เมสซี่ vs กูร์กตัวส์ - ยิงหรือเซฟตัดสินชัย
05/07/2014 ขอบคุณ siamsport
อีกหนึ่งความน่าสนใจในแมตช์นี้ คือการประทะกันระหว่างลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมฟ้า-ขาว กับธิโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารดาวรุ่งของทีมปีศาจแดงยุโรป
ดาวยิงจากบาร์เซโล น่า แบกความคาดหวังของทีมอาร์เจนติน่า เอาไว้ ซึ่งเขาทำได้อย่างสุดยอด ในเมื่อซัดไปแล้ว 4 ประตู บวกกับอีกหนึ่งแอสซิสต์ จนทีมทะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้
แต่นัดนี้ บททดสอบของเขาคือการพบกับไม้เบื่อไม้เมา ที่เคยต่อสู้กันมา 10 ครั้ง ตลอดช่วงเวลา 3 ฤดูกาล
นับตั้งแต่นายทวารก้านยาวย้ายจากเชลซี มาร่วมทัพแอต.มาดริด ด้วยสัญญายืมตัวในปี 2011
กู ร์กตัวส์ ยังคงรักษาฟอร์มอันเหนียวหนึบอย่างต่อเนื่องจากผลงานในลา ลีกา ที่พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกา ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ดยเขาออกแรงเซฟให้เบลเยี่ยม 11 ครั้ง ตลอดการเล่น 4 นัดที่ผ่านมา
แม้ ไม่อาจเทียบกับทิม โฮเวิร์ด ที่เซฟ 29 ครั้งตลอดทัวร์นาเมนต์ กระนั้นการเซฟครั้งสำคัญของกูร์กตัวส์ คือการป้องกันลูกยิงของคลินท์ เดมซี่ย์ ในการพบทีมชาติสหรัฐฯ รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา
ผลงานของเมสซี่ ในการเจอกับกูร์กตัวส์ ช่วงแรกถือว่าเริ่ดหรู
ใน เมื่อเขายิง 6 ประตู จากการพบกัน 3 นัดแรก ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการทำแฮตทริก ในครั้งแรก โดยบาร์ซ่า จัดการถล่มเอาชนะทีมตราหมี 5-0 เมื่อเดือนตุลาคม 2011
โดยเฉพาะประตูที่ 3 ในแมตช์นั้นของดาวยิงอันดับ 1 ของโลก ทำให้นายทวารต้องอับอาย
ในเมื่อเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลก 4 สมัย ยิงบอลลอดขากูร์กตัวส์ จากมุมแคบทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษ
ไม่ เพียงแค่นั้น ในการกลับมาพบกันอีกครั้ง ประตูต่อมาของเมสซี่ ยังคงตามหลอกหลอนกูร์กตัวส์ เมื่อปั่นฟรีคิกอันสุดสวยช่วยให้ทีมอาซูลกราน่า บุกเอาชนะตราหมี ที่บิเนเต้ กัลเดรอน 2-1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012
นายด่านเบลเยี่ยม กำลังง่วนกับการจัดระเบียบกำแพง
กระ นั้นเมสซี่ กลับหาโอกาสในเวลาที่นักเตะตราหมีไม่ทันตั้งตัว และไม่เรียกสัญญาณจากผู้ตัดสิน ด้วยการปั่นบอลข้ามกำแพงเข้าตุงตาข่าย โดยที่กูร์กตัวส์ ไม่สามารถป้องกันอะไรได้ นอกจากยืนมองห่างๆ
แล้ว การเจอกันครั้งต่อมา เมสซี่ ยังทำให้กูร์กตัวส์ เจอฝันร้าย เมื่อซัดเบิ้ลให้บาร์ซ่า เปิดคัมป์ นู เอาชนะ 4-1 เมื่อเดือนธันวาคม 2012
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นครั้งล่าสุดที่สตาร์อันดับหนึ่งของโลก สังหารประตูใส่ทีมจากเมืองหลวงได้
เม สซี่ ได้รับบาดเจ็บในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกมลา ลีกา นัดรูดม่านในเดือนพฤษภาคม ก่อนกลับมาลงสนามช่วยต้นสังกัดพบกับทีมตราหมี อีก 6 ครั้งด้วยกันในฤดูกาลก่อน
ทั้งเกมลีกา, เกมโกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเมสซี่ ไม่อาจซัดบอลผ่านมือกูร์กตัวส์ ได้อีก
โอกาส ใกล้เคียงสุดในการส่งบอลผ่านมือกูร์กตัวส์ อีกครั้ง คือเกมนัดที่ 2 ของเกมซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ที่คัมป์ นู ซึ่งเมสซี่ รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ทว่ากลับยิงข้ามคานออกไปดื้อๆ
มันเป็นจุด เริ่มต้นสำหรับความมั่นใจของนายทวารหนุ่ม เพราะหลังจากนั้นเขาป้องกันการยิงของเมสซี่ ทุกครั้ง จนบาร์ซ่า จบฤดูกาลแบบมือเปล่าครั้งแรกในรอบ 6 ปี
หลังจากเจอกับฤดูกาลที่เต็ม ไปด้วยหลากหลายอารมณ์เมื่อซีซั่นที่แล้ว ซึ่งมีทั้งเรื่องราวอาการบาดเจ็บจนต้องพักแข้งไปนาน 2 เดือน เมสซี่ กลับมาร้อนแรงอีกครั้งเมื่อเดือนทางมาเล่นทัวร์นาเมนต์ที่บราซิล
ดาวยิงวัย 27 ปี เป็นหนึ่งในตัวเต็งของการคว้ารางวัลดาวซัลโว หรืออาจรวมถึงนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
เม สซี่ มีประตูตามหลังฮาเมส โรดรีเกซ เพลย์เมกเกอร์ดาวโรจน์ของโคลอมเบีย ที่เป็นผู้นำดาวซัลอยู่แค่ประตูเดียว หากยังคงรักษาฟอร์มแบบนี้ได้ ไม่แน่สิ่งที่ทุกคนคาดหวังคือการเดินตามรอยเท้าของดีเอโก้ มาราโดน่า อาจเป็นจริง
โดยด่านแรกคือการเจอทีมปีศาจแดงแห่งยุโรป
ย้อนกลับไปในเกมรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1986 อาร์เจนติน่า เอาชนะเบลเยี่ยม 2-0
มา ราโดน่า เป็นผู้เหมา 2 ประตูในแมตช์นั้นที่ผ่านมาเกือบ 3 ทศวรรษ โดยเวลานั้นเสือเตี้ย ซัดบอลผ่านมือฌอง-มารี ฟัฟฟ์ นายทวารเบลเยี่ยม ก่อนก้าวไปสู่ความสำเร็จ
ถึงตอนนี้ทั้ง 2 ทีมต้องมาเจอกันอีกครั้ง
เพียงต่อคู่ต่อกรเปลี่ยนไป
มาร์ก วิลม็อตส์ คงต้องหวังพึ่งพานายทวารดาวรุ่งในการรักษาสถิติไม่เสียประตูให้นักเตะอันดับ 1 ของโลกตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา หากต้องการพาทีมกรุยทางสู่รอบรองชนะเลิศ
ขณะเดียวกันเมสซี่ คงหวังจะกลับไปฮอตเหมือนที่ประจันหน้ากับกูร์กตัวส์ ในช่วงแรกๆ
แน่ นอนฟุตบอลไม่ใช่การตัดสินแค่นักเตะ 2 คนในสนามเท่านั้น กระนั้นจากสถิติดังกล่าว น่าสนใจอย่างมาก การเจอกันระหว่างลิโอเนล เมสซี่ กับธิโบต์ กูร์กตัวส์ ที่มีความหลังฝังใจกันอยู่ ใครจะเป็นฝ่ายสุขสมหวังในบั้นปลาย
------------------------------------------------------------------------
ย้อนรอย 6 นัดที่พบกันฤดูกาลก่อน
ลา ลีกา
17 พฤษภาคม 2557
บาร์เซโลน่า 1-1 แอต.มาดริด
เม สซี่ ลงสนามครบทั้ง 90 นาที แต่กลับมีโอกาสยิงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ตรงกันข้ามกับกูร์กตัวส์ ที่เซฟไป 3 ครั้ง และเสียแค่ประตูเดียวให้อเล็กซิส ซานเชซ จนจบด้วยผลเสมอ 1-1 อันส่งให้ทีมตราหมี คว้าแชมป์ลีกา ไปครอง
12 มกราคม 2557
แอต.มาดริด 0-0 บาร์เซโลน่า
อาการ บาดเจ็บลักพาตัวเมสซี่ ไปนาน 2 เดือน ก่อนจะกลับมาช่วยทีมในฐานะตัวสำรองในนัดนี้ กระนั้นการถูกส่งลงเล่นในช่วงครึ่งหลัง เขาไม่อาจพลิกสถานการณ์ช่วยทีมได้ ในเมื่อไม่มีโอกาสยิงให้กูร์กตัวส์ ต้องป้องกันเลย
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
10 เมษายน 2557
แอต.มาดริด 1-0 บาร์เซโลน่า
บาร์ เซโลน่า ต้องกระเด็นตกรอบถ้วยใบใหญ่ของยุโรป เมื่อแพ้ให้ตราหมี ในนัดนี้ โดยตลอดทั้งเกม เมสซี่ มีโอกาสยิง 4 ครั้ง แต่กลับไม่ผ่านการป้องกันของกูร์กตัวส์ เลย จนประตูของโกเก้ เป็นการตัดสินชัยชนะ
1 เมษายน 2557
บาร์เซโลน่า 1-1 แอต.มาดริด
นี่ เป็นอีกครั้งที่เมสซี่ พยายามอย่างมากในการช่วยทีม โดยตลอดทั้งเกมมีโอกาสลุ้นทำประตูถึง 5 ครั้ง กระนั้นถูกปฏิเสธจากนายทวารดาวรุ่งทั้งหมด ก่อนที่ผลจะจบลงด้วยการเสมอโดยทีมเยือนออกนำก่อนจากดีเอโก้ รีบาส ก่อนเนย์มาร์ จะตามตีเสมอได้
ซูเปร์โกปา เดล เอสปันญ่า
29 สิงหาคม 2556
บาร์เซโลน่า 0-0 แอต.มาดริด
ตลอด ทั้งเกมเมสซี่ มีโอกาสยิงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ในจำนวนนั้นคือโอกาสทองจากลูกจุดโทษ กระนั้นกูร์กตัวส์ ไม่จำเป็นต้องออกแรงเซฟแต่อย่างใด ในเมื่อหัวหอกอาซูลกราน่า ซัดบอลข้ามคานออกไป
21 สิงหาคม 2556
แอต.มาดริด 1-1 บาร์เซโลน่า
น่า เหลือเชื่อนัดนี้ทั้งเกม เมสซี่ มีโอกาสยิงประตูแค่ครั้งเดียว และแน่นอนไม่อาจผ่านมือของกูร์กตัวส ไปกองต้นตาข่ายได้ และนี่เองเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นปัญหาฟอร์มฝืดเมื่อต้องโคจรมาพบทีมตราหมี ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา
เครดิต : หนังสือพิมพ์ "สปอร์ตแมน"
ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก
แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
- ปี
- ชนะเสิศ
- รองชนะเสิศ
- อันดับ 3