ปอนด์ต่อปอนด์ : เบลเยี่ยม v สหรัฐฯ

01/07/2014 ขอบคุณ siamsport

Tags: โปรตุเกส ภาพ ผู้รักษาประตู กุนซือ แอลจีเรีย เบลเยี่ยม สหรัฐฯ พรีเมียร์ลีก เจอร์เมน โจนส์

วันสุดท้ายของรอบ 16 ทีมสุดท้ายในการหาทีมเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนั่ล "ทีมรวมดาราพรีเมียร์ลีก" อย่าง เบลเยียม ที่ชนะมา 3 เกมติด เตรียมบดกับ สหรัฐฯ ใครมีข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหนบ้าง เชิญทัศนากันได้เลย...

เบลเยียม

ขุมกำลัง

ผู้รักษาประตู (8.8)
นี่คือหนึ่งในนายทวารดาวรุ่งที่เหนียวที่สุดของโลกอย่างไม่ต้องสงสัยแม้ว่าในรอบแรกเจ้าตัวจะไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย

ประตูเดียวที่มือกาวตัวยืมจาก แอต.มาดริด เสียไปเกิดขึ้นจากจังหวะจุดโทษตั้งแต่ในเกมกับ แอลจีเรีย

นอกจากนี้ในจังหวะต่างๆ เกมกับ รัสเซีย หรือ เกาหลีใต้ หากลูกยิงไม่เยี่ยมยอดจริงๆ ก็ยากที่จะผ่านมือของนายทวารรายนี้

กองหลัง (8)
เหนียว แน่นมากๆ เพราะ มาร์ค วิลม็อตส์ ใส่เซนเตอร์ฮาล์ฟอาชีพลงยืนเป็นแบ็กโฟร์ทั้ง 4 ราย โดยขยับ ยาน แฟร์ต็องเก้น หรือ โธมัส แฟร์มาเล่น มาเล่นเป็นแบ็กซ้าย

ขณะที่ แบ็กขวาพวกเขาใช้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก แอต.มาดริด มายืน ยิ่งตัวกลางไปๆ มาๆ ดาเนียล ฟาน บุยเต็น ใช้ประสบการณ์ที่ล้นเหลือจับคู่กับ แว็งซ็อง ก็อมปานี ได้เป็นอย่างดี

อย่าง ไรก็ตามจุดอ่อนของแนวรับชุดนี้คือเมื่อพวกเขาจับเซนเตอร์ฯ มายืนเป็นแบ็กก็ต้องมีอาการขัดเขินไม่ธรรมชาติเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเกมรุก หรือเกมรับ

กองกลาง (7.8)
ถือว่าผ่านแบบไม่สุดๆ ทำไมถึงไม่สุดทั้งๆ ที่ชนะ 3 เกมรวด ?

ประเด็น คือ วิลม็อตส์ เองก็ยังหาจุดที่ลงตัวไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะใช้ใครเป็นแกนหลักดี ในเมื่อแต่ละคนต่างมีจุดเด่นคนละแบบ

ทั้ง มารูอาน เฟลไลนี่, สตีเว่น เดอฟูร์, อั๊กเซิ่ล วิตเซิ่ล และมูซ่า เดมเบเล่ ที่ต้องเลือกใช้งานเพียงแค่ 2 ราย

อย่างไรก็ตามเป็นปัญหาที่เทรนเนอร์หลายๆ คนชื่นชอบกับการมีผู้เล่นตำแหน่งเดียวกันคอยแย่งกันทำผลงานเพื่อเป็นตัวจริง

กองหน้า (7.6)
ถือว่าแปลกๆ เหมือนกันหากพูดแนวรุกของพวกเขาเมื่อมีทั้ง เอแด็น อาซาร์ กับ โรเมลู ลูกากู อยู่ในทีม

ผลงานรอบแรกยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น และเกมรุกเองก็ไม่ได้วูบวาบหวังผลได้ตลอดทั้ง 3 เกมเสียด้วย

อย่าง ไรก็ตามหากพลิกสถิติดูแล้วตั้งแต่รอบคัดเลือก เบลเยียม ไม่ใช่ทีมที่ยิงประตูถล่มทลายอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นพวกที่ดูแต่ชื่อแล้วหวังว่าทีมจะยิงเยอะคงต้องคิดใหม่

ปัญหาตอนนี้อยู่ที่ ลูกากู ยังไม่ได้ง้างยิงเลยตลอด 2 เกมแรกที่รับโอกาสลงสนาม ขณะที่ อาซาร์ ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม

เมื่อรอบลึกๆ มาถึง แม้เกมรับจะเหนียวแน่น แต่ถ้าเกมรุกไม่ทำงาน ก็เหนื่อยเอาเรื่องหากหวังที่จะเข้ารอบ

ขุมกำลังสำรอง (8.3)
จุด ที่ดีที่สุดของ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" คือ ขุมกำลังสำรองที่จับต้องได้ ดูดีมีอนาคต และมีให้ วิลม็อตส์ ได้หยิบเลือกตามแท็คติกที่ต้องการ

ซิ มง มินโญเล่ต์ พร้อมรบหาก กูร์กตัวส์ เจ็บ ข้างหน้ามีทั้ง ดิว็อค โอริชี่ ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบน, เควิน มิรัลลาส, อั๊ดนาน ยานูไซ หรือ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ก็พร้อมเปลี่ยนเกม

ในรอบแรก เบลเยียม เป็นทีมที่ได้ประตูจากผู้เล่นสำรองมากที่สุดหากคิดตามเปอร์เซ็นต์ถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว (3 จาก 4) และนั่นคือความยอดเยี่ยมของขุมกำลังสำรองพวกเขา

เทรนเนอร์ (7.2)
อาจ จะยังไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด แถมการแก้เกมเปลี่ยนตัวผู้เล่นลงมาทั้งสองเกมแรกยังทำให้ทีมได้ 3 คะแนน กระนั้นเรายังบอกไม่ได้ว่า วิลม็อตส์ เก่งจริง

หากดูจากอะไหล่ที่ เจ้าตัวมีอยู่ในมือ เราอาจจะบอกได้ว่า ถ้า เบลเยียม ชุดนี้อยู่ในมือกุนซือระดับพระกาฬ ทีมอาจจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตัวสำรองเพื่อมาพลิกเกมเหมือนที่ผ่านๆ มา

แท็คติกในช่วงออกสตาร์ตเกมแต่ละนัดของ วิลม็อตส์ เน้นหนักไปที่การเพลย์เซฟมากเกินไป ขณะเดียวกันหากตัวหลักเล่นไม่ออกพร้อมกันก็เป็นหน้าที่ของเขาในการกระตุ้น ลูกทีมมากกว่าที่เป็นอยู่

รวมคะแนน : 47.5

ผลงานรอบแรก
ลงสนาม 3 นัด ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ยิงได้ 4 เสีย 1

17/06/14 ชนะ แอลจีเรีย 2-1

22/06/14 ชนะ รัสเซีย 1-0

26/06/14 ชนะ เกาหลีใต้ 1-0

***********************************************************

สหรัฐฯ

ขุมกำลัง

ผู้รักษาประตู (8.3)
เหนียวหนึบเป็นตังเมสำหรับ "ที-โฮ" นายทวารจาก เอฟเวอร์ตัน กับฟอร์มในรอบแรกทั้ง 3 นัด แม้เสียไปถึง 4 ประตูก็เถอะ

ฟอร์มในเกมที่เสมอกับ โปรตุเกส ถือว่าเฉียบขาดบาดใจมากๆ เช่นเดียวกับเกมแรกที่เซฟจนทีมเอาชนะ กาน่า มาได้

ด้วย อายุอานามที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าช่างสวนทางกับปฏิกริยาอันรวดเร็วแบบเหลือเชื่อ และนั่นทำให้เกมรับของ "พญาอินทรี" มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง

กองหลัง (7.2)
เป็นทีมที่เน้นหนักในเรื่องวินัยในการเล่นไม่เฉพาะแค่กับกองหลังเท่านั้น แต่ว่าเล่นเกมรับทั้งทีมจะเล่นร่วมกันทั้งหมด

ขณะเดียวกันฟอร์มของ แม็ตต์ เบสเลอร์ ในทัวร์นาเมนต์นี้ถือว่าแจ้งเกิดได้อีกราย และอนาคตของเขาไม่น่าจะอยู่ในเมเจอร์ลีกได้อีก

นอกจากนี้ทั้งแบ็กขวา-ซ้าย ที่เล่นกลางมาก่อนทั้ง ฟาเบียน จอห์นสัน และดามาคัส บีสลี่ย์ ก็ช่วยเกมรับได้อย่างไม่มีเคอะเขิน

กองกลาง (7.4)
เป็นอีกหนึ่งแดนที่ สหรัฐฯ เล่นออกมาในเวิลด์ คัพ ยอดเยี่ยมทีเดียว โดยเฉพาะเกมเพรสซิ่งไล่กดดันคู่ต่อสู้ที่ไปกันเป็นแผงแบบยกทีม

ไคล์ เบ็คเกอร์มัน คอยสกรีนอยู่หน้าคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ และเขาก็ทำงานของเขาได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง

เช่น เดียวกับ เจอร์เมน โจนส์ ที่ตัดเกมช่วยปัดกวาด และทำตัวเป็นลูกหาบที่ดีให้กับ ไมเคิ่ล แบร๊ดลี่ย์ ที่กลายเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนของทีมเรียบร้อย

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในเกมรุกที่มาจากแดนกลางพวกเขาต้องทำให้ได้มากกว่านี้ เช่นในเกมกับ โปรตุเกส ที่ควรจะปิดงานได้แล้ว

กองหน้า (7.3)
อาจ จะไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนกับทีมอื่นๆ แถมยังเสีย โจซี่ อัลติดอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บ ทว่า คลินท์ เดมซี่ย์ ก็ก้าวขึ้นมารับบทบาทของทีมได้อย่างไร้ที่ติ

ในวันที่ไม่มี แลนดอน โดโนแวน แล้ว แถม อัลติดอร์ เจ็บ ทำให้ "กัปตันอเมริกา" ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกของทีมอย่างสมบูรณ์

ซึ่ง จากที่ผ่านๆ มาประสบการณ์ความเก๋า และความขยันของเจ้าตัวช่วยทีมได้เยอะมาก ที่สำคัญ เดมซี่ย์ ไม่หวงบอล และเล่นเป็นทีม แถมยังปลุกเร้าเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี

ขุมกำลังสำรอง (6.9)
แม้ว่า ทั้ง โอมาร์ กอนซาเลซ และจอห์น บรู๊คส์ สองเซนเตอร์ฮาล์ฟสำรองจะทำหน้าที่ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ แกรม ซูซี่ ที่พร้อมจะเป็นอะไหล่ได้ทุกตำแหน่ง

กระนั้นเมื่อลองไล่ เรียงชื่อเสียงเรียงยามและประสิทธิภาพแล้ว หากพวกนี้เล่นไม่ออก นักเตะอย่าง คริส วอนโดลอฟสกี้, อารอน โยฮันสสัน หรือ มิกซ์ ดิสเคอรุด คงหวังผลให้กับทีมยาก

เทรนเนอร์ (7.9)
ไม่ใช่ แค่ในเรื่องของ "คลินซี่" คนเดียวเท่านั้น แต่ต้องให้เครดิตทีมสตาฟฟ์โดยรวมที่ช่วยกันสร้าง สหรัฐฯ ชุดนี้ขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม

วันที่ตัดสินใจหั่นชื่อ โดโนแวน ออกจากทีม "กุนซือฉลามขาว" เจอแต่เสียงโห่ระงม ทว่าวันนี้เขาตอบคำถามเหล่านั้นได้หมดแล้ว

ใน รอบแรกหากไม่นับทีมใหญ่ๆ แล้ว ทีมเล็กที่เล่นได้อย่างเป็นระบบระเบียบ และน่าดูที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด คือ "พญาอินทรี" ในมือของเทรนเนอร์เยอรมันทีมนี้นี่เอง

และนั่นคือเครดิตของเขา รวมถึงทีมงานแบบเต็มๆ

รวมคะแนน : 45