(รอบ 8 ทีมสุดท้าย)

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2557

ฮอลแลนด์  -  คอสตาริกา

ถ่ายทอดสด : ช่อง 7, ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), TV One Indo, Astro SuperSports (เวลา : 03.00 น.)

สนาม: อาเรน่า ฟอนเต้ โนว่า, ซัลวาดอร์

 "ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน" รองแชมป์โลก ปี 2010 โชว์ฟอร์มหรูในรอบแบ่งกลุ่ม เก็บชัย 3 นัดรวดเหนือสเปน 5-1, ออสเตรเลีย 3-2 และชิลี 2-0 เก็บ 9 คะแนนเต็ม ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มบี ขณะที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเบียดเอาชนะ เม็กซิโก มาได้หวุดหวิด 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากจุดโทษของ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์

 หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ดัตช์แมน มีปัญหาให้ปวดหัวเพียบ รายแรกคือ ไนเจล เด ยอง กองกลางฮาร์ดแมน ได้รับบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ระหว่างเกมล่าสุด ซึ่งผลการสแกน MRI ยืนยันว่าต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว 2-4 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย ทำให้หมดสิทธิ์กลับมาช่วยทีมในทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว

 ขณะที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้ากัปตันทีม ได้รับบาดเจ็บอย่างต้นขาซ้าย ในระหว่างการซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันพุธ ต้องรอเช็กอาการกันอีกครั้ง เช่นเดียวกับ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ที่เจ็บหลัง ทำได้เพียงซ้อมเบาๆ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

 การจัดทัพเกมนี้ การขาดหายไปของ เด ยอง จะขยับ ดาลีย์ บลินด์ จากริมเส้นมาไล่ตัดเกมตรงกลาง พร้อมส่ง เดิร์ค เค้าท์ เล่นในตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายแทน ขณะที่ฝั่งขวา ดารีล ยันมาต น่าจะเบียด พอล แฟร์ฮาก กลับมาเป็นตัวจริงได้อีกครั้ง

 ส่วนตรงกลาง จอร์จินิโอ ไวนัลดุม ที่เล่นได้ดีในเกมล่าสุด น่าจะยึดตำแหน่งนี้ต่อไป เกมรุก สไนเดอร์ น่าจะฟิตทันมาปั้นเกมอยู่หลังคู่หน้า อาร์เยน ร็อบเบน และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โดยหา อาร์วีพี ไม่ไหวจริงๆ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ จะเสียบแทน

 ด้าน ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ เทรนเนอร์ "กล้วยหอม" กลายเป็นทีมจอมเซอร์ไพรส์ประจำศึกเวิลด์ คัพ คราวนี้ เมื่อรอบแรกเอาชนะ อุรุกวัย, อิตาลี และเสมอ อังกฤษ จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ตามด้วยกำชัยเหนือ กรีซ ด้วยการดวลจุดโทษในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

 อย่างไรก็ตาม สภาพทีมมีปัญหาเล็กน้อย เมื่อ ออสการ์ ดูอาร์เต้ ติดโทษแบน หลังโดนใบแดงไล่ออกในแมตช์ที่แล้ว ทำให้คาดว่าจะเป็น จอห์นนี่ อคอสต้า ที่ได้รับหน้าที่แทน ขณะที่ รอย มิลเลอร์ เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย คงต้อง

พลาดเกมเช่นกัน

 รายของ เคย์เลอร์ นาวาส และ โจเอล แคมป์เบลล์ ที่เดี้ยงเล็กน้อย น่าจะผ่านความฟิตลงเล่นได้ ส่วนตัวหลักอื่นยังอยู่กันครบทั้ง จูเนียร์ ดิอาซ, เซลโซ่ บอร์เคส, คริสเตียน โบลันโญส และ ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีม

 ผู้รักษาประตูเป็น เคย์เลอร์ นาวาส กองหลังไล่เรียงจากขวาไปซ้ายเป็น คริสเตียน กัมบัว, จอห์นนี่ อคอสต้า, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ไมเคิ่ล อูมันญ่า และ จูเนียร์ ดิอาซ

 เซลโซ่ บอร์เคส ประสานงานแดนกลางกับ เยลต์ซิน เตเฮด้า ริมเส้นยังเป็น ไบรอัน รุยซ์ และ คริสเตียน โบลันโญส ทิ้ง โจเอล แคมป์เบลล์ ไว้เป็นหน้าตัวเดียวเหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 ฮอลแลนด์ (3-4-1-2) : ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น - รอน ฟลาร์, สเตฟาน เด ฟราย, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ - ดารีล ยันมาต, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ดาลี่ย์ บลินด์, เดิร์ค เค้าท์ -  เวสลี่ย์ สไนเดอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์)

 คอสตาริกา (5-4-1) : เคย์เลอร์ นาวาส - คริสเตียน กัมบัว, จอห์นนี่ อคอสต้า, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ไมเคิ่ล อูมันญ่า, จูเนียร์ ดิอาซ - ไบรอัน รุยซ์, เซลโซ่ บอร์เคส, เยลต์ซิน เตเฮด้า, คริสเตียน โบลันโญส - โจเอล แคมป์เบลล์



 ผู้ตัดสิน: ราฟชาน อิมาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

- ฮอลแลนด์ชนะ 10 จากเกมฟุตบอลโลก 11 นัดหลัง ยกเว้นแค่ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 4 ปีก่อน (แพ้สเปนช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1)
- คอสตาริกาไม่แพ้ฟุตบอลโลก 4 นัดติดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (ชนะ 2 เสมอ2)
- ทีมกล้วยหอมเป็นชาติแรกจากโซนคอนคาเคฟนับตั้งแต่สหรัฐฯ ปี 2002 ที่มาไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ
- นี่คือการพบกันครั้งแรกระหว่างทั้งสองทีม
- ฮอลแลนด์กลับมาชนะได้ถึง 4 นัดที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังในฟุตบอลโลกหนนี้ (90 นาทีไม่รวมต่อเวลา)
- ฮอลแลนด์ได้ประตูจากผู้เล่นถึง 7 คนในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อาร์เยน ร็อบเบน, สเตฟาน เดอ ฟราย, เมมฟิส เดปาย, ลีรอย เฟอร์, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ และ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์)
- ทัพอัศวินสีส้มไม่เคยแพ้ทีมคอนคาเคฟในฟุตบอลโลก (ชนะ 1 เสมอ 1 ทั้งหมดเจอกับเม็กซิโก)
- คอสตาริกาชนะทีมยุโรปแค่ครั้งเดียวเท่านั้นจาก 7 นัดหลัง (เสมอ 3 แพ้ 3) แต่ชัยชนะดังกล่าวคือเกมเฉือนอิตาลี 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา
- คอสตาริกายิงไม่ได้แค่เกมเดียวเท่านั้นจาก 9 นัดหลังสุดฟุตบอลโลกที่เจอทีมยุโรป (เสมออังกฤษ 0-0 ในนัดส่งท้ายกลุ่ม ดี)
- เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ยิงไป 5 จากเกมฟุตบอลโลก 5 นัดหลังในรอบน็อกเอาต์
- สไนเดอร์ ทำสถิติเป็นนักเตะดัตช์ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุด (15 นัด)
- ฮอลแลนด์เสียประตูตลอดเกมน็อกเอาต์ฟุตบอลโลก 11 นัดหลัง หรือนับตั้งแต่เกมที่เสมอไอร์แลนด์ 0-0 ก่อนชนะจุดโทษเมื่อปี 1994
- ไบรอัน รุยซ์ กัปตันคอสตาริกา ยิงตาข่ายกรีซในรอบที่แล้วจากโอกาสส่องตรงกรอบหนเดียวเท่านั้น
- เกย์ลอร์ นาวาส โกลคอสตาริกา เซฟจังหวะยิงถึง 87.5 เปอร์เซ็นต์ในฟุตบอลโลกหนนี้ (14 ครั้ง)