(รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2557

บราซิล   -   ชิลี

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports, (เวลา: 23.00 น.)

สนาม: เอสตาดิอู มิไนเรา, (เบโล โอรีซอนชี, บราซิล)

 หลุยซ์ เฟลีเป้ สโคลารี่ กุนซือมือฉมังของทีมชาติบราซิล พาทีมเข้าป้ายด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเอ. ในรอบแบ่งกลุ่ม ได้ตามเป้าหมาย โดยนัดล่าสุดถล่ม แคเมอรูน ไปเละเทะ 4-1 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากการเหมาทำคนเดียวสองประตูของเนย์มาร์ ที่เหลือเป็น เฟร็ด และ แฟร์นานดินโญ่

 ความพร้อมทั่วไปนั้น แซมบ้า ต้องรอเช็ค ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังจอมลุยที่มีอาการบาดเจ็บหลัง แต่ไม่หนักอะไร ลงเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา

 นอกจากนั้นยังได้ตัว ฮัล์ค แนวรุกคนเก่งจากสโมสรเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาลงสนามได้แล้วในเกมเจอกับทีมหมอผี

 รูปแบบการเล่นใช้สูตร 4-2-3-1 เหมือนเคย วาง ดาเนียล อัลเวส, ดาวิด ลุยซ์, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม) และ มาร์เซโล่ วิเอยร่า ลงประจำการต้านเกมรุกคู่แข่ง

 ขุมกำลังในแดนกลาง ลุยซ์ กุสตาโว่ เป็นตัวหลักแน่ๆ แต่อีกคนอาจเป็น แฟร์นานดินโญ่ ได้โอกาสลงก่อน เปาลินโญ่

 แนวรุกจัดจ้านทีเดียวมี เนย์มาร์ ดาวยิง 4 ประตูที่จะฟื้นจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ได้รับมาในเกมกับ แคเมอรูน นั้น ลงทำเกมรุกร่วมกับ ฮัล์ค และ ออสการ์ ช่วยกันปั้นเกมให้กับ เฟร็ด ดาวยิงที่ยังฟอร์มฝืดนั้น เข้าทะลวงตาข่าย 

 ทางด้าน ชิลี ของ ฮอร์เก้ ซามปาโอลี่ เล่นได้ดีเหลือเกินในรอบแบ่งกลุ่มต้อน ออสเตรเลีย 3-1 ก่อนจะทุบ สเปน แชมป์เก่าไป 2-0 ก่อนพ่ายให้กับ ฮอลแลนด์ ในนัดสุดท้าย 0-2 แต่ก็เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาด้วยการเป็นทีมอันดับสองของกลุ่ม บี. มาเจอกับ บราซิล ชาติเจ้าภาพ

 เกมนี้ ชิลี จะได้ตัว อาร์ตูโร่ วิดัล กองกลางคนสำคัญของทีมที่ไม่ได้เล่นในเกมแพ้ ฮอลแลนด์ ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม นั้น กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ทำให้ เฟลิเป้ กูเตียร์เรซ จะต้องกลับไปเป็นสำรอง

 ข่าวดีเพิ่มเติมคือจะได้ตัว ชาร์ลส์ อรานกิซ มิดฟิลด์ตัวกลั่นหายเจ็บเข่าขวาเป็นปลิดทิ้งแล้วลงคุมเกมร่วมกับ มาร์เซโล่ ดิอาซ ได้อย่างไม่มีปัญหา

 แผงหลังสามรายให้ กอนซาโล่ ฮาร่า, การี เมเดล, ฟรานซิสโก้ ซิลวา ผนึกกำลังกัน โดยมี
เมาริซิโอ อิสล่า กับ อูเคนิโอ เมน่า รับบทบาทวิงแบ็ค

 คู่หน้าอันตรายทีเดียวเมื่อได้ อเล็กซิส ซานเชซ ลงล่าตาข่ายกับ เอดูอาร์โด้ วาร์กัส ซึ่งทั้งคล่องและมีความเร็วทั้งคู่ 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

 บราซิล: ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดาเนียล อัลเวส, ดาวิด ลุยซ์, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลุยซ์ กุสตาโว่, แฟร์นานดินโญ่ - ฮัล์ค, ออสการ์, เนย์มาร์ - เฟร็ด

 ชิลี: เคลาดิโอ บราโว่ (กัปตันทีม) - กอนซาโล่ ฮาร่า, การี เมเดล, ฟรานซิสโก้ ซิลวา - เมาริซิโอ อิสล่า, ชาร์ลส์ อรานกิซ, มาร์เซโล่ ดิอาซ, อูเคนิโอ เมน่า - อาร์ตูโร่ วิดาล - อเล็กซิส ซานเชซ, เอดูอาร์โด้ วาร์กาส

 ผู้ตัดสิน: ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)

- บราซิลชนะตลอด 3 เกมที่พบชิลีในฟุตบอลโลก เป็นรอบน็อกเอาต์ทั้งหมด (รอบรองชนะเลิศ 1962, รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1998 และ 2010)
- ชิลีเสียประตูรวมถึง 11 ลูกจากทั้ง 3 เกมดังกล่าวที่เจอบราซิลในฟุตบอลโลก เฉลี่ย 3.7 ประตูต่อนัดเลยทีเดียว
- เอดูอาร์โด้ วาร์กัส กองหน้าชิลี ยิงได้ทั้ง 2 นัดหลังสุดที่เจอบราซิล รวมถึงในเกมกระชับมิตรที่เบโล โอริซอนชีเมื่อเดือนเมษายน 2013
- บราซิลยิง 2 ประตูขึ้นไปตลอด 9 เกมหลังสุดที่พบชิลี รวมทั้งสิ้น 32 ลูก (3.6 ต่อนัด)
- เนย์มาร์ ดาวยิงบราซิล จารึกสถิติเป็นคนยิงประตูที่ 100 ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ (จากประตูแรกชนะแคเมอรูน 4-2) ในเกมที่ 100 ของบราซิลในประวัติศาสตร์เวิลด์ คัพ
- เวลานี้ เนย์มาร์ ยิงไป 4 จาก 3 เกมฟุตบอลโลก รวมถึงทำ 8 ประตูจาก 6 นัดหลังสุดให้บราซิล
- 4 จากทั้งหมด 5 ประตูของชิลีในฟุตบอลโลกหนนี้เกิดขึ้นในครึ่งแรก ส่วนอีกลูกนั้นทำได้ในนาทีที่ 90
- ชิลีตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายตลอดฟุตบอลโลก 2 ครั้งหลัง ด้วยน้ำมือบราซิล (1-4 ปี 1998 และ 0-3 เมื่อ 4 ปีก่อน)
- บราซิลผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายตลอด 5 ทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ยิงรวม 13 ไม่เสียประตูถึง 4 ครั้งด้วยกัน
- ครั้งสุดท้ายที่ทัพเซเลเซาตกรอบนี้ต้องย้อนไปเมื่อ 1990 โดยแพ้รองแชมป์อย่างอาร์เจนตินา 0-1
- นับรวมแล้ว บราซิลแพ้แค่หนเดียวเท่านั้นจาก 10 เกมฟุตบอลโลกที่เจอคู่แข่งร่วมทวีปอเมริกาใต้ (ชนะ 8 เสมอ 1)
- ชิลีพ่ายเรียบทั้ง 4 เกมที่เจอคู่แข่งร่วมทวีปในฟุตบอลโลก โดย 3 ในนั้นเป็นการพบบราซิล
- ชิลีไม่เคยบุกชนะบราซิล (เสมอ 6 แพ้ 20)
- ทีมแซมบ้าไม่แพ้ในบ้าน 40 เกมติดต่อกันแล้ว นับตั้งแต่โดนปารากวัยพลิกเชือด 1-0 ในเกมกระชับมิตรเดือนสิงหาคม 2002