ แต่นี่คือฟอร์มชิ้นโบว์แดงของเคฮิลล์ที่จารึกไว้ได้อย่างภาคภูมิในประวัติ ชีวิตนักเตะอันโชกโชนของเขา

ฮวน กัวดราโด้ - โคลอมเบีย

ความหวังสูงสุดของโคลอมเบียก่อนทัวร์นาเมนต์ที่บราซิลจะเริ่มต้นคือราดา เมล ฟัลเกา ก่อนที่ดาวยิงโมนาโกจะบาดเจ็บและมอบภาระดังกล่าวให้เจมส์ โรดริเกวซ ซึ่งทำผลงานโดดเด่นได้ตามที่ชาวโคลอมเบียคาดหวังเอาไว้ แต่ต้องยอมรับว่าฝีเท้าอันจัดจ้านของตัวริมเส้นจากฟิออเรนตินารายนี้มีส่วน ช่วยแบ่งเบางานของโรดริเกวซได้มากทีเดียว ด้วยการทำไปแล้วถึง 3 แอสซิสต์ กับอีก 1 ประตู และเป็นกำลังสำคัญในการป่วนแนวรับของทุกทีมที่ต้องเผชิญกับความเร็วและคล่อง แคล่วของเจ้าตัว

แกรี เมเดล - ชิลี

แฟนบอลคงติดตาบทบาทกองกลางตัวรับขาโหดของแข้งรายนี้ แต่ใครจะรู้ว่าเขากลับซ่อนความสามารถอันยอดเยี่ยมในการเล่นเป็นเซ็น เตอร์ฮาล์ฟอยู่ด้วย เมเดลถูกจับมาเล่นเป็นปราการหลังตัวกลางในบอลโลกหนนี้และก็ทำผลงานได้อย่าง ไร้ที่ติ ความสูงเพียง 172 ซม.ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการตามประกบกองหน้าที่รูปร่างสูงใหญ่เลย เขายกระดับการเล่นของตัวเองจนกลายเป็นเสาหลักในแนวรับของชิลี โดยเฉพาะเกมชนะสเปน 2-0 เขาสามารถหยุดแนวรุกอันจัดจ้านของแชมป์เก่าจนอยู่หมัด ดีไม่ดีศึกจบเวิลด์คัพเจ้าตัวอาจจะหันไปเอาดีกับตำแหน่งกองหลังตัวกลางอย่าง ถาวรเลยก็เป็นได้

เอนเนอร์ วาเลนเซีย - เอกวาดอร์

เมื่อเอ่ยชื่อ วาเลนเซีย หากไม่ใช่แฟนบอลเอกวาดอร์ตัวยง คงแทบไม่มีใครนึกถึงเอนเนอร์ เพราะอันโตนิโอผู้มีนามสกุลเหมือนกันจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่า แต่เมื่อฟุตบอลโลกเริ่มต้นเอนเนอร์ก็แสดงให้วงการลูกหนังได้รับรู้ทันทีว่า เอกวาดอร์ไม่ได้มีวาเลนเซียเดียว ด้วยการทำถึง 3 ประตูแล้ว จากการลงสนาม 2 นัด และเป็น 1 ใน 6 นักเตะจนถึงตอนนี้ของเวิลด์คัพ 2014 ที่เป็นรองดาวซัลโวด้วยจำนวน 3 ประตู

โจเอล แคมป์เบล - คอสตาริกา

จากทีมม้านอกสายตา สู่แชมป์กลุ่มแห่งความตายที่มีทั้งอุรุกวัย, อิตาลี และอังกฤษ คอสตาริกาทำผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับการขนานนามว่า เป็นม้ามืดตัวจริงเสียงจริงไปแล้ว และสำหรับกองหน้าคนสำคัญของทีมอย่างโจเอล แคมป์เบล ฟอร์มอันโดดเด่นที่ป่วนแนวรับของอุรุกวัยจนเละไม่เป็นขบวนก็ทำให้เขาได้รับ การพูดถึงจากแฟนบอลมากมายเพียงชั่วข้ามคืนทีเดียว