7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >

เมมฟิส เดอปาย - อาวุธลับทัพ "กังหันลม"

05/07/2014 ขอบคุณ rakball.net

 
นับว่าขยับเข้าใกล้การเป็นแชมป์โลกสมัยแรกเข้าไปทุกขณะสำหรับ ฮอลแลนด์ ภายใต้การนำทัพของ หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์มือทอง หลังเดินหน้ามาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 แล้วในเวลานี้


 ฮอลแลนด์ โชว์ฟอร์มหรูด้วยการฟาดชัย 4 เกมรวด กดไปทั้งสิ้น 12 ประตู ทำให้พวกเขาทำสถิติรัวประตูมากที่สุดในเวลานี้สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้
 
 แนว รุกอันฉกาจฉกรรจ์ของ ฮอลแลนด์ เป็นผลมาจากแท็กติก 5-3-2 ของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่ดัน อาร์เยน ร็อบเบน ขึ้นไปเป็นกองหน้าแบบเต็มตัวโดยจับคู่กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โดยก็ถือว่าเข้าคู่กันได้ดีหลังซัดไปแล้วคนละ 4 และ 3 เม็ดตามลำดับ
 
 อย่างไรก็ดี หากจะมองลึกลงไปแล้วในสิ่งที่เกิดขึ้นกับ "อัศวินสีส้ม" จนถึงเวลานี้ ก็จะพบว่า เมมฟิส เดอปาย ปีกวัยกระเตาะจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มีบทบาทสำคัญไม่แพ้ ร็อบเบน และ "อาร์วีพี" เลย
 
 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงท้ายเกม เดอปาย ที่เป็นหนึ่งใน 2 สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในทัพ "กังหันลม" ชุดฟุตบอลโลก 2014 กลายเป็นตัวทีเด็ดมาแล้วหลายต่อหลายครั้งด้วยผลงาน 2 ประตูและ 1 แอสซิสต์จาก 3 นัดที่ผ่านมา
 
 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มกับ ออสเตรเลีย เจ้าหนูวัย 20 ปี ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก ขณะที่สกอร์เสมอกันที่ 1-1
 
 แม้ จะโดน มิเล่ เยดินัค ยิงจุดโทษให้ "ซอคเกอรูส์" แซงนำเป็น 2-1 แต่ เดอปาย รับบทซูเปอร์ซับด้วยการแทงบอลทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปยิงประตูตีเสมอ ก่อนส่องไกลเสียบตาข่ายเป็นประตูชัยให้ ฮอลแลนด์ พร้อมการันตีตั๋วสู่รอบน็อคเอาท์ทันที
 
 เกมต่อมากับ ชิลี เป็นการตัดสินแชมป์ประจำกลุ่ม บี โดยผ่านไปแล้ว 69 นาที สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 ทำให้ ฟาน กัล ส่งไพ่เด็ดอย่าง เดอปาย ลงสนามอีกครั้ง และเจ้าหนูรายนี้ก็ไม่ทำให้ นายใหญ่วัย 62 ปี ต้องผิดหวัง เมื่อทำให้แนวรุกของ "กังหันลม" วูบวาบขึ้นมาทันตาเห็นก่อน เลอรอย เฟอร์ โหม่งประตูเบิกร่องและ เดอปาย ชาร์จระยะเผาขนเป็นประตูปิดกล่องคว้าชัยไปนิ่มๆ 2-0 ช่วยให้พวกเขาเข้าไปเจอกับ เม็กซิโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
 
 มาถึงนัด สำคัญกับ "จังโก้" ฮอลแลนด์ โดนนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้ ฟาน กัล ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เดอปาย ลงมาโหมจังหวะในการทำเกมรุก แม้เจ้าตัวจะไม่มีผลงานแบบรูปธรรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญช่วยให้ "อัศวินสีส้ม" ยิง 2 ประตูรวดแซงคว้าชัยได้อีกครั้ง
 
 เดอปาย เป็นตัวพลิกเกมคนสำคัญของ ฟาน กัล เนื่องจากถูกใช้เป็นตัวเบี้ยในการปรับแผนจาก 5-3-2 เป็น 4-3-3 เพื่อเพิ่มความเร็วในเกมรุก รวมทั้งสร้างความสับสนให้คู่แข่ง
 
 นอก จากนี้ การส่ง เดอปาย ถือเป็นการเล่นงานแนวรับคู่แข่งที่กำลังอ่อนเปลี้ยหลังกรำศึกมาแทบทั้งเกม แล้ว ส่วนเจ้าหนูตีนจรวดยังฟิตเปรี๊ยะพร้อมพากองหลังพาทัวร์อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
 
 ทั้ง นี้ 4-3-3 นับเป็นแผนการเล่นหลักของ ฮอลแลนด์ ในช่วงฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์กลุ่ม ดี ด้วยผลงานสะท้านยุโรป ชนะ 9 เสมอ 1 จาก 10 นัด รัวไป 34 เสียไปเพียง 5 ประตูเท่านั้น และเป็นแท็กติกสุดโปรดของ ฟาน กัล ตั้งแต่ครั้งกุมบังเหียน อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อช่วงปี 1991-1997 แล้ว
 
 สำหรับการปรับ เปลี่ยนตำแหน่งระหว่างเกมสำหรับแท็กติกดังกล่าวก็มักจะโยก บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ไปเป็นแบ็กซ้าย ส่วน ดาลี่ย์ บลินด์ ที่รับบทวิงแบ็กซ้าย จะขยับเข้าไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรับเหมือนที่ประจำการยามลงเล่นในสีเสื้อ อาแจ็กซ์
 
 ส่วนแนวรุก อาร์เยน ร็อบเบน ถ่างออกไปลากเลื้อยทางขวา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ประจำการหน้าเป้า ส่วนฝั่งซ้ายก็จะเป็นพื้นที่ของ เดอปาย ให้ฉายแสงในช่วงท้ายเกม โดยมี เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมจากแดนกลาง
 
 เดอปาย พกสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับ ร็อบเบน กล่าวคือชอบเลี้ยงบอลจากพื้นที่ตัวเองแล้วตัดเข้ากลางก่อนยิงด้วยเท้าขวา ข้างถนัด นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดช่องให้ มาร์ตินส์ อินดี้, บลินด์ รวมถึงแบ็กซ้ายคนอื่นๆ เติมเกมมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายด้วย
 
 การเล่น แบบนี้เห็นชัดจากเกมกับ ออสเตรเลีย โดย เดอปาย ลากบอลจากซ้ายตัดเข้ากลางก่อนซัดไกลส่งบอลกระดอนพื้นผ่านมือ แม็ทธิว ไรอัน ตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด
 
 ส่วนประตูในเกมกับ ชิลี แสดงให้เห็นถึงสปีดอันจัดจ้านของ เดอปาย ที่วิ่งควบตั้งแต่ครึ่งสนามในจังหวะที่ ร็อบเบน กระชากขึ้นไปทางซ้าย ก่อนได้แปง่ายๆหน้าประตู
 
 ขณะที่ ร็อบเบน และ ฟาน เพอร์ซี่ เป็นกุญแจสำคัญในระบบ 5-3-2 แต่ถ้าปรับมาเป็น 4-3-3 แล้ว ต้องยอมรับว่า เดอปาย มีความสำคัญไม่แพ้ 2 หัวหอกรุ่นพี่เลย เนื่องจากเจ้าตัวได้ใช้ความเร็วไล่กดดันคู่แข่งตั้งแต่หน้าเขตโทษเลย
 
 เด อปาย สวมบทซูเปอร์ซับให้เห็นจนชินตาใน เวิลด์ คัพ หนนี้ โดยการเปลี่ยนเจ้าตัวลงสนามไปนั้นส่วนใหญ่เป็นการปรับแท็กติกไปเลย ไม่ใช่เปลี่ยนแบบตำแหน่งต่อตำแหน่งแต่อย่างใด
 
 นั่นเป็น เหตุผลว่าทำไม ฟาน กัล มักจับ เดอปาย ส่งลงสนามเป็นตัวสำรองอันดับแรกยามต้องการอ็อปชั่นเสริมในแนวรุกแทนที่จะ เป็น คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ และ เยเรเมน เลนส์ แต่ เดอปาย จะได้ใช้ไม้ตายของตัวเองในเกมกับ คอสตาริกา อีกหรือเปล่า ต้องถาม ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ และพลพรรค "กล้วยหอม" แล้วล่ะว่าจะยอมง่ายๆหรือไม่

ข่าวฮอต
  ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
  • ตารางคะแนน
  • ดาวซัลโว
    • A
    • B
    • C
    • D
    • E
    • F
    • G
    • H
  • เรียงลำดับ นักฟุตบอล ทีม ประตูรวม(จุดโทษ)
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
  • ปี
  • ชนะเสิศ
  • รองชนะเสิศ
  • อันดับ 3