7MTH.COM
อยู่ที่: หน้าแรก >

ครั้งที่ 8 ฟุตบอลโลก 1966 (ที่ประเทศอังกฤษ)

ฟุตบอลโลก 1966 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 8 ที่จัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษระหว่างวันที่ 11-30 กรกฎาคม ค.ศ. 1966 โดยประเทศอังกฤษได้รับเลือกเป็นประเทศเจ้าภาพจากฟีฟ่าเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1960 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีในการจัดมาตรฐานของฟุตบอลในอังกฤษ ทั้งนี้ทีมชาติอังกฤษชนะการแข่งขัน ชนะทีมชาติเยอมนีตะวันตกไป 4-2 ในรอบตัดสิน ถือเป็นครั้งแรก (และปัจจุบันยังเป็นครั้งเดียว) ที่ทีมชาติอังกฤษชนะการแข่งขันฟุตบอลโลก และยังเป็นประเทศเจ้าภาพที่ชนะการแข่งขันนับตั้งแต่ที่อิตาลีในปี 1934

ศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายที่ประเทศอังกฤษในปี 1966 หรือถ้าจะนับก็ถือว่าเป็นสมัยที่ 8 ในประวัติศาสตร์ลูกหนังโลกนั้น มีเรื่องราวและเหตุการณ์อุบัติขึ้นมากมาย เรียกได้ว่า ถ้าเป็นอาหาร ก็ครบเครื่องเรื่องต้มยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมตช์ชิงชนะเลิศระหว่างทีม "สิงโตคำราม" และทีม "อินทรีเหล็ก" นั้น ได้รับการยกย่องกันมากว่า ตื่นเต้นและเร้าใจมากที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว

ขุนพล "ทรีไลอ้อนส์" ยุคนั้น อยู่ภายใต้การนำของ เซอร์ อัลฟ์ แรมเซย์ ซึ่งเกือบจะไม่ได้มาเป็นผู้จัดการทีมแล้ว หลังจากในทีแรกสมาคมลูกหนังเมืองผู้ดีตั้งใจจะมอบตำแหน่งให้ จิมมี่ อดัมสัน คุมทีม และสำหรับนักเตะที่ แรมเซย์ เลือกมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นหนุ่มไฟแรงด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น บ๊อบบี้ มัวร์, เจฟฟ์ เฮิร์สท์ และมาร์ติน ปีเตอร์ส สามทหารเสือจาก เวสต์แฮม กอร์ดอน แบ๊งค์ส นายทวารมาดนิ่ง จิมมี่ กรีฟส์ ดาวซัลโวแห่งยุค รวมถึงสองพี่น้องตระกูล ชาร์ลตัน อย่าง แจ๊คกี้ และ บ๊อบบี้

ทางด้าน "แชมป์เก่า" บราซิล ค่อนข้างมีปัญหาในการเตรียมทีมพอสมควร เนื่องจากเวลาสำคัญใกล้เข้ามาแล้วยังหาคนมาเป็นกุนซือไม่ได้ จนต้องไปดึงเอา บิเซนเต้ ฟีโอล่า โค้ชที่พาทีมคว้าแชมป์โลกในปี 1958 มากุมบังเหียน ส่วนสภาพทีมโดยรวมก็ไม่สู้ดีนัก แม้ว่าจะมี "ไข่มุกดำ" เปเล่ เป็นดาราชูโรง แต่แกนนำคนอื่นๆ ต่างโรยราลงไปทุกที ทั้ง การ์รินช่า, เบลลินี่ และ ออร์ลันโด้ ทำให้ทีม "แซมบ้า" ต้องเหนื่อยไม่ใช่น้อยในการยกพลบุกเกาะอังกฤษเพื่อไปป้องกันแชมป์คราวนี้

ส่วนทีมอื่นที่น่าจับตามองก็คือ เยอรมันตะวันตก และโปรตุเกส โดย "อินทรีเหล็ก" มาในมาดคล้ายคลึงกับอังกฤษ จากการที่นักเตะสายเลือดใหม่ต่างพาเหรดมีชื่ออยู่ในทีมของ เฮลมุท เชิน กุนซือที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมขนานใหญ่ อาทิเช่น เฮลมุท ฮัลเลอร์, โวล์ฟกัง โอเวอร์รัธ และ "ไกเซอร์หนุ่ม" ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ ขณะที่โปรตุเกสแม้จะไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางนัก แต่ผลงานที่สุดยอดในรอบคัดเลือกบวกกับสไตล์การเล่นอันสะเด่าเร้าใจของ "ไอ้เสือดำแห่งโมซัมบิค" หรือ ยูเซบิโอ แม่ทัพใหญ่ของทีมในขณะนั้น ก็ทำให้ไม่มีทีมใดกล้าประมาทโปรตุเกสเช่นกัน

ผลงานของทีม "เจ้าภาพ" ในการแข่งขันรอบแรกนั้น ไม่ค่อยสวยหรูนัก เมื่อประเดิมสนามทำได้แค่เสมอกับอุรุกวัยไปแบบไร้สกอร์ สร้างความหงุดหงิดให้กับแฟนบอลผู้ดีพอสมควร แต่สองแมตช์ต่อมา "สิงโตคำราม" ก็เริ่มสำแดงเดชด้วยการขยี้เม็กซิโกและฝรั่งเศสลงได้ด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งสองนัด ส่วนสถานการณ์ในกลุ่ม 2 สองยักษ์จากต่างทวีปคือ เยอรมันตะวันตกกับอาร์เจนตินาต่างโชว์ลีลาอัดคู่แข่งราบเป็นหน้ากลองด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีม "อินทรีเหล็ก" นั้น ทำให้หนังสือพิมพ์ทั่วอังกฤษต่างพากันหวาดหวั่นกันว่า พวกเขาจะเข้าชิงชนะเลิศได้โดยไม่ยากเย็น

ข่าวฮอต
  ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

ไม่ฝืน! ฟีร์มิโนเจ็บถอนทัพแซมบ้าชุดคัดบอลโลก

แนวรุกบราซิเลียนของหงส์แดง ตัดสินใ...
  • ตารางคะแนน
  • ดาวซัลโว
    • A
    • B
    • C
    • D
    • E
    • F
    • G
    • H
  • เรียงลำดับ นักฟุตบอล ทีม ประตูรวม(จุดโทษ)
เมือง&สนาม
ชิงอันดับฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
  • ปี
  • ชนะเสิศ
  • รองชนะเสิศ
  • อันดับ 3