มาคราวนี้ที่มีร่างทรงของ "เสือเตี้ย" อย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ซึ่งเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของทัพฟ้า-ขาวตลอด 4 เกมจะทำได้ดีเทียบเท่า ไอดอล ของเขาแค่ไหน
 

 อาร์เจนติน่า

 ผู้รักษาประตู (7.2)
 เซร์คิโอ โรเมโร่ อาจจะเป็นนายทวารของทีมใหญ่ ทว่าเขาไม่ใช่ประตูที่ไว้ใจได้สักเท่าไหร่ ช็อตซูเปอร์เซฟจังๆ แทบไม่มี
 
 3 ประตูที่เสียไปในรอบแรกต้องโทษว่าแนวรับก็มีส่วน ทว่าจริงๆ แล้วการเป็นนายทวารจากสโมสรใหญ่เขาควรทำอะได้ไม่กว่านี้
 
 โรเมโร่ อาจจะไม่ได้ทำให้ทีมเสียหายอะไรเมื่อเล่นได้ตามมาตรฐาน แต่หากเจอเกมหนักๆ อาจมีปัญหาได้

 กองหลัง (7.3)
 จุด อ่อนที่สุดสำหรับ "เต็งสอง" จากดินแดนฟ้า-ขาว เมื่อกองหลังอย่าง เฟเดริโก้ เฟอร์นานเดซ หรือ มาร์กอส โรโฮ ชั้นบอลยังไม่ถึงระดับสโมสรใหญหรือนานาชาติ
 
 ราย ของ เอเซเกล การาย ยังถือว่าเป็นกองหลังมีชื่อ ทว่าเจ้าตัวก็ช้าเหลือเกิน เช่นเดียวกับสองรายที่ว่ามาก่อนหน้านี้ ส่วน ปาโบล ซาบาเลต้า ก็เหมือนเล่นดีแค่กับระดับสโมสร

 กองกลาง (7.4)
 ใช้แดนกลางไม่มากนักสำหรับทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า เมื่อคู่กลางของทีมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคอยทำหน้าที่ตัดเกมเท่านั้น
 
 งานหนักของ ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ และเฟอร์นานโด กาโก้ อยู่ที่ชะลอเกมรุกของคู่ต่อสู้อยู่ตรงกลางสนามเท่านั้น
 
 เกมรุกไม่ต้องไปพูดถึง 2 รายนี้แทบจะเรียกได้ว่าเล่นไม่เป็นเลย และในยามที่ทีมต้องการประตู รายใดรายหนึ่งจะโดนถอดออก

 กองหน้า (9.5)
 แนว รุกที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของทัวร์นาเมนต์ ไม่ใช่เพราะ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย หรือเอเซเกล ลาเวซซี่
 
 แต่ เพราะ อาร์เจนติน่า ชุดนี้มี ลีโอเนล เมสซี่ คอยชำเราคู่แข่งนั่นเอง และตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จาก 4 เกมแรกคงบ่อบอกอะไรได้ดี
 
 นี่ คือ นักเตะที่สามารถแบกทีมได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว และกับทีมชาติบ้านเกิดเที่ยวนี้ เมสซี่ เล่นเกินร้อยทุกนัด และเริ่มท็อปฟอร์มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละนัดที่ผ่านไปให้กับ อาร์เจนติน่า
 
 ซัดประตูที่สองในเวิลด์ คัพ เกมกับ บอสเนียฯ, ยิงประตูชัยในวินาทีสุดท้ายกับ อิหร่าน และกระทุ้งอีก 2 รวมถึงฟรีคิกใส่ ไนจีเรีย
 
 ข้อเสียอย่างเดียว คือ ความหวังของอาร์เจนไตน์ชนอยู่ที่ เมสซี่ เกินไปเท่านั้น และทำให้เขาต้องรับภาระหนัก

 ขุมกำลังสำรอง (6.8)
 ถือว่าไม่ได้เรื่องสำหรับพลพรรค "อัลบิเซเลสเต้" ชุดนี้เมื่อบรรดากำลังสำรองของทีมดูไม่ค่อยโอเท่าไหร่ และประสิทธิภาพน้อย
 
 ทั้ง โฮเซ่ บาซานต้า กับ มาร์ติน เดมิเคลิส ในตำแหน่งกองหลังก็หมดสภาพแล้ว กองกลาง อกุสโต้ เฟอร์นานเดซ หรือ เอ็นโซ่ เปเรซ ก็เกรดบอลธรรมดาๆ
 
 ขณะที่แนวรุกอ่ย่าง โรดริโก้ ปาลาซิโอ กับ มักซี่ โรดริเกซ ก็ไม่ไหว

 เทรนเนอร์ (7)
 แค่การเลือกตัวผู้เล่นก็ไม่เข้าท่าแล้วสำหรับเทรนเนอร์รายนี้ ยิ่งฟอร์มที่ออกมาตลอด 4 เกมไม่มีนัดไหนที่น่าประทับใจเอาเสียเลย
 
 ซาเบย่า ไม่ได้แก้เกมอะไรให้ทีมดีขึ้นเลย แต่เป็น เมสซี่ ต่างหากที่พาทีมขึ้นมาจากเหวในแต่ละนัดด้วยความสามารถเฉพาะตัว
 
 เกมล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ซาเบย่า ไม่มีกึ๋นในการแก้เกมทั้ง ที่ สวิตเซอร์แลนด์ แทบไม่มีอาวุธตอบโต้อะไร

 รวมคะแนน : 45.2

 ผลงานรอบแรก 
 ลงสนาม 3 นัด ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ยิงได้ 6 เสีย 3
 15/06/14 ชนะ บอสเนียฯ 2-1
 21/06/14 ชนะ อิหร่าน 1-0
 25/06/14 ชนะ ไนจีเรีย 3-2

 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
 01/07/14 เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0 (ชนะต่อเวลาพิเศษ 1-0)

 อัตราต่อรองแชมป์โลกล่าสุด : เต็ง 2 ราคา 4/1 (แทง 1 จ่าย 4 ไม่รวมทุน) จาก สกาย เบท

 ********************************************

 เบลเยียม

 ผู้รักษาประตู (8.8)
 นี่คือหนึ่งในนายทวารดาวรุ่งที่เหนียวที่สุดของโลกอย่างไม่ต้องสงสัยแม้ว่าในรอบแรกเจ้าตัวจะไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย
 
 ประตูเดียวที่มือกาวตัวยืมจาก แอต.มาดริด เสียไปเกิดขึ้นจากจังหวะจุดโทษตั้งแต่ในเกมกับแอลจีเรีย
 
 นอก จากนี้เกมล่าสุดกับ สหรัฐฯ แม้ทีมจะเป็นฝ่ายบุกอย่างหนัก แต่ในยามโดนโต้ขึ้นมาเจ้าตัวก็ช่วยชีวิตทีมเอาไว้หลายรอบ โดยเฉพาะการออกมากดดันปิดมุมช่วงทดเจ็บ

 กองหลัง (8.6)
 ยิ่ง เล่นยิ่งเหนียวแน่นมากๆ เพราะ มาร์ค วิลม็อตส์ ใส่เซนเตอร์ฮาล์ฟอาชีพลงยืนเป็นแบ็กโฟร์ทั้ง 4 ราย โดยขยับ แยน แฟร์ต็องเก้น หรือ โธมัส แฟร์มาเล่น มาเล่นเป็นแบ็กซ้าย 
 
 ขณะที่ แบ็กขวาพวกเขาใช้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก แอต.มาดริด มายืน ยิ่งตัวกลางไปๆ มาๆ  ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น ใช้ประสบการณ์ที่ล้นเหลือจับคู่กับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ได้เป็นอย่างดี
 
 จุด อ่อนเดียวของแนวรับชุดนี้คือเมื่อพวกเขาจับเซนเตอร์ฮาล์ฟ มายืนเป็นแบ็กก็ต้องมีอาการขัดเขินไม่ธรรมชาติเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเกมรุก หรือเกมรับ

 กองกลาง (7.8)
 ถือ ว่าผ่านแบบไม่สุดๆ เพราะ ประเด็น คือ วิลม็อตส์ เองก็ยังหาจุดที่ลงตัวไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะใช้ใครเป็นแกนหลักดี ในเมื่อแต่ละคนต่างมีจุดเด่นคนละแบบ
 
 ทั้ง มารูยาน เฟลไลนี่, สตีเว่น เดอฟูร์, อั๊กเซิ่ล วิตเซิ่ล และมูซ่า เดมเบเล่ ที่ต้องเลือกใช้งานเพียงแค่ 2 ราย ทว่าจริงๆ แล้วทั้งหมดก็ไม่ได้ช่วยเหลือเกมรุกอะไรของทีมมากมาย

 กองหน้า (8.2)
 กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งทั้ง เอแด็น อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู ที่ในรอบที่ผ่านมาเริ่มเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
 
 ผลงานรอบแรกอาจจะยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น และเกมรุกเองก็ไม่ได้วูบวาบหวังผลได้ตลอดทั้ง 4 เกม
 
 อย่างไรก็ตามหากพลิกสถิติดูแล้วตั้งแต่รอบคัดเลือก เบลเยียม ไม่ใช่ทีมที่ยิงประตูถล่มทลายอะไรอยู่แล้ว
 
 ปัญหา เกมรุกของทีมถูกแก้ไขเรียบร้อยเมื่อทั้ง ดิว็อค โอริชี่ หรือ ลูกากู อยู่ในฟอร์มที่ดี แถม เอแด็น อาซาร์ กลับมาเล่นได้อย่างอันตราย และพวกเขาจะน่ากลัวขึ้นด้วยจุดนี้

 ขุมกำลังสำรอง (8)
 จุด ที่ดีที่สุดของ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" คือ ขุมกำลังสำรองที่จับต้องได้ ดูดีมีอนาคต และมีให วิลม็อตส์ ได้หยิบเลือกตามแท็กติกที่ต้องการ
 
 ซิ มง มินโญเล่ต์ พร้อมรบหาก กูร์กตัวส์ เจ็บ ข้างหน้ามีทั้ง ดิว็อค โอริชี่ ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบน, เควิน มิรัลลาส, อั๊ดนาน ยานูไซ หรือ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ก็พร้อมเปลี่ยนเกม
 
 เบลเยียม ยังเป็นทีมที่ได้ประตูจากผู้เล่นสำรองมากที่สุดหากคิดตามเปอร์เซ็นต์ถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และนั่นคือความยอดเยี่ยมของขุมกำลังสำรองพวกเขา

 เทรนเนอร์ (7.9)
 ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด แถมการแก้เกมเปลี่ยนตัวผู้เล่นลงมาทั้งสี่เกมแรกยังทำให้เรายังบอกไม่ได้ว่า วิลม็อตส์ เก่งจริง
 
 หากดูจากอะไหล่ที่เจ้าตัวมีอยู่ในมือ เราอาจจะบอกได้ว่า ถ้าเบลเยียม ชุดนี้อยู่ในมือกุนซือระดับพระกาฬ น่าจะดีกวา
 
 กระนั้นแท็คติกในเกมกับ สหรัฐฯ และการหนุนหลัง ลูกากู ในช่วงที่ยากลำบากก็ทำให้เขากลับมาเป็นกุนซือที่น่าจับตามองอีกครั้ง

 รวมคะแนน : 47.5

 ผลงานรอบแรก 
 ลงสนาม 3 นัด ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ยิงได้ 4 เสีย 1
 17/06/14 ชนะ แอลจีเรีย 2-1
 22/06/14 ชนะ รัสเซีย 1-0
 26/06/14 ชนะ เกาหลีใต้ 1-0

 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
 01/07/14 เสมอ สหรัฐฯ 0-0 (ชนะต่อเวลาพิเศษ 2-1)

 อัตราต่อรองแชมป์โลกล่าสุด : เต็ง 6 ราคา 20/1 (แทง 1 จ่าย 20 ไม่รวมทุน) จาก สกาย เบท