อุรุกวัยไร้ซัวเรซ!ส่งฟอร์ลันซัดปะเดือดโคลอมเบีย
28/06/2014 ขอบคุณ siamsport
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2557
โคลอมเบีย - อุรุกวัย
สนาม : เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า, ริโอ เด จาเนโร
ศึกสายเลือดอเมริกาใต้คู่ที่สอง เป็นการพบกันระหว่าง โคลอมเบีย กับ อุรุกวัย
โคลอมเบีย ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายมาแบบสบายๆ ด้วยชัยชนะ 3 นัดรวด เหนือ กรีซ 3-0, ไอวอรี่โคสต์ 2-1 และ ญี่ปุ่น 4-1 เป็นทีมอันดับ 1 กลุ่มซี
เจมส์ โรดริเกซ เพลย์เมคเกอร์คนดัง ทำ 3 ประตูจากทุกนัด ทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดของทีมชาติในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ เบร์นาร์โด้ เรดิน กับ อดอลโฟ่ วาเลนเซีย ทำไว้ 2 ประตูด้วย
โฮเซ่ เปเกร์มัน เทรนเนอร์ของทีม มีปัญหาสภาพทีมเพียงคนเดียวคือ คาร์ลอส บักก้า ศูนย์หน้าจาก เซบีย่า เจ็บกล้ามเนื้อขาต้องรอทดสอบความฟิต
เปเกร์มัน จะเรียกตัวหลักหลายคนที่ได้พักในเกมกับ ญี่ปุ่น กลับคืนตัวจริง อาทิ แนวรับ ฮวน คามิโล่ ซุนญิก้า, คริสเตียน ซาปาต้า และ มาริโอ เยเปส
แดนกลางทั้ง คาร์ลอส ซานเชซ และ อเบล อากีลาร์ ส่วนแนวรุก เจมส์ โรดริเกซ, วิคเตอร์ อิบาร์โบ และหน้าเป้า เตโอฟิโล่ กูเตียร์เรซ น่าคืนตัวจริงทั้งหมด
ฝั่ง อุรุกวัย ของเทรนเนอร์ ออสการ์ ตาบาเรซ มาเร่งเครื่อง 2 นัดหลัง ชนะ อังกฤษ 2-1 และชนะ อิตาลี 1-0 เก็บ 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 กลุ่มดี
ตาบาเรซ เจอข่าวร้ายจากนัดก่อน หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งเจอโทษแบนยาว 9 นัด พร้อมห้ามยุ่งเกี่ยวกับเกมฟุตบอลอีก 4 เดือน ข้อหากัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ แม้ อุรุกวัย ยื่นเรื่องอุทธรณ์แล้ว แต่ ฟีฟ่า ยืนยันไม่มีผลให้เกมนี้กลับมาใช้งาน ซัวเรซ ได้อยู่ดี
การจัดทัพต้องตัดสินใจว่าจะเรียก มักซี่ เปเรร่า แบ็กขวากลับมาเป็นตัวจริงหรือไม่ หลังพ้นโทษแบนแล้ว แต่ยังนั่งสำรองในนัดล่าสุดที่ชนะ อิตาลี
แนวรับอาจเรียก ดิเอโก้ ลูกาโน่ กัปตันทีมตัวจริง กลับมาประสานงานกับ ดิเอโก้ โกดิน โดยมี มาร์ติน คาเซเรส กับ อัลวาโร่ เปเรร่า เป็นฟูลแบ็กสองฝั่ง
แดนกลางก็อาจไม่ปรับจากนัดก่อนที่ใช้ อัลวาโร่ กอนซาเลซ, เอกิดิโอ อเรวาโล่ ริออส, คริสเตียน โรดริเกซ และ นิโกลัส โลเดโร่ ประสานงานร่วมกัน
แดนหน้า เอดินสัน คาวานี่ ต้องกลายเป็นตัวความหวังสูงสุด ส่วนตัวแทน ซัวเรซ ต้องเลือกระหว่าง ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ตัวเก๋า หรือ คริสเตียน สตูอานี่
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคลอมเบีย : ดาวิด ออสปิน่า, ฮวน ซุนญิก้า, คริสเตียน ซาปาต้า, มาริโอ เยเปส, ปาโบล อาร์เมโร่, คาร์ลอส ซานเชซ, อเบล อากีลาร์, ฮวน กวาดราโด้, เจมส์ โรดริเกซ, วิคเตอร์ อิบาร์โบ, เตโอฟิโล่ กูเตียร์เรซ
อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลร่า, มาร์ติน คาเซเรส, ดิเอโก้ ลูกาโน่, ดิเอโก้ โกดิน, อัลวาโร่ เปเรร่า, อัลวาโร่ กอนซาเลซ, เอกิดิโอ อเรวาโล่ ริออส, คริสเตียน โรดริเกซ, นิโกลัส โลเดโร่, ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (คริสเตียน สตูอานี่), เอดินสัน คาวานี่
ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
แข้งอุรุกวัยไม่อยากเล่นประชดฟีฟ่า
แหล่งข่าววงในระบุว่า ทีมชาติอุรุกวัย อาจพิจารณาไม่ลงเล่นเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ โคลอมเบีย ที่สนาม เอสตาดิอู ดู มาราคาน่า วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ เพื่อประท้วงที่ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าคนเก่งของทีมโดนลงโทษหนัก
วิคกี้ ดาบีย่า นักข่าวชาวโคลอมเบีย เปิดเผยว่า ลูกทีมของกุนซือ ออสการ์ ตาบาเรซ ไม่พอใจมาก ที่ ซัวเรซ โดนโทษแบนหนักแบบนี้ จนคิดที่จะไม่ลงเล่นเกมกับ โคลอมเบีย โดย ดาบีย่า โพสต์ผ่าน ทวิตเตอร์ ว่า "ตัวแทนของ อุรุกวัย บอกว่านักเตะของพวกเขาถึงขั้นคิดที่จะไม่ลงเล่นเลยด้วย หลังจากเกิดบทลงโทษของ ซัวเรซ"
อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธลงสนามอาจเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น เพราะหาก อุรุกวัย ทำจริง อาจเจอบทลงโทษจาก ฟีฟ่า หนักกว่ากรณี ซัวเรซ
เยเปสเน้นโคลอมเบียห้ามประมาท
มาริโอ เยเปส เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติโคลอมเบีย กำชับเพื่อนร่วมทีมว่า ไม่ควรประมาทและต้องให้ความเคารพต่อคู่แข่ง อุรุกวัย ซึ่งจะต้องดวลกันในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนนี้
โคลอมเบีย เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม ซี ด้วยการเก็บ 9 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 3 นัด ส่วน อุรุกวัย มาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ดี หลังจากที่ปราบ อิตาลี 1-0 ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
"ผมเชื่อว่า อุรุกวัย เป็นคู่แข่งที่หินมาก และควรที่จะได้รับการเคารพเหมือนกับที่เราให้ความยำเกรงกับคู่แข่งในกลุ่ม ของเรา พวกเขาเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่กว่าเรา แต่เราก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเพื่อรับมือกับพวกเขา เพราะเมื่อมาถึงรอบแบบนี้มันไม่มีการแก้ตัว" เยเปส วัย 38 ปี กล่าว
- คู่นี้เคยเจอกันเพียงครั้งเดียวในฟุตบอลโลก โดยทีมจอมโหดแซงชนะ 2-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม 1962 และยังเป็นหนเดียวที่โคลอมเบียเจอคู่แข่งร่วมทวีปในรายการนี้ด้วย
- อุรุกวัยชนะถึง 6 จาก 8 เกมหลังที่พบโคลอมเบีย (เสมอ 1 แพ้ 1)
- ทีมจอมโหดเคยชนะคู่แข่งร่วมทวีป 5 นัดรวดในฟุตบอลโลก ก่อนพ่ายใน 2 เกมล่าสุด (บราซิล 1970 และอาร์เจนตินา 1986)
- 9 เกมหลังสุของคู่นี้ผลิตสกอร์รวมถึง 32 ลูก เฉลี่ย 3.6 ประตูต่อนัด
- โคลอมเบียผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากปี 1990 ที่จอดป้ายด้วยน้ำมือแคเมอรูน (แพ้ 1-2 ช่วงต่อเวลาพิเศษ)
- นอกจากนี้ โคลอมเบียยังจบแชมป์กลุ่มเป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลก
- โคลอมเบียเก็บชัยไปแล้ว 3 นัด เท่ากับที่เคยทำได้ตลอด 13 เกมฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
- โคลอมเบียยิงในฟุตบอลโลกหนนี้มากกว่าทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านๆ มา (9 ประตูจาก 3 เกม)
- 9 จาก 11 ประตูหลังสุดของโคลอมเบียในฟุตบอลโลกเกิดขึ้นในครึ่งหลัง
- นี่คือครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่อุรุกวัยผ่านรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก (2010, 2014) เป็นครั้งแรกที่ทำได้นับตั้งแต่ช่วงปี 1986-90
- อุรุกวัยได้แชมป์โลกทั้ง 2 หนที่เตะในทวีปอเมริกาใต้ (1930, 1950)
- อุรุกวัยทำประตูได้ตลอด 9 เกมฟุตบอลโลกที่ผ่านมา นับตั้งแต่เสมอฝรั่งเศส 0-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม 2010
- ฮาเมส โรดริเกซ จอมทัพโคลอมเบีย ยิง 3 จ่ายอีก 2 จาก 225 นาทีที่ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ เฉลี่ยยิงหรือจ่ายทุกๆ 45 นาที และมีส่วนร่วมทำประตูมากที่สุดให้ทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ด้วย (5)
- นอกจากนั้น โรดริเกซ ยังทำสกอร์ได้ตลอด 5 เกมหลังสุดให้โคลอมเบียด้วย
- 3 ประตูหลังสุดของ ดีเอโก้ โกดิน กองหลังอุรุกวัย ล้วนเกิดขึ้นในเกมสำคัญ ไล่ตั้งแต่ช่วยแอตเลติโก มาดริด ตีเสมอบาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลา ลีกา, เกมชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก พบเรอัล มาดริด และประตูชัยเฉือนอิตาลีพาจอมโหดเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
- หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงอุรุกวัยที่โดนแบนยาวไปแล้ว เคยพลาดลงเล่น 2 นัดในฟุตบอลโลก ผลปรากฎว่าทีมแพ้ทั้ง 2 นัด (ฮอลแลนด์ในรอบตัดเชือก 4 ปีก่อน และคอสตาริกาในเกมเปิดรอบแบ่งกลุ่มหนนี้)
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3